สัญญาณแตกหักชัด! สส.เพื่อไทยบางส่วนเปิดเกมย้ายขั้ว หลังอึดอัดปัญหาภายในพรรค พร้อมหนุนภูมิใจไทยตั้งรัฐบาล แต่แกนนำเพื่อไทยย้ำ "ไม่ยอม" หากถึงทางตันพร้อมใช้ไพ่ยุบสภาสกัด ขณะที่"ธเนศ" กระตุก "ปชน." ยึดหลักปชต. หนุนพรรคที่สส.ลำดับมากที่สุดก่อน

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2568  แหล่งข่าวจาก สส.พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวของสส. ของพรรคที่คาดว่าจะหันไปสนับสนุนให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งมีประมาณ 10 กว่าคน นำโดยนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ที่ไปแถลงข่าวกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งทำให้นายศักดิ์ดา ถูกดีดออกจากกลุ่มไลน์ สส. พรรคเพื่อไทย 

นอกจากนี้ยังมี สส.ที่คาดว่าจะหันไปสนับสนุนนายอนุทิน ได้เริ่มทยอยออกจากกลุ่มไลน์ สส.ของพรรคด้วย เช่น นายประเสริฐ บุญเรือง สส.กาฬสินธุ์ นายกิตติ สส.ร้อยเอ็ด พล.ต.ต.สุรพล บุญมา สส.นครนายก นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ และ นางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร เป็นต้น ซึ่งคนเหล่านี้ สส.ในพรรคทราบดีแล้วถึงท่าทีที่เปลี่ยนไป เพียงแต่รอจังหวะเวลาเท่านั้น และเมื่อถึงจังหวะโอกาสเหมาะสมจึงได้ตัดสินใจ 

แหล่งข่าว กล่าวว่า เหตุหนึ่งที่ สส. หลายคนตัดสินใจออกจากพรรคไป ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการดูแลจากพรรคที่ยังไม่ดีพอ การจัดสรรตำแหน่ง หรือการบริหารจัดการภายในไม่มีมาตรฐานชัดเจน บางคนเป็น สส. มาหลายสมัย มีความอาวุโส ไม่ได้รับการโปรโมทให้ขึ้นเป็นรัฐมนตรี จึงทำให้เกิดความอึดอัดใจ ก็คงเป็นเหตุผลหนึ่ง ส่วนการร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาชนที่ยื่นเงื่อนไขเรื่องการยุบสภา กับการทำประชามติ พรรคเพื่อไทยก็รับได้เช่นกัน เข้าใจว่าผู้ใหญ่ของพรรคได้มีการหารือกับพรรคประชาชนอย่างไม่เป็นทางการแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับว่าพรรคประชาชนจะเลือกที่จะสนับสนุนใคร อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยคงไม่ยอมให้พรรคภูมิใจไทยจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ และพร้อมที่จะเสี่ยงใช้ไพ่ใบสุดท้ายคือการยุบสภา แม้จะเป็นรัฐบาลรักษาการ แต่ก็เชื่อว่ามีอำนาจทำได้

"ธเนศ" กระตุก "ปชน." ยึดหลักปชต. หนุนพรรคที่สส.ลำดับมากที่สุดก่อน

ขณะที่นายธเนศ เครือรัตน์ สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ว่า การจัดตั้งรัฐบาลตามหลักประชาธิปไตยที่ดี ประเพณีปฏิบัติที่เราทำและยึดถือกันมาตลอด คือการต้องเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองที่มีสส.อันดับหนึ่งได้ฟอร์มรัฐบาลก่อน ในเมื่อพรรคประชาชนที่มีสส.เป็นอันดับหนึ่ง แต่ไม่มีแคนดิเดทนายกฯของพรรคเหลือแล้ว ก็เป็นความชอบธรรมที่พรรคอันดับสองอย่างพรรคเพื่อไทยจะได้เสนอชื่อนายกฯคนต่อไป และหากพรรคเพื่อไทยยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนได้ ก็เป็นคำถามที่เกิดกับพรรคประชาชนว่าควรสนับสนุนแคนดิเดทจากพรรคที่มี สส. ลำดับสองก่อนหรือไม่ ก่อนที่จะหันสนับสนุนแคนดิเดทจากพรรคอันดับสาม หรืออับดับสี่

“ผมพูดตามหลักการประชาธิปไตยที่ควรจะเป็น ที่เรายึดถือกันมา หากพรรคเพื่อไทยไม่มีแคนดิเดทแล้ว การที่พรรคประชาชนจะไปสนับสนุนพรรคอันดับสาม ก็คงไม่มีใครว่าอะไรได้” นายธเนศ กล่าว