วันพุธ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2568 02:26 น.

การเมือง

"อนุทิน"  ไหว้ศาลหลักเมือง–วัดพระแก้ว  ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ เผยขอพรให้ประเทศก้าวหน้า

วันอังคาร ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568, 17.35 น.

"อนุทิน" นายกรัฐมนตรี สักการะศาลหลักเมืองและวัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ พร้อมเผยขอพรให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรือง ประชาชนมีความสุขและสามัคคี

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รอต้อนรับ

โดยจุดแรกนายกฯได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพลที่เดินตามข้างหลังได้ลื่นล้มทั้งตัว บริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพลได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ได้ร้องอุทานด้วยความตกใจ

ต่อมา นายอนุทินได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้น ได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด

ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมืองต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน บอก "นายกฯสู้ๆ" ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ ก่อนที่จะเดินข้ามถนนจากศาลหลักเมืองมายังวัดพระแก้ว และเดินเข้าทางประตูสวัสดิโสภา เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนเดินออกมา พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า "นำบุญมาฝาก" ผู้สื่อข่าวจึงสาธุพร้อมกัน

เมื่อถามว่า เสร็จภารกิจจากวัดพระแก้วจะเดินทางไปที่ไหนต่อนั้น นายอนุทินระบุว่า ต้องรอลงนามรายชื่อคณะรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯส่วนสถานที่จะใช่ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ ต้องรอให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งอีกครั้ง พร้อมกับปล่อยมุข และพูดติดตลก "ไปร้านลาบมั้ง"

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้รู้สึกสดชื่นหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็วันนี้เสร็จภารกิจที่เกี่ยวกับการทูลเกล้าฯคณะรัฐมนตรีแล้ว ก็ถือว่าผ่านไปอีกเปลาะ แต่ก็ยังมีอื่นๆ อีกมากมายที่ยังต้องทำ

 เมื่อถามว่า ได้มีการขอพรอะไรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ขอพรอย่างเดียวคือขอพรให้ประเทศไทย เจริญก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองสงบ และขอให้พี่น้องประชาชน คนไทยมีความสุขมีความสามัคคี ขอพรอยู่แค่กรอบนี้

เมื่อถามว่า หากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯลงมาแล้ว จะนำครม. มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เดี๋ยวว่ากัน แล้วแต่ศรัทธาของแต่ละท่าน ไม่บังคับกันอยู่แล้ว

เมื่อถาม ถึงเรื่องคุณสมบัติที่มีรายชื่อออกมาหน้าสื่อมีใครที่สุ่มเสี่ยงหรือไม่ นายอนุทิน ยืนยันว่า ได้ตรวจสอบทุกอย่าง คนที่จะถูกนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม ให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯเป็นรัฐมนตรี ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่า มั่นใจว่า จะไม่มีข้อร้องเรียนภายหลัง ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไปห้ามตรงนั้นไม่ได้ แต่เราทำสิ่งที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่า ที่ล่าช้าเพราะมีการตรวจสอบเยอะ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าไปตั้งข้อสังเกตเลย ทำไมถึงบอกว่าล่าช้า นั่งเทียบกับชุดเดิมๆ อยู่ทุกวันกับเลขาครม. มีขั้นตอนของมันของเรายังเร็วกว่าคนอื่น และที่เข้าหารือในวันนี้มีทุกหน่วยงานที่ตรวจสอบ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็มาในฐานะหน่วยงานที่ตรวจสอบ ประวัติอาชญากร มีอัยการสูงสุด เลขากกต. เลขากฤษฎีกา เลขาครม. เลขาศาลยุติธรรม ทุกท่านก็ให้เกียรติ ตนก็ดีใจที่ทุกท่านให้เกียรติมาด้วยตัวเอง

เมื่อถามว่า ได้มีการกำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี เพราะไล่รายชื่อตามลำดับทุกคนมีความสมบูรณ์อยู่ในคุณสมบัติ

เมื่อถามว่า ขณะนี้ประชาชนมีความเดือดร้อนเรื่องการอายัดบัญชี จะมีแนวนโยบายอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่าได้กำชับ ให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไปแก้ไขปัญหา ถ้าเราสงสัยใครคนใดคนหนึ่ง แต่ไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ไม่ใช่วิธีการทำงาน

เมื่อถามว่า ได้มีการกำชับให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ไปทำการบ้านไว้รอแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ให้ถามว่าที่รมว.กลาโหม มีการประชุมกันทุกวัน

เมื่อถามว่า การอายัดบัญชีจะไม่มีผลกับโครงการคนละครึ่งใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี ทุกรัฐบาลจะมีโครงการที่เป็นโครงการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล ที่ทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจว่าจะทำให้เกิดขึ้นให้ได้

เมื่อถามถึงกรณีปัญหาน้ำท่วมที่กระทบกับพื้นที่เศรษฐกิจ หลังจากแถลงนโยบายจะสั่งการอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ยังสั่งการอะไรไม่ได้ ก็ได้แต่หวังว่าหน่วยงานที่เคยทำงานร่วมกันมา ทั้งกระทรวงมหาดไทย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ซึ่งสไตล์การทำงานอย่างมหาดไทย เชื่อว่า ตอนนี้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ได้มีการสนับสนุนในเรื่องของทรัพยากรบุคลากร เครื่องไม้เครื่องมือ การแสวงหาความร่วมมือระหว่างกันกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงกลาโหม เราเป็นหนึ่งเดียวกันสนธิกำลังช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

"ทุกเรื่องทั้งหน้างานทั้งเรื่องของงบประมาณในการให้ความช่วยเหลือการเยียวยา ทุกเรื่องต้องราบรื่น และสมูทขึ้นกว่าเดิมแน่นอน ไม่มีพรรคของผมมีแต่พรรคพวก ไม่มีเรื่องขอให้สบายใจได้ คนอย่างผม ถ้าประชาชน ได้ประโยชน์ มีความสุข ประเทศชาติได้ประโยชน์ เรื่องพรรคเป็นเรื่องท้ายๆ ใครได้รับความนิยมจากประชาชนผมก็ยินดี" นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า หลังแถลงนโยบายแล้วสามารถทำต่อได้เลยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การทำงานไม่มีการหยุดชะงัก เพราะบุคลากรที่คัดเลือกมาเป็นบุคคลที่ทำงานอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
 

หน้าแรก » การเมือง