“ธีรรัตน์” เรียกประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง ติดตามความพร้อมรับมือสถานการณ์พายุไต้ฝุ่น "คาจิกิ" พร้อมกำชับ 8 แนวทางป้องกันและบริหารจัดการภัยให้เกิดประสิทธิภาพและสร้างความพึงพอใจกับประชาชน

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568   น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามความพร้อมในการรับมืออิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” ที่มีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อหลายจังหวัดภาคเหนือและอีสานตอนบน โดยมีนายเชษฐา โมสิกรัตน์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ทั้งในห้องประชุมและผ่านระบบออนไลน์กับผู้ว่าราชการและรองผู้ว่าราชการในพื้นที่เสี่ยง

ตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา พายุ “คาจิกิ” เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามแล้วเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางราว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนและพายุดีเปรสชัน เคลื่อนเข้าสู่ประเทศลาวและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของไทยในเช้าวันที่ 26 สิงหาคม ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายจังหวัด เช่น บึงกาฬ หนองคาย นครพนม สกลนคร อุดรธานี เลย อุตรดิตถ์ น่าน พะเยา แพร่ เชียงราย และลำปาง

น.ส.ธีรรัตน์ เปิดเผยว่า พล.อ.ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดตั้ง “วอร์รูม” ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมตรวจสอบป้ายขนาดใหญ่ ป้องกันการพังถล่มซ้ำรอยเหตุการณ์ที่ผ่านมา รวมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อป้องกันข่าวปลอมที่อาจสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

ทั้งนี้ รมช.มหาดไทยได้กำชับแนวทางปฏิบัติ 8 ข้อสำคัญ ได้แก่

เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำซาก

จัดเตรียมพื้นที่รองรับน้ำ

ประเมินศักยภาพการระบายน้ำและขอรับการสนับสนุนทันทีหากไม่เพียงพอ

เร่งลงพื้นที่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ลดความกังวลประชาชน

ประชาสัมพันธ์สายด่วน 1784 และช่องทางเพิ่มเติม พร้อมสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง

บูรณาการร่วมทุกภาคส่วนในพื้นที่

วางแผนเส้นทางสำรอง อำนวยความสะดวกการจราจร

ประสานหน่วยงานด้านท่องเที่ยว หากพื้นที่เสี่ยงอันตรายต้องแจ้งเตือนหรือสั่งปิดทันที

“ขอให้ทุกจังหวัดและทุกหน่วยงานคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก รวมถึงดูแลเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่ปฏิบัติภารกิจด้วย” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย