ชาวบ้านนาสามัคคี ถามกมธ.กฎหมายฯ ออตตาวา- เจนีวา จะทำอะไรเขมรได้บ้าง และห่วงช่วงสูญญากาศทางการเมือง ขณะที่กอ.รมน.ขอให้ผลักดันเพิ่มแอนตี้โดรน ป้องกันภัยชายแดนไทย-กัมพูชา 

วันที่ 1 ก.ย.68 คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน นำโดยนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.พรรคประชาชาติ ในฐานะประธานกรรมาธิการ และคณะ ทั้งน.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.พรรคประชาชน นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ สส.พรรคเพื่อไทย นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม รองประธานกรรมาธิการ นายวิทยา แก้วภราดัย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ นายเกียรติคุณ ต้นยาง นายวีรวุธ รักเที่ยง  น.ส.นิตยา มีศรี และนายคุณากร มั่นนทีรัย สส.พรรคประชาชน โดยมีนายภพ ภูสมปอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี บรรยายสรุป ที่ที่ว่าการอำเภอน้ำยืน

สำหรับ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ติดชายแดนช่องบก และช่องอานม้า ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การสู้รบ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย จากระเบิด BM-21 ซึ่งเป็นผู้สูงอายุแต่ไม่มีสัญชาติไทย ส่วนสามีคนไทยได้รับบาดเจ็บ และมีผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย 1 ราย ทางคณะกรรมาธิการได้เป็นห่วงถึงการเร่งรัดเงินเยียวยาสำหรับผู้บาดเจ็บ และการช่วยเหลือผู้เสียชีวิตที่แม้จะไม่มีสัญชาติไทยแต่แต่งงานอยู่กับสามีคนไทย รวมถึงอาการเครียดของประชาชน รวมถึงทหาร ซึ่งทางจังหวัดอุบลราชธานี จะนำไปเร่งรัดติดตามให้รวดเร็วขึ้น และจากงบ 100 ล้านบาท ที่รัฐบาลอนุมัติมานั้น ได้เบิกจ่ายไปแล้วกว่า 4 ล้านบาท ขณะที่กอ.รมน.ได้รายงานสถานการณ์ที่ยังเป็นไปตามข้อตกลงหยุดยิง และขอให้ผลักดันให้จังหวัดชายแดนมีแอนตี้โดรน เพื่อป้องกันภัยจากกัมพูชาด้วย

คณะกรรมาธิการลงพื้นที่บ้านนาสามัคคี ต.โซง อ.น้ำยืน ซึ่งมีบ้านพังเสียหายจากระเบิด BM-21 มากกว่า 10 หลัง หลายหน่วยงานกำลังเร่งสร้างบ้านให้แล้ว และมีบ้านชั่วคราวให้พักอาศัยไปก่อน 

ระหว่างนั้นมีชาวบ้านสองราย ตั้งคำถามไปยังคณะกรรมาธิการกฎหมายฯ ว่า ออตตาวาและเจนีวา จะทำอะไรกัมพูชาได้บ้าง นายกมลศักดิ์ จึงมอบหมายให้นายกัณวีร์ ทำความเข้าใจกับชาวบ้านว่า อนุสัญญาเจนีวา เป็นความร่วมมือของประเทศสมาชิกสหประชาชาติ ที่ต้องไม่กระทำการที่ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ไม่โจมตีพลเรือน แต่ครั้งนี้กัมพูชาละเมิดอย่างชัดเจน ส่วนอนุสัญญาออตตาวา ต้องไม่วางทุ่นระเบิด โดยเฉพาะทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เมื่อกัมพูชาไปร่วมลงนามด้วยแล้วก็ต้องเคารพ เมื่อกัมพูชาละเมิด ไทยก็ต้องฟ้องในเวทีโลก จะได้ไม่ทำอีก 

นายกมลศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่ของคณะกรรมาธิการฯในวันนี้เพื่อช่วยติดตามการเยียวยาจากทางภาครัฐ ที่เข้าใจว่ายังติดระเบียบทำให้ล่าช้า แต่ต้องเร่งรัดให้ประชาชนที่เสียหาย ซึ่งกมธ.สามารถเรียกหน่วยงานต่างๆมาชี้แจงได้ และไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องช่วงสูญญากาศทางการเมือง ที่แม้ยังไม่มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่เชื่อว่าหน่วยงานราชการจะขับเคลื่อนการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างเต็มที่