วันพฤหัสบดี ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2568 01:41 น.

การเมือง

 ทหารกัมพูชา ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง เนิน 350 ปราสาทตาควายอีก

วันจันทร์ ที่ 01 กันยายน พ.ศ. 2568, 10.41 น.

ทหารกัมพูชา ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง เนิน 350 ปราสาทตาควายอีก ทบ. ซัดเขมรสร้างภาพหยุดยิง แต่ลอบวางทุนระเบิดต่อเนื่อง -ใช้โล่มนุษย์โจมตีไทย 

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 กองทัพบก ได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อวันที่ 31 ส.ค. 68 เวลาประมาณ 11.50 น. กองร้อยอาวุธเบาที่ 1 กองพันทหารราบที่ 27 ตรวจพบการวางกับระเบิดแสวงเครื่อง ในลักษณะใช้ลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดประกอบกับการใช้ลวดสะดุดของทหารกัมพูชา ในพื้นที่ทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย ห่างจากเนิน 350 ประมาณ 1.7 กิโลเมตร ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ใกล้กับบริเวณแนวการวางลวดหนามป้องกันตนเองในเขตไทย

ทั้งนี้ ยุทธวิธีของทหารกัมพูชาสอดคล้องกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 68 ที่ฝ่ายไทยตรวจพบทหารกัมพูชา ดักซุ่มและตรวจการณ์ฝ่ายไทย บริเวณทิศตะวันตกของเนิน 350 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งต่อมา จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบการวางทุ่นระเบิด PMN-2 รวม 3 ทุ่น พร้อมลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด 2 ลูก และตะปูเรือใบจำนวนมาก คาดว่าลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด ดังกล่าวจะถูกเตรียมนำมาใช้ในการวางกับระเบิดแสวงเครื่อง ตามที่ปรากฏ

ทั้งนี้ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การกระทำและหลักฐานดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน ทั้งในเรื่องการใช้กับระเบิดแสวงเครื่อง เป็นอาวุธลอบโจมตีทหารไทย

โดยหวังผลให้เกิดอันตรายถึงชีวิตในดินแดนของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการกระทำยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดระหว่างกัน การกระทำดังกล่าวยังย้อนแย้งกับท่าทีที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนต่อประชาคมระหว่างประเทศ ว่าเป็นผู้รักสันติและยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิง ทั้งที่ข้อเท็จจริงและหลักฐานต่าง ๆ ที่พบ ยืนยันได้ว่ากัมพูชาละเมิดข้อตกลง รวมทั้งอนุสัญญาออตตาวามาโดยตลอด นอกจากนี้ โฆษกกองทัพบกยังได้กล่าวอีกว่า

จากการที่ฝ่ายกัมพูชามีการใช้ยุทธวิธีวางทุ่นระเบิด เพื่อลอบทำร้ายฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการผ่านกองทัพภาคที่ 2 กำชับให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความรอบคอบ ไม่ประมาท และใช้ชุดทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงเพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติภารกิจในทุกครั้ง

ทบ. ซัดเขมรสร้างภาพหยุดยิง แต่ลอบวางทุนระเบิดต่อเนื่อง -ใช้โล่มนุษย์โจมตีไทย 

พร้อมกันนี้ที่กองบัญชาการกองทัพบก จากกรณีเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2568 นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย โดยสรุปว่า

กัมพูชายืนยันความมุ่งมั่นในการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง พร้อมได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรนานาชาติ และกล่าวหาว่าฝ่ายไทยละเมิดข้อตกลงดังกล่าว จนสร้างความเสี่ยงต่อทั้งกำลังพลและพลเรือน อีกทั้งยังก่อให้ประชากรกลุ่มเปราะบางต้องพลัดถิ่นมากยิ่งขึ้น

ฝ่ายกัมพูชา ย้ำว่า การปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงจะช่วยคุ้มครองประชาชน และเปิดโอกาสให้หน่วยงานด้านมนุษยธรรม อาทิ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) องค์การสหประชาชาติ และองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) สามารถเข้ามาให้การช่วยเหลือที่จำเป็นต่อการดำรงชีพแก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังอ้างว่ากัมพูชายึดมั่นในหลักการกฎบัตรสหประชาชาติ โดยเฉพาะการห้ามใช้กำลัง และพร้อมเดินหน้าการเจรจาเพื่อหาทางออกอย่างสันติ พร้อมเรียกร้องให้ประเทศไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างจริงจัง ยุติการกระทำที่บ่อนทำลายข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความสูญเสียแก่พลเรือนในอนาคต รวมถึงทำงานร่วมกับกัมพูชาและกลไกของอาเซียนเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค

ต่อประเด็นดังกล่าว พลตรี วินธัย ชี้แจงว่า

ประเทศไทยยึดมั่นและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด พร้อมดำเนินการให้เป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมา ไทยเปิดกว้างให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวอาเซียน (IOT) คณะจาก ICRC และพันธมิตรนานาประเทศ รวมถึงสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ทุกจุดโดยเสรี ไม่เคยมีการปิดกั้นข้อมูล ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความบริสุทธิ์ใจของฝ่ายไทย ที่ดำเนินการทุกอย่างแบบตรงไปตรงมา

อย่างไรก็ตาม กลับพบว่าฝ่ายกัมพูชา ซึ่งอ้างว่ายึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิง อาจเป็นเพียงภาพการสื่อสารเพื่อสร้างผลเชิงภาพลักษณ์เท่านั้น เพราะในความเป็นจริง ฝ่ายกัมพูชายังมีการลักลอบวางทุ่นระเบิดในเขตแดนไทยอยู่ตลอด จนส่งผลให้กำลังพลไทยได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง อีกทั้งยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม แม้ฝ่ายไทยจะได้เสนอผ่านเวทีการประชุม GBC และ RBC มาโดยตลอด

นอกจากนี้ กัมพูชายังเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนกล่าวหาไทย เช่น เรื่องการใช้อาวุธเคมี หรือบิดเบือนว่าทุ่นระเบิดที่พบเป็นของเก่าตกค้างจากสงครามในอดีต ทั้งที่ฝ่ายไทยมีหลักฐานพิสูจน์ยืนยันได้ชัดเจน สำหรับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงผ่านการใช้ทุ่นระเบิดของฝ่ายกัมพูชา ถือเป็นการบ่อนทำลายความพยายามแก้ปัญหาในระดับทวิภาคีของกัมพูชาเอง

โฆษกกองทัพบก ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันฝ่ายไทยให้ความสำคัญในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน และฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน โรงพยาบาล หรือระบบสาธารณูปโภค พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน และนานาชาติ ที่ร่วมมือและแสดงน้ำใจช่วยเหลือกันอย่างเข้มแข็ง

ในขณะเดียวกัน ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือเหตุการณ์ที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ซึ่งชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาสนับสนุนให้ประชาชนรุกล้ำเข้ามาอาศัยในเขตพื้นที่ประเทศไทย รวมถึงในเขตพื้นที่อ้างสิทธิของประเทศไทย ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลง MOU 43 แม้ฝ่ายไทยประท้วงอย่างสันติมาอย่างยาวนาน แต่กัมพูชากลับเพิกเฉยต่อการแก้ไขปัญหา

โฆษกกองทัพบก ย้ำว่า สังคมและนานาชาติควรตระหนักและรับรู้ว่า ที่ผ่านมา กัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ดังกล่าว อีกทั้งยังพยายามใช้กลุ่มประชาชนออกหน้าแทนด้วยท่าทีที่แข็งกร้าว จึงควรจับตาดูว่าจากนี้ไป กัมพูชาจะใช้วิธีการในลักษณะ “โล่มนุษย์” มาแก้ปัญหาเหมือนในช่วงที่ผ่านมาอีกหรือไม่
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง