วันอาทิตย์ ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2568 01:38 น.

การเมือง

“อันวาร์” ชี้ประธานสภาฯไม่ใช่แค่ควบคุมการประชุม แต่คือจิตวิญญาณแสดงความเป็นประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง-อิสระจากการควบคุมของรัฐบาล

วันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2568, 14.05 น.

“อันวาร์” เปิดประชุม AIPA ครั้งที่ 46 ย้ำ บทบาทสภาสะท้อนการเป็นตัวแทนความต้องการของประชาชน  ชี้ตำแหน่งประธานสภาฯ ไม่ใช่แค่ควบคุมการประชุม แต่คือจิตวิญญาณ แสดงความเป็นประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง-เป็นอิสระจากการควบคุมของรัฐบาล  เผย ยังติดต่อผู้นำไทยและกัมพูชา สะท้อนการทำงานร่วมกันเดินหน้าแก้ปมขัดแย้งชายแดน เชื่อ ยังมีความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน พร้อมเดินหน้าใช้กลไกแก้ปัญหาเมียนมา ไม่ให้คนอื่นชี้นำ  

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 การประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน หรือ AIPA ครั้งที่ 46 เปิดฉากเริ่มต้นการประชุมอย่างเป็นทางการ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ที่ตึกWorld Trade Centre ภายใต้หัวข้อหลักการประชุม “ รัฐสภาในฐานะผู้นำเพื่อการเติบโตอย่างครอบคลุมและอาเซียนที่ยั่งยืน” 
    
โดยมีนายตัน ศรี ดาโต๊ะ โจฮารี บิน อับดุล ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย ในฐานะประธาน AIPA กล่าวต้อนรับประเทศสมาชิกสมัชชารัฐสภาอาเซียน 10 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วย มาเลเซีย , อินโดนีเซีย , ฟิลิปปินส์ , สิงคโปร์ , ไทย , เวียดนาม , ลาว , กัมพูชา , บรูไน และ เมียนมาร์  แขกพิเศษจำนวน 3 ประเทศได้แก่ รัฐสภาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนแอลจีเรีย / รัฐสภาราชอาณาจักรสเปน และรัฐสภาสหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล และองค์กรที่เป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของ AIPA อีก 9 องค์กร ซึ่งในส่วนนี้ไม่รวมประเทศผู้สังเกตการณ์ของ AIPA อีก 24 ประเทศ
    
จากนั้น นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรี ประเทศมาเลเซีย ได้เดินทางมาเป็นเกียรติ  กล่าวในพิธีเปิดการ ประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ครั้งที่ 46  โดยกล่าวว่า  เป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นเจ้าภาพในการประชุมครั้งนี้ อย่างที่ตนได้กล่าวไปว่านี่คือการรับผิดชอบทางด้านประชาธิปไตยซึ่งเป็นเหมือนวาทะกรรมของสมาชิกสภาของนักการเมือง ซึ่งหมายความว่าการมีประธานสภาที่มีความสามารถ และด้วยความรับผิดชอบทางด้านประชาธิปไตย ต้องทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนที่ดี ในการประชุมต่างๆทั้งในส่วนของกรรมาธิการและในที่ประชุมใหญ่ของรัฐสภาโดยจะเน้นไปที่การพัฒนาประเทศและสวัสดิการของประชาชน  รวมถึงวาระการปฏิรูปต่างๆ
   
ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาเราได้มีการยกระดับการเปลี่ยนแปลงมากมาย  ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการปฏิบัติงานของรัฐสภา ซึ่งทำให้เห็นว่าการดำเนินงานของรัฐสภาเป็นอิสระจากการดำเนินงานของรัฐบาลไม่ให้ฝ่ายบริหารเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำงานของรัฐสภา
   
ทั้งนี้ ตนในฐานะผู้นำฝ่ายค้านและอยู่ในรัฐสภามายาวนาน ก่อนจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ตนก็ต้องคอยตอบกระทู้ในรัฐสภา ซึ่งบางครั้งยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ยากและเครียด  คำถามต่างๆบางครั้งตนรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากแต่ก็เข้าใจว่า นี่คือบทบาทของสมาชิกรัฐสภาทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งถือเป็นความท้าทายของทุกรัฐสภาทั่วโลก 
  
นายกรัฐมนตรี มาเลเซียกล่าวต่อว่า แม้จะมีการนำเรื่องราวต่างๆมาอภิปรายแต่ต้องควบคู่ไปกับการรักษาระเบียบของรัฐสภา  โดยเฉพาะ การสะท้อนความต้องการของเยาวชนรุ่นใหม่โดยต้องเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประเมินเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจ  ซึ่งเป็นบทบาทของประธานสภาไม่ใช่เพียงแค่การควบคุมการประชุมแต่คือจิตวิญญาณของประชาธิปไตย ที่ทำให้การดำเนินงานต่างๆของรัฐสภาแสดงให้เห็นถึงการเป็นประชาธิปไตยที่แข็งแรง
   
อย่างไรก็ตาม ตนทราบถึงบทบาทของรัฐสภาเป็นอย่างดี  แม้ตนจะอยู่ในฐานะนายกรัฐมนตรีแต่บางครั้งก็ต้องไปตอบกระทู้ในสภาซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำ และนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีก็ต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอ เพราะถือเป็นความรับผิดชอบด้านประชาธิปไตย ไม่ใช่เพียงการเลือกตั้งทุก4-5 ปี แต่ประชาธิปไตยคือเรื่องของระบบที่อนุญาตให้รัฐบาลต้องมาตอบคำถามหรือรับการวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณะชน และในฐานะสมาชิกรัฐสภาก็มีสิทธิ์โดยชอบในการตั้งคำถามเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล  
   
นอกจากนี้ยังพูดถึงหลักธรรมาภิบาลและบทบาทของรัฐสภาคือการทำให้มั่นใจว่าเราอยู่ที่นี่ในฐานะตัวแทน ความต้องการ ของประชาชน  ต้องมีความเข้าใจว่าอำนาจจะนำไปสู่คอรัปชั่นและเมื่อมีอำนาจสมบูรณ์ก็จะนำไปสู่การคอรัปชั่นที่สมบูรณ์ หากคนที่มีอำนาจมากเกินไปก็อาจจะนำไปสู่การคอรัปชั่นขนาดใหญ่ นั่นคือการคอรัปชั่นเชิงระบบ ตนจึงขอชื่นชม และขอบคุณประเทศสมาชิกที่ร่วมกันทำให้ อาเซียนว่าเรามีความก้าวหน้า  ทางด้านเทคโนโลยี AI รวมถึงการเปิดโอกาสให้เยาวชนและบทบาทของสตรี รวมถึงความร่วมมือต่างๆ ซึ่งหลายๆอย่างมาเลเซียก็ยังไม่ได้ทำบางอย่างได้ทำไปแล้วและยืนยันจะทำต่อไปในอนาคต

“ไม่ว่าจะเป็นประเด็นความขัดแย้ง ไทย-กัมพูชา  ต้องคิดถึงประชาชน ซึ่งในฐานะที่ตนเป็นประธานอาเซียนตนอยากให้ผู้นำอาเซียนทั้งหลายทราบว่า ก่อนหน้านี้มีการเชิญนายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศมาที่กัวลาลัมเปอร์เพื่อลงนามความเข้าใจ และหลังจากการประชุมในครั้งนั้น ตนก็ยังติดต่อกับผู้นำทั้งสองประเทศซึ่งหมายความว่า อาเซียนโดยผู้นำทางการเมืองกำลังทำงานร่วมกัน อยู่บนฐานของความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ซึ่งจิตวิญญาณนี้ก็ยังคงอยู่และหวังว่าจะยังคงส่งต่อจิตวิญญาณนี้ในอนาคตต่อไปด้วย“
  
นายอันวาร์ กล่าวอีกว่า แม้จะมีปัญหาเกิดขึ้นในหลายที่แต่เรายังเป็นภูมิภาคที่มีความเป็นเอกภาพมากที่สุดในโลก และ ยังเป็นภูมิภาคที่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงที่สุดในโลก มีการทำงานร่วมกันทางด้านเทคโนโลยี ทางอาหาร มีการแบ่งปันสิ่งเหล่านี้และอีกหลาย 10 ปีจากนี้ไป แม้จะมีปัญหาเรื่องเมียนมาร์อยู่แต่ก็มีความก้าวหน้าตามลำดับ โดยย้ำว่า ในฐานะที่มามาเลเซียเป็นประธานอาเซียนจะพยายามใช้ กลไกในการแก้ปัญหาในเมียนมาร์ แต่ยังอย่างน้อยเราก็พยามจัดการปัญหาในภูมิภาคของตัวเองโดยที่ไม่ให้คนอื่นเข้ามาชี้นำ ไม่มีการเลือกปฏิบัติไม่มีการแบ่งแยก และเราต้องหยุดความโหดร้ายทำร้ายกันและในระดับโลกต้องทำให้เห็นว่าการช่วยเหลือด้าน มนุษยธรรมนั้น ทุกประเทศต้องให้ความร่วมมือกันและให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยไม่เลือกว่าเป็นใคร 
 

หน้าแรก » การเมือง