เมื่อเช้าวันที่ 28 สิงหาคม 2568 บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ตึงเครียดอย่างหนัก หลังมีรายงานว่า กลุ่มบุคคล 2 ฝ่าย ได้แก่ “แก๊งน้ำไม่อาบ” และ “กัน จอมพลัง” พร้อมกองเชียร์จำนวนมาก กำลังเคลื่อนไหวในพื้นที่พิพาทชายแดน

เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ทั้งชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) อาสาสมัคร อสบ. ตำรวจ และทหารกองกำลังบูรพา ต้องเร่งตั้งด่านตรวจเข้มงวดตามเส้นทางเข้าสู่หมู่บ้าน เพื่อป้องกันการเผชิญหน้าที่อาจลุกลาม ขณะเดียวกัน ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงปักหลักรวมตัว แสดงพลังปกป้องผืนแผ่นดินไทยอย่างไม่ถอย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ประเมินว่า หากทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันโดยตรง อาจกลายเป็น “ชนวนร้อน” ก่อให้เกิดเหตุปะทะได้ จึงมีการจับตาใกล้ชิด และยืนยันว่าจะใช้ทุกมาตรการเพื่อคุมสถานการณ์ไม่ให้กระทบต่อความสงบเรียบร้อยชายแดน

“โล่มนุษย์นำทหาร” สัญญาณสงครามเบ็ดเสร็จ?

นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงชี้ว่า สถานการณ์บ้านหนองจานสะท้อนให้เห็นว่า สิ่งที่กัมพูชากำลังดำเนินการ ไม่ใช่เพียง “สงครามลูกผสม” (Hybrid Warfare) ที่ผสมผสานการรบทางทหาร กองโจร การโจมตีไซเบอร์ และการโฆษณาชวนเชื่อ แต่กำลังขยับไปสู่ “สงครามเบ็ดเสร็จ” (Total War) ตามแนวคิดของเอริช ลูเดนดอร์ฟ นักทฤษฎีสงครามชื่อดัง

ความแตกต่างสำคัญ

สงครามไฮบริด: ใช้หลายวิธีผสมกัน ทั้งการรบด้วยกำลังทหาร การบิดเบือนข้อมูล การกดดันทางเศรษฐกิจ–การทูต เป้าหมายคือบ่อนทำลายศัตรูโดยไม่จำเป็นต้องเปิดสงครามเต็มรูปแบบ

สงครามเบ็ดเสร็จ: ใช้ทรัพยากรทั้งหมดของชาติ ไม่เหลือเส้นแบ่งระหว่างทหารกับประชาชน สังคมทั้งมวลต้องสนับสนุนการทำสงคราม โดยมีเป้าหมายเพียง “ชัยชนะเด็ดขาด” ไม่ใช่การเจรจาประนีประนอม

กรณี “โล่มนุษย์นำทหาร” ที่บ้านหนองจานจึงถูกมองว่าเป็นสัญญาณการปะทะเชิงยุทธศาสตร์ที่เขมรอาจกำลังยกระดับเข้าสู่สงครามเบ็ดเสร็จ ซึ่งหากปล่อยให้บานปลาย อาจกลายเป็นวิกฤตการณ์ชายแดนครั้งใหญ่ที่ส่งผลต่อความมั่นคงไทย–กัมพูชาในระยะยาว