วันอังคาร ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568 02:20 น.

การเมือง

เรียกหารูปแบบนักการเมืองไทยระดับเวิลด์คลาส 

วันเสาร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2568, 09.34 น.

การเมืองไทยตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมาเผชิญปัญหาซ้ำซ้อน ทั้งด้านความไม่โปร่งใส ความไม่เสถียร และการบริหารที่ไม่ตอบโจทย์ปากท้องของประชาชน ปัญหาเหล่านี้ทำให้ประชาชนจำนวนมากขาดความเชื่อมั่นในระบบการเมืองไทย

การศึกษารูปแบบนักการเมืองไทยที่สามารถยกระดับตนเองไปสู่การเป็น นักการเมืองระดับเวิลด์คลาส จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่เพียงสะท้อนคุณลักษณะเฉพาะของผู้นำ หากยังชี้ให้เห็นทิศทางการพัฒนาการเมืองไทยในอนาคต

หนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจคือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งได้แสดงท่าทีเชิงสัญลักษณ์และเชิงนโยบายที่แตกต่าง โดยการขอโทษแทนนักการเมืองไทยต่อความเดือดร้อนของประชาชน และยืนยันเดินหน้าปฏิรูประบบการเมืองและแก้ปัญหาเศรษฐกิจเพื่อคุณภาพชีวิตของประชาชน

1. มิติของผู้นำที่สะท้อนความเป็นนักการเมืองระดับเวิลด์คลาส

คุณลักษณะของนักการเมืองที่สามารถก้าวสู่ระดับนานาชาติได้ มักประกอบด้วย 3 มิติสำคัญ ได้แก่

ความเป็นผู้นำทางคุณธรรม (Moral Leadership)

การที่คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวคำ “ขอโทษแทนนักการเมือง” ถือเป็นการสื่อสารเชิงคุณธรรม เป็นการยอมรับความผิดพลาดของระบบการเมือง แม้ตนเองไม่ได้เป็นผู้ก่อโดยตรง แต่สะท้อนความรับผิดชอบทางการเมือง (Political Responsibility) ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่นักการเมืองระดับโลก เช่น เนลสัน แมนเดลา หรือ อังเกลา แมร์เคิล เคยใช้ในการสร้างความไว้วางใจจากประชาชน

วิสัยทัศน์เพื่อสาธารณะ (Public-Oriented Vision)

การชูแนวทางการเมืองที่ “เป็นที่พึ่งของประชาชน” และการแก้ปัญหาปากท้องโดยตรง แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ไม่เพียงตอบสนองกลุ่มผลประโยชน์ แต่เน้นประชาชนฐานรากตั้งแต่เกษตรกร แรงงาน ไปจนถึงผู้ประกอบการรายเล็กและใหญ่

การสร้างความหวังและพลังร่วม (Hope & Collective Empowerment)

การย้ำว่า “พลังของประชาชนคือหัวใจสำคัญ” สะท้อนแนวคิดแบบประชาธิปไตยมีส่วนร่วม (Participatory Democracy) ซึ่งเป็นหัวใจของการเมืองระดับเวิลด์คลาส ที่ไม่ใช่การนำจากบนลงล่าง (Top-down) แต่เป็นการขับเคลื่อนจากล่างขึ้นบน (Bottom-up)

2. บทบาทของ “คำขอโทษ” ในการเมืองไทย

ในสังคมการเมืองไทย การกล่าว “คำขอโทษ” ของนักการเมืองมักไม่ใช่วัฒนธรรมที่พบได้บ่อย เพราะการเมืองไทยเต็มไปด้วยการแข่งขันเชิงอำนาจและความขัดแย้ง การที่คุณหญิงสุดารัตน์แสดงออกในลักษณะนี้ จึงเป็น รูปแบบใหม่ของภาวะผู้นำทางการเมือง ที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล สร้างความใกล้ชิดกับประชาชน และเสริมสร้างทุนทางการเมือง (Political Capital)

3. การเมืองเชิงนโยบาย: แก้ระบบการเมืองและปัญหาเศรษฐกิจ

การประกาศยืนยันแก้ปัญหาสำคัญ 2 ด้าน ได้แก่

การเมืองโปร่งใสและซื่อสัตย์สุจริต → เป็นการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง ที่เชื่อมโยงกับแนวคิดการเมืองแบบธรรมาภิบาล (Good Governance) ซึ่งเป็นเกณฑ์สากล

การแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง → เป็นการตอบโจทย์ความต้องการเร่งด่วนของประชาชน (Immediate Needs) โดยเน้นคุณภาพชีวิต ความมั่นคงทางรายได้ และการลดหนี้สิน

สิ่งเหล่านี้ทำให้นโยบายมีทั้งมิติ “อุดมการณ์” และ “ความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ” ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จของนักการเมืองระดับโลกที่สามารถอยู่ในใจประชาชนได้ยาวนาน

4. การประเมินเชิงวิชาการ

เมื่อนำกรณีของคุณหญิงสุดารัตน์มาเปรียบเทียบกับเกณฑ์นักการเมืองระดับเวิลด์คลาส พบว่าเธอสะท้อนรูปแบบการเมืองที่เน้น

ความรับผิดชอบต่อสังคม (Accountability)

การสื่อสารเชิงสร้างความหวัง (Inspirational Communication)

การมุ่งแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม (Practical Problem-Solving)

แม้อาจยังมีข้อจำกัดจากบริบทการเมืองไทย เช่น ความขัดแย้งเชิงโครงสร้าง การผูกขาดทางอำนาจ และระบบราชการที่ล่าช้า แต่การสื่อสารและวิสัยทัศน์ดังกล่าวได้วางรากฐานให้เห็นว่า นักการเมืองไทยสามารถก้าวสู่ระดับเวิลด์คลาสได้ หากผสมผสานคุณธรรม ความโปร่งใส และการแก้ปัญหาประชาชนอย่างแท้จริง

บทสรุป

รูปแบบนักการเมืองไทยระดับเวิลด์คลาส ไม่ได้หมายถึงเพียงการมีชื่อเสียงในเวทีโลก แต่หมายถึงการมีคุณลักษณะที่ยืนอยู่บนหลักการสากล ได้แก่ ความรับผิดชอบต่อประชาชน ความโปร่งใส และการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน กรณีของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามสร้าง “การเมืองที่ดี” เป็นที่พึ่งของประชาชน การยอมรับผิดแทนระบบการเมือง และการเสนอแนวทางแก้ไขที่ชัดเจน ล้วนเป็นตัวอย่างสำคัญที่ชี้ว่า การเมืองไทยสามารถพัฒนานักการเมืองในมาตรฐานระดับโลกได้จริง หากยึดมั่นในคุณค่าพื้นฐานของประชาธิปไตยและธรรมาภิบาล

หน้าแรก » การเมือง