เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2568 นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ให้ความเห็นว่า ปัญหาของประเทศในปัจจุบันมีมากมาย เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ประเทศเผชิญทั้งปัญหาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง รวมถึงปัญหาความมั่นคงจากการปะทะกันทางทหารตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งยังคงค้างคาและรอการแก้ไข

ความเห็นส่วนตัวของผมเห็นว่า จำเป็นต้องจัดลำดับความสำคัญของปัญหา โดยปัญหาเร่งด่วนที่สุดที่นายกรัฐมนตรีต้องเร่งดำเนินการแก้ไข คือ ปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ยังมีทหารไทยบาดเจ็บจากกับระเบิด และยังมีการตรึงกำลังรอวันปะทุอยู่ตลอดเวลา

ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญในการแก้ไขปัญหาคือ การมี เอกภาพในการบริหารจัดการในทุกมิติและทุกองคาพยพ หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาความมั่นคงได้ ปัญหาอื่น ๆ เช่น เศรษฐกิจและสังคม ก็ยากที่จะได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนการเตรียมแก้ไขรัฐธรรมนูญ การทำประชามติ และการยุบสภา สามารถดำเนินการไปพร้อม ๆ กันได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในปัญหาเฉพาะหน้าคือ การเลือกนายกรัฐมนตรีที่สามารถแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากขมวดประเด็นให้ชัดเจนขึ้น ต้องตอบให้ได้ว่า “ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่เหมาะสมกับสถานการณ์” หรือหากเลือกบุคคลที่เข้ามาแล้วกลับซ้ำเติมความขัดแย้งในข้อพิพาทชายแดน ก็จะทำให้ปัญหายิ่งทวีความรุนแรง การตัดสินใจเลือกนายกฯ ครั้งนี้จึงมีความสำคัญยิ่งต่อการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของชาติ

เป็นสัจธรรมว่าไม่มีบุคคลใดมีประวัติการทำงานที่สมบูรณ์แบบ เมื่อทางเลือกมีอยู่จำกัด จึงควรเลือกบุคคลที่เหมาะสมกับสถานการณ์ มากกว่าจะเลือกคนที่จะซ้ำเติมสถานการณ์ จากนั้นเราก็จะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่พร้อมแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที แม้จะไม่ถูกใจทุกคนก็ตาม

หากอยากได้ตามความปรารถนาอย่างแท้จริง ก็ต้องรอการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า โดยพรรคไทยสร้างไทยยืนยัน “การเมืองสุจริต” ภายใต้การนำของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค