ป.ป.ช. เสนอ ครม.พิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพการคุมขังในสถานที่คุมขัง ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ พ.ศ. 2566  เนื่องจากพบความไม่ชัดเจน เสี่ยงต่อการใช้ดุลพินิจเอื้อประโยชน์บุคคลบางราย  

 วันที่ 11  กันยายน 2568 มีรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่เอกสารข่าว ผลการประชุม ป.ป.ช.โดยเสนอแนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการคุมขัง ในสถานที่คุมขังตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 และอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง สืบเนื่องจากกรณีที่กรมราชทัณฑ์ ประกาศระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 ครั้งเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 รวมถึงอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้องความว่า 

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดย คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอคณะรัฐมนตรี เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการคุมขังในสถานที่คุมขัง ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 และอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง สืบเนื่องจากการประกาศระเบียบดังกล่าวเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ซึ่งกำหนดให้มีสถานที่คุมขังอื่นที่มิใช่เรือนจำหรือจำคุกนอกเรือนจำ ทั้งนี้ พบว่าการดำเนินการยังขาดความชัดเจนและอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเจ้าหน้าที่ในการใช้ดุลพินิจเพื่อเอื้อประโยชน์แก่บุคคลบางราย และเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับนิยามของ “สถานที่คุมขัง”

คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติเห็นชอบข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการคุมขัง และเห็นควรนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อมอบหมายกรมราชทัณฑ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 32

ข้อเสนอแนะสำคัญ ได้แก่ การทบทวนระเบียบและอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง จัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และแนวทางปฏิบัติในการบริหารงานเรือนจำและการบริหารโทษให้ชัดเจน เพื่อลดโอกาสการใช้ดุลพินิจที่อาจเอื้อประโยชน์แก่ผู้ต้องขังบางราย พร้อมสร้างความเข้าใจแก่สาธารณชนเพื่อร่วมตรวจสอบและสร้างความโปร่งใส รวมถึงการจำแนกลักษณะผู้ต้องขังเป็นข้อมูลสารสนเทศที่สำคัญ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการและการคุมขังที่เหมาะสมต่อไป