วันอังคาร ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568 02:02 น.

การเมือง

“สะถิระ” เดือด! แทนแม่ค้า–คนหาเช้ากินค่ำ จี้ ธปท.–ตร.ไซเบอร์ เร่งแก้ปัญหาอายัดบัญชีมั่ว

วันจันทร์ ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2568, 17.54 น.

   “สะถิระ” เดือด! แทนแม่ค้า–คนหาเช้ากินค่ำ จี้ ธปท.–ตร.ไซเบอร์ เร่งแก้ปัญหาอายัดบัญชีมั่ว สร้างความเสียทำธุรกิจพังไม่เหลือทางออก ซัด หยุดโยนภาระให้ประชาชน 

เมื่อวันที่ 15 ก.ย.นายสะถิระ เผือกประพันธ์ สส.ชลบุรี พรรคกล้าธรรม(กธ.)กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากเกี่ยวกับปัญหาการระงับยอดเงินในบัญชีธนาคารและการอายัดบัญชีโดยไม่ถูกต้อง ซึ่งสร้างความเดือดร้อนอย่างรุนแรงให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มแม่ค้าออนไลน์ พ่อค้าแผงลอย ร้านค้าตลาดนัด และผู้ที่ต้องหมุนเวียนเงินทุนรายวัน และแม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะชี้แจงว่า อายัดเฉพาะบัญชีม้าที่ได้รับการยืนยันอย่างชัดเจน และกรณีบัญชีที่มีธุรกรรมผิดปกติจะเพียงระงับยอดเงินชั่วคราวก่อนปลดการระงับในภายหลัง แต่ในทางปฏิบัติยังมีผู้บริสุทธิ์ที่ทำมาหากินสุจริตตกเป็นเหยื่อของมาตรการนี้ ซึ่งเงินทุนแม้จะเป็นหลักร้อยหรือหลักพันก็มีความสำคัญยิ่งต่อการดำรงชีวิตและการค้าขายประจำวัน

“นี่ไม่ใช่เพียงปัญหาทางเทคนิค แต่มันคือปัญหาปากท้องของประชาชน การระงับบัญชีแบบไม่แม่นยำทำให้คนหมดศรัทธาในระบบธนาคาร และบั่นทอนความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ยังพบว่า หลายคนหันมารับเฉพาะเงินสด หรือถอนเงินออกจากระบบธนาคารเพื่อลดความเสี่ยง ส่งผลให้ระบบการชำระเงินดิจิทัลสะดุด และกระทบต่อเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศในภาพรวม“นายสะถิระ กล่าว

นายสะถิระ กล่าวต่อว่า ตนขอเรียกร้องให้ ธปท.และสมาคมธนาคารไทย เร่งปรับปรุงกระบวนการระงับยอดเงินและการอายัดบัญชีให้มีความถูกต้อง แม่นยำ และไม่กระทบผู้บริสุทธิ์ โดยตำรวจไซเบอร์ต้องจัดการกับมิจฉาชีพตัวจริงแทนที่จะปล่อยให้ประชาชนต้องรับเคราะห์ ทั้งนี้ ตนขอเสนอให้จัดตั้งศูนย์ปลดล็อกบัญชีด่วน 24 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้ที่พิสูจน์ความบริสุทธิ์แล้วสามารถกลับมาใช้บัญชีได้ภายในวันเดียว ไม่ใช่รอหลายวันจนเสียโอกาสทำมาหากิน

นายสะถิระ ยังกล่าวต่อด้วยว่า จะต้องเร่งรัดปลดล็อกบัญชี – ระยะเวลาการปลดล็อกที่ปัจจุบันใช้เวลาเฉลี่ย 3 วันนั้น “นานเกินไป” และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจำนวนมาก จึงควรลดระยะเวลาให้สั้นลงอย่างมาก โดย ธปท.และธนาคารพาณิชย์ ควรมีมาตรการจำแนกประเภทบัญชีเงินฝากที่มีความเสี่ยงสูงว่าจะถูกใช้เป็นบัญชีม้า โดยพิจารณาจากคุณสมบัติของผู้เปิดบัญชีและพฤติกรรมธุรกรรม และจำกัดวงเงินธุรกรรมสำหรับบัญชีเสี่ยง เพื่อลดผลกระทบต่อระบบโดยรวม ควรกำหนดเพดานจำนวนเงินต่อธุรกรรมหรือต่อวันสำหรับบัญชีที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง

นอกจากนี้ ควรปรับวิธีระงับบัญชี เปลี่ยนจากการระงับทั้งบัญชีเป็นการระงับเฉพาะยอดเงินที่โอนเข้า เช่น หากมีการโอน 100 บาทผิดปกติ ให้ระงับเพียง 100 บาท ไม่ใช่ปิดกั้นทั้งบัญชี และพัฒนาระบบ KYT: Know Your Transaction – ใช้ AI และ Big Data ตรวจสอบธุรกรรมให้แม่นยำ ลดความผิดพลาดจากการอายัดผิดบัญชี ทั้งนี้ต้องมีการจัดตั้ง One-Stop Service ให้ประชาชนยื่นคำร้องอุทธรณ์และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ในที่เดียว และได้รับการตอบกลับภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งกฎหมายคุ้มครองสิทธิประชาชน กำหนดให้ธนาคารต้องรับผิดชอบความเสียหาย หากตรวจสอบและอายัดผิดพลาด พร้อมทั้งสื่อสารเชิงรุกให้ประชาชนรู้เท่าทันขั้นตอนและสิทธิของตน

”ผมมองว่า มาตรการเหล่านี้จะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นในระบบธนาคาร ปกป้องประชาชนที่สุจริต และรักษากระแสเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญของประเทศ“นายสะถิระ กล่าว

หน้าแรก » การเมือง