การเมือง
องค์การสวนสัตว์ฯแจงละเอียดยิบทุกข้อร้องเรียนยืนยันความถูกต้อง-โปร่งใส-ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯแจงละเอียดยิบทุกข้อร้องเรียน ยืนยันปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องตามกฎหมายและกฎระเบียบทุกขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ยันใช้งบประมาณฯโปร่งใสตรวจสอบได้ ไม่เอื้อประโยชน์เอกชน มุ่งสนองประโยชน์หน่วยงานและประโยชน์ประชาชนเป็นสำคัญ
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมามีสื่อมวลชนบางสำนักได้รายงานข่าวว่า มีกลุ่มบุคคลที่ใช้ชื่อว่า “ผู้บริหารพนักงานลูกจ้างองค์การสวนสัตว์” ได้ร้องเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวอ้างในลักษณะมีเนื้อหาตั้งข้อสังเกตและแสดงความกังวลต่อบทบาท อำนาจหน้าที่ และกระบวนการใช้อำนาจในการกำกับดูแลกิจการขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ผู้บริหารและพนักงานที่เกี่ยวข้องในหลายประเด็น เช่น ประเด็นปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ ตามกฎหมาย ข้อกังวลด้านสัญญาสัมปทาน การสับเปลี่ยนโยกย้ายผู้บริหารระดับสูง ฯลฯ ทั้งนี้หลังเกิดเหตุทางองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ได้ทำรายละเอียดชี้แจง Fact Sheet แสดงไว้ทางหน้าเวปไซต์ขององค์การฯ เพื่อความทราบต่อสาธารณะเป็นเบื้องต้นแล้ว https://www.zoothailand.org/ewt_news.php?n_id=8248
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เป็นองค์กรที่โปร่งใสและตรวจสอบได้จึงได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้เรียนเชิญท่านผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งมีความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณวุฒิ มีความเชี่ยวชาญ มีความรู้ความสามารถเป็นที่ประจักษ์ และได้ทำงานด้านการสืบสวนสอบสวนมาในคดีสำคัญอย่างมากมาย และเป็นอดีตกรรมการ ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยมีศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ เป็นประธานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ ที่ได้มีการกล่าวอ้าง สำหรับรายชื่อ คณะกรรมการดังกล่าวประกอบด้วย 1.ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณเป็นประธานกรรมการ 2.นายทศพร รัตนมาศทิพย์ เป็นกรรมการ 3.นายวิฑูลรย์ ศิริวิโรจน์ เป็นกรรมการ 4.นายกวีพร จันทน์ขาว เป็น กรรมการ 5.พลอากาศโท กิติทัศน์ ภาเจริญเป็นกรรมการ 6.นายเชฏฐ คำวรรณ เป็น กรรมการและเลขานุการ 7.นายกฤษฎา แสงเจริญทรัพย์ เป็น กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
สำหรับ Fact Sheet แสดงไว้ทางหน้าเวปไซต์ขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ระบุว่า “ตามที่มีผู้ใช้ชื่อว่า ผู้บริหาร พนักงาน และลูกจ้างองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีหนังสือร้องเรียนถึง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ในขณะดำรงตำแหน่ง เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 เพื่อขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในประเด็นปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ เรื่องการใช้อำนาจตัดสินใจอย่างไม่รอบด้าน พฤติกรรมของประธานบอร์ด ทส. ความไม่เหมาะสมในการบริหารงบประมาณ ข้อกังวลด้านสัญญาสัมปทาน การโยกย้ายผู้บริหารก่อนหมดวาระ การสั่งการโดยไม่มี ผอ.อสส.ตัวจริง และข้อกังวลด้านธรรมาภิบาล โดยมีข้อเสนอให้ รมว.ทส. ให้ดำเนินการ 1.ตรวจสอบการดำเนินการอนุมัติย้อนหลังทุกกรณี 2.ให้ระงับการประชุมคณะกรรมการในวันที่ 27 มิถุนายน 2568 3.เร่งแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ให้ครบ 10 คนภายในเดือนกรกฎาคม 2568 4.ตรวจสอบสัมปทานจำหน่ายบัตรเข้าชมและยกเลิกสัญญาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และ 5.อาศัยอำนาจรัฐมนตรี ชะลอการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการชุดปัจจุบัน 2 คนไว้ชั่วคราว ตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าวไปแล้วนั้น
รายงานข่าวระบุว่า เพจขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (https://www.zoothailand.org/download/article/article_20250704120502.pdf) ได้เผยแพร่ข่าวสารชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นข้อร้องเรียนเรื่องปัญหาองค์ประชุมไม่ครบของคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ปัจจุบันมีเพียง 2 คนจาก 10 คนแต่ยังคงดำเนินการประชุมพิจารณาและมีมติในเรื่องสำคัญต่างๆ ทั้งอนุมัติงบประมาณ การเดินทางไปต่างประเทศ และโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงระดับ 8-9 โดยไม่มีคณะกรรมการครบองค์ประชุมตามหลักธรรมาภิบาลนั้น โดยองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยชี้แจงว่า แม้ปัจจุบันคณะกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (อสส) จะมีจำนวนเพียง 2 คน โดยมีผู้อำนวยการ อสส. ทำหน้าที่เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง รวมเป็น 3 คน แต่การดำรงตำแหน่งของกรรมทั้ง 3 คน เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย และยังถือว่าครบองค์ประกอบของคณะกรรมการตามที่พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย พ.ศ.2563 กำหนด ทั้งนี้นับตั้งแต่กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567 เป็นต้นมา คณะกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ได้ทยอยลาออกจำนวน 6 คน ทำให้คงเหลือกรรมการ 5 คน ต่อมาในเดือนมีนาคม 2567 กรรมการอีก 1 คนได้ลาออก และอีก 1 คนพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ส่งผลให้คงเหลือกรรมการปฏิบัติหน้าที่อยู่เพียง 3 คนในปัจจุบัน โดย มาตรา 16 ของ พ.ร.ฎ.ดังกล่าวได้บัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า ในกรณีที่ประธานกรรมการหรือกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ คณะกรรมการที่เหลือยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้จนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการใหม่ และ มาตรา 17 ยังให้อำนาจคณะกรรมการในการกำกับดูแลและดำเนินการภารกิจสำคัญขององค์การ เช่น การกำหนดนโยบาย อนุมัติงบประมาณ แผนการเงิน การลงทุน และการออกระเบียบภายในที่จำเป็นเพื่อไม่ให้การดำเนินงานขององค์การหยุดชะงัก และเพื่อให้การบริการสาธารณะขององค์การสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใสและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนโดยรวม ด้วยเหตุนี้ การดำเนินการของคณะกรรมการช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ครบองค์ประกอบตามที่กฎหมายกำหนด และอยู่ภายใต้รอบหน้าที่และอำนาจอย่างชัดเจน และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภารกิจหรือผลประโยชน์สาธารณะ ทั้งนี้องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการสรรหากรรมการองค์การ ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ.2567 โดยมีหน้าที่และอำนาจดำเนินการสรรหาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในพ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2518 รวมทั้งแนวทางการแต่งตั้งกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ต่อมาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2568 คณะอนุกรรมการฯได้นำเสนอรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณา เพื่อดำเนินการแต่งตั้งต่อสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ตามขั้นตอนของกฎหมาย อย่างไรก็ดีระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติของ สคร.พบว่าบุคคลบางรายมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย ส่งผลให้ต้องกลับมาดำเนินการพิจารณาสรรหารายชื่อใหม่อีกครั้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการดังกล่าว
สำหรับข้อร้องเรียนเรื่องการใช้อำนาจตัดสินใจอย่างไม่รอบด้านนั้น องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯชี้แจงว่า การดำเนินงานของคณะกรรมการ อสส.เป็นไปตามหน้าที่และอำนาจที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.ฎ.จัดตั้งองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย พ.ศ.2563 โดยเฉพาะ มาตรา 17 ซึ่งกำหนดให้คณะกรรมการมีอำนาจควบคุม ดูแล และบริหารจัดการองค์การโดยรวม รวมถึงการกำหนดนโยบาย อนุมัติงบประมาณ แผนการเงิน แผนลงทุน และการออกระเบียบภายใน ตลอดจนดำเนินการอื่นที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์การ นอกจากนี้ ตามมาตรา 19 ยังให้คณะกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อช่วยพิจารณาหรือปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งในทางปฏิบัติที่ผ่านมา คณะกรรมการได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานหลายชุด โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขาเข้ามามีส่วนร่วมในการกลั่นกรองข้อมูล วิเคราะห์ผลกระทบ และให้ข้อเสนอแนะในประเด็นสำคัญต่างๆอย่างรอบด้าน ทุกเรื่องที่นำเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการจะต้องผ่านการพิจารณาอย่างละเอียดโดยฝ่ายบริหาร และได้รับการทบทวนหลายรอบตามข้อสั่งการของคณะกรรมการ เพื่อให้ข้อมูลมีความครบถ้วน โปร่งใส และตอบโจทย์ภารกิจขององค์การอย่างรัดกุมก่อนการตัดสินใจ ดังนั้นการที่มติของคณะกรรมการเป็นเอกฉันท์ในหลายเรื่อง ไม่ได้เกิดจากการขาดความเห็นหรือขาดกลไกลถ่วงดุล แต่เป็นผลจากการพิจารณาอย่างรอบครอบจากทั้งฝ่ายปฏิบัติ คณะอนุกรรมการและผู้เชี่ยวชาญ ก่อนที่จะเสนอเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการ ขอยืนยันว่าการดำเนินงานทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของหน่วยงาน
สำหรับข้อร้องเรียนต่อพฤติกรรมของประธานบอร์ดที่อาจเข้าข่ายขัดต่อ พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2518 และจริยธรรมของผู้บริหารนั้น องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯชี้แจงว่า การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในฐานะพลเมืองของประเทศไทยเป็นสิทธิขึ้นพื้นฐานที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งอนุญาตให้ประชาชนทุกคนสามารถแสดงความเห็นโดยสุจริตได้ ตราบใดที่ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่นหรือฝ่าฝืนกฎหมาย ทั้งนี้เมื่อพิจารณาตาม พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2518 ซึ่งกำหนดคุณสมบัติของกรรมการไว้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในมาตรา 5 ที่ระบุลักษณะต้องห้าม เช่น ห้ามเป็นกรรมการพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง ซึ่งประธานกรรมการองค์การ มิได้มีสถานะใดๆตามที่ข้อกฎหมายดังกล่าวห้ามไว้แต่อย่างใด อีกทั้งยังมิได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือมีบทบาททางการเมืองในเชิงปฏิบัติ ดังนั้นจึงไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย และสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการได้อย่างชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ ตาม พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ.2562 ได้กำหนดหลักการสำคัญที่เจ้าหน้าที่ของรัฐพึงยึดถือ เช่น ความซื่อสัตย์สุจริต การกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง การคิดถึงประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ประธานกรรมการได้ปฏิบัติหน้าที่ยังไม่มีข้อเท็จจริงหรือหลักฐานใดชี้ชัดว่าการแสดงความเห็นดังกล่าวได้ก่อให้เกิดผลเสียต่อองค์การ หรือเป็นการใช้ตำแหน่งโดยมิชอบแต่อย่างใด การแสดงความเห็นของประธานกรรมการในที่สาธารณะนั้น จึงถือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญในฐานะประชาชน มิได้เกี่ยวข้องกับการใช้ตำแหน่งหน้าที่ และมิได้มีพฤติกรรมใดที่ขัดต่อกฎหมายหรือจริยธรรมที่กำหนดไว้ ประธานกรรมการยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจสุจริต โดยใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มกำลัง ทั้งในฐานะนักบริหารและนักกฎหมายเพื่อให้การดำเนินงานขององค์การเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อองค์การ
สำหรับข้อร้องเรียนประเด็นความไม่เหมาะสมในการบริหารงบประมาณนั้น องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯชี้แจงว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อนจากบริบทและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจริงอย่างมาก เพราะการเดินทางไปต่างประเทศของคณะกรมการและผู้บริหารองค์การในช่วงที่ผ่านมา เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ขององค์การในการเพิ่มประสิทธิภาพและขยายความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เช่น การศึกษาดูงานสวนสัตว์ระดับโลก การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการสัตว์ป่าและการอนุรักษ์ การเข้าร่วมประชุมความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาองค์การสวนสัตว์ของไทยให้ทัดเทียมนานาชาติ ทั้งนี้การเดินทางทุกครั้งได้รับการอนุมัติอย่างถูกต้องตามระเบียบองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงาน พ.ศ.2567 และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนดอย่างเคร่งครัด ส่วนประเด็นเรื่องการลดอัตราจ้างพนักงาน เป็นมาตรการที่องค์การต้องดำเนินการในช่วงวิกฤติโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้ต้องปิดสวนสัตว์ทุกแห่งทั่วประเทศตามมาตรการควบคุมโรค ทำให้องค์การขาดรายได้หลักจากค่าบัตรเข้าชมและการดำเนินงานเชิงธุรกิจหยุดชะงัก จึงจำเป็นต้องลดภาระงบประมาณในส่วนที่สามารถปรับลดได้ โดยเฉพาะการจ้างลูกจ้างรายวัน ลูกจ้างรายเดือน และลูกจ้างในโครงการที่ผูกพันตามงบประมาณประจำปี ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาความมั่นคงทางการเงินขององค์การให้สามารถดำเนินการภารกิจหลักต่อไปได้โดยไม่กระทบต่อสวัสดิการของพนักงานประจำ การดูแลสัตว์ รวมถึงภารกิจสำคัญด้านการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าและบริการประชาชนในระยะยาว และปัจจุบันองค์การได้มีการเพิ่มอัตราจ้างพนักงานประจำ ลูกจ้างรายวัน ลูกจ้างรายเดือนกลับมาเป็นจำนวนมาก เพื่อช่วยเหลือและเยียวยากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสอดคล้องกับสภาวะทางการเงินของหน่วยงานที่มีสภาพคล่องมากขึ้น ขอยืนยันว่า การบริหารงบประมาณขององค์การ ดำเนินการด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดต่อองค์การเป็นสำคัญ อีกทั้งไม่มีการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยหรือผิดวัตถุประสงค์ตามที่ถูกกล่าวอ้าง การเดินทางทุกครั้งอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ส่วนข้อร้องเรียนเรื่องสัญญาสัมปทาน ที่มีการลงนามสัญญา MOU กับบริษัทเอกชนในการจำหน่ายบัตรนั้น องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯชี้แจงว่า องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยดำเนินโครงการ ZOO E-Ticket ตามพ.ร.ฎ.จัดตั้งองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย พ.ศ.2563 มาตรา 8 และ มาตรา 9 ซึ่งให้องค์การมีอำนาจดำเนินการเพื่อประโยชน์ขององค์การและประชาชน รวมถึงสามารถทำนิติกรรม จัดจ้าง หรือมอบหมายเอกชนให้ดำเนินกิจกรรการบางส่วนได้ตามความเหมาะสม เพื่อประสิทธิภาพของการบริการโดยไม่เป็นภาระแก่รัฐ ทั้งนี้เป็นไปตามระเบียบองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยว่าด้วยการดำเนินเชิงธุรกิจ พ.ศ.2565 ที่กำหนดแนวทางการดำเนินกิจการเชิงพาณิชย์อย่างถูกต้องชัดเจน ทั้งนี้โครงการ ZOO E-Ticket มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับระบบการขายบัตรเข้าชมกิจการสวนสัตว์และจากระบบเดิมที่ยังไม่สมบูรณ์ให้มีมาตรฐาน ทันสมัยและรองรับนักท่องเที่ยวในยุคดิจิทัล ในส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่าเอกชนได้รับผลตอบแทนสูงถึง 12 % โดยไม่มีความคุ้มค่าเป็นการกล่าวอ้างที่ “บิดเบือนข้อเท็จจริง” ยืนยันว่าการดำเนินโครงการนี้อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ระเบียบและการบริหารที่รอบคอบ โปร่งใส ทั้งจากฝ่ายบริหาร คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการฯ และสามารถตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ขอยืนยันว่าไม่มีการเอื้อประโยชน์พิเศษแก่เอกชน แต่เป็นการ่วมทุนเพื่อยกระดับการให้บริการของรัฐวิสาหกิจอย่างแท้จริง
สำหรับข้อร้องเรียนประเด็นการโยกย้ายผู้บริหารก่อนหมดวาระนั้น องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯชี้แจงว่า ในส่วนที่มีการกล่างถึงการโยกย้ายตำแหน่งระดับ 8-9 นั้น แท้จริงเป็นการดำเนินการตามข้อบังคับองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยว่าด้วยพนักงานพ.ศ.2563 ที่กำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางบริหารงานบุคคลอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมตามภารกิจ การหมุนเวียนตำแหน่งดังกล่าวเป็นไปตามหลักปฏิบัติปกติของรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐทั่วไปที่ใช้หลักเกณฑ์ “ครบวาระ 4 ปี” ในการดำรงตำแหน่งเดิมอย่างต่อเนื่อง ขอยืนยันว่า การพิจารณาโยกย้ายบุคลากรระดับ 8-9 ไม่ได้มีเจตนาเพื่อสร้างความไม่มั่นคง หรือเร่งดำเนินการก่อนหมดวาระของคณะกรรมการอย่างที่กล่าวอ้าง ทั้งยังไม่มีผลกระทบต่อเสถียรภาพการทำงานขององค์การแต่อย่างใด
สำหรับข้อร้องเรียนประเด็นการสั่งการโดยไม่มีผู้อำนวยการ อสส.ตัวจริงนั้น องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯชี้แจงว่า การแต่งตั้งบุคคลให้รองผู้อำนวยการ รักษาแทนผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เป็นไปตามกฎหมายโดยเคร่งครัด โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ฎ.จัดตั้งองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย พ.ศ.2563 มาตรา 26 ที่บัญญัติไว้อย่างขัดเจนว่า ในกรณีเมื่อตำแหน่งว่างลง และยังไม่ได้แต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งแทน ให้รองผู้อำนวยการทำหน้าที่รักษาการแทน และให้ผู้รักษาการมีหน้าที่และอำนาจเช่นเดียวกับผู้อำนวยการ อย่างไรก็ตามเพื่อให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและแนวปฏิบัติในการบริหารงานรัฐวิสาหกิจ องค์การมีการดำเนินการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสรรหาผู้อำนวยการอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมกราคม 2568 และประกาศสรรหาช่วงเดือนมีนาคม 2568 โดยคณะอนุกรรมการดังกล่าวมีหน้าที่และอำนาจที่ดำเนินการสรรหาให้ได้ผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน เหมาะสมกับภารกิจขององค์การ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นไปตามแนวทางของพ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกระบวนการและพนักงานรัฐวิสาหกิจพ.ศ.2518 และแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดีของรัฐวิสาหกิจพ.ศ.2562 อย่างครบถ้วน
ส่วนข้อร้องเรียนประเด็นธรรมาภิบาลนั้น องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯชี้แจงว่า การดำเนินโครงการสวนสัตว์แห่งใหม่ จ.ปทุมธานี เป็นโครงการที่ได้รับการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และได้ผ่านขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติงบประมาณโดยรัฐสภาเป็นทางการ โครงการดังกล่าวมีวงเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 10,974.65 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ซึ่งในปัจจุบันคณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่บริหารและกำกับดูแลเฉพาะในส่วนของระยะที่ 1 ซึ่งได้รับการอนุมัติงบประมาณในวงเงิน 5,354 ล้านบาท เท่านั้น ส่วนระยะที่ 2 อยู่ระหว่างพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2569 ซึ่งยังมิได้ดำเนินการโครงการ และต้องผ่านกระบวนการพิจารณาและอนุมัติตามขั้นตอนของกฎหมายเช่นเดียวกัน อีกทั้งการอนุมัติเบิกจ่ายหรือดำเนินโครงการทั้งหมดกระทำโดยยึดตามพ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และระเบียบกระทรวงการคลังที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ยืนยันว่าไม่ได้มีการใช้อำนาจแก้ไขข้อบังคับเพื่อรวมอำนาจการอนุมัติโครงการเชิงธุรกิจมาอยู่ที่คณะกรรมการเองแทนที่ผู้บริหารระดับสวนสัตว์แต่อย่างใดทั้งสิ้น และยืนยันว่าการใช้อำนาจของคณะกรรมการในช่วงที่ผ่านมา เป็นการดำเนินงานภายใต้กรอบกฎหมายเพื่อไม่ให้การดำเนินภารกิจของรัฐวิสาหกิจต้องหยุดชะงัก สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ และเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นหากโครงการหรือแผนงานที่ได้รับงบประมาณภาครัฐต้องบ่าช้าหรือไม่สามารถขับเคลื่อนได้ทันตามแผนงาน
ลายละเอียดคลิกลิ้งค์ : https://www.zoothailand.org/download/article/article_20250704120502.pdf
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- “รมว.อรรถกร”ลุย ฉะเชิงเทรา ทำหมันสุนัข-แมว คุมโรคพิษสุนัขบ้า สร้างความปลอดภัยให้ ปชช. ส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ ตั้งเป้าขยายผลโครงการเพิ่ม 30% 18 ก.ย. 2568
- "แพทองธาร" เผย "ทักษิณ" เครียดจนผมร่วง ความดันขึ้น ไม่ค่อยสู้ดี ครอบครัวเยี่ยมให้กำลังใจ เยี่ยมผ่านลูกกรงด้วยความยากลำบาก 18 ก.ย. 2568
- นายกฯ ขนทีมเศรษฐกิจถกหอการค้าบอกโปรดเกล้าฯ ครม.เมื่อใดทำงานทันที 18 ก.ย. 2568
- “อนุทิน” ย้ำปมเขากระโดงต้องเคารพกฎหมาย – ไม่เอาเปรียบประชาชน “ภูมิธรรม” สวนศาลสูงสุดเคยชี้แล้ว พลิกไม่ได้ 18 ก.ย. 2568
- สำนักงาน กกต.สรุปยอดเงินบริจาคให้พรรคการเมือง ประจำเดือนกรกฎาคม 2568 18 ก.ย. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
อบอุ่น-คึกคัก งานวันเกิด "อนุทิน" พรรคภูมิใจไทย จัดเค้กสัญลักษณ์นายกฯ คนที่ 32 20:36 น.
- "ประมวล" คาดเลือกหน.ปชป.คนใหม่ ต.ค.นี้ ไม่ขัด"อภิสิทธิ์ " ขึ้นคุมพรรคแทน "เฉลิมชัย" 19:40 น.
- เปิดประวัติ “บิ๊กดุลย์" ว่าที่ รมช.กลาโหม สายตรง “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” 17:52 น.
- "อนุทิน" ถกว่าที่ รมต.วางกรอบนโยบาย ยังไม่เปิดด่านยันต้องฟังเสียงปชช. ลั่นรักษาผลประโยชน์ชาติ 17:43 น.
- "แพทองธาร" โพสต์ภาพคู่ "ทักษิณ" สะเทือนใจ คนเสื้อแดงรวมตัวกินข้าวหน้าเรือนจำคลองเปรม 16:43 น.