"จินณ์ตวรรณ" ภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อมสส. ศรีสะเกษ เขต 5 คะแนนนำห่าง "ภูริกา" เพื่อไทยกว่า 8  พัน ลั่นพี่น้องแสดงเจตนารมณ์ชัด ต้องการความเปลี่ยนแปลง 

เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2568 การเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 แทนตำแหน่งที่ว่าง แทน นายอมรเทพ สมหมาย สส. พรรคเพื่อไทย ที่เสียชีวิต โดยมีผู้สมัครรับเลือกตั้งจำนวน 2 คน คือ หมายเลข 1 น.ส.ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย (ลูกสาว) และหมายเลข 2 น.ส.จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ลูกพี่ลูกน้องกับ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เหรัญญิกพรรคภูมิใจไทย ทายาทบ้านใหญ่แห่งศรีสะเกษ ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ปิดให้ลงคะแนนแล้ว เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา สำหรับเขตเลือกตั้งดังกล่าวประกอบไปด้วย อำเภอขุนหาญ และอำเภอภูสิงห์ รวม 236 หน่วยเลือกตั้ง มีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากกว่า 160,000 คน 

กกต.ศรีสะเกษ รายงานผลการนับคะแนน (อย่างไม่เป็นทางการ) ณ เวลา 19.48 น. นับแล้ว 226 หน่วย จากทั้งหมด 236 หน่วย  โดบน.ส.ภูริกา ได้ 29,277 คะแนน ขณะที่ น.ส.จินณ์ตวรรณ   37,561 คะแนน  โดยมีคะแนนนำห่างน.ส.ภูริกากว่า 8 พัน 

ที่พรรคภูมิใจไทย อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ น.ส.จินณ์ตวรรณ    แถลงชัยชนะการเลือกตั้งว่า  ขอบคุณทุกคะแนนเสียง ที่พี่น้องชาวศรีสะเกษเขต 5 ออกมาประกาศเจตนารมณ์ในการเปลี่ยนแปลง โดยการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในวันนี้ โดยวันนี้เราเห็นชัยชนะของเราคือการร่วมมือของพี่สองศรีสะเกษเขต 5 ที่ส่งสัญญาณในการอยากเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการเมือง

น.ส.จินณ์ตวรรณกล่าวว่า การทำงานต่อไปประชาชนต้องการเห็นการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา มีท่าทีที่เข้มแข็งและชัดเจน ส่วนสาเหตุในชัยชนะอาจจะเกิดจากหลายปัจจัย โดยปัจจัยที่หนึ่งเราเป็นพื้นที่สีแดง เรามีคำสั่งให้อพยพ ทั้ งอ.ภูสิงห์และขุนหาญ คิดว่าเป็นการบริหารงานที่ผิดพลาด หรือไม่มีความสามารถของของรัฐบาลเดิม ซึ่ง จ.ศรีสะเกษ เป็นจุดที่เกิดปัญหาชายแดน เป็นจุดที่ระเบิดลงจุดเแรก แต่เราไม่ได้กับการเยี่ยมเยียนจากรัฐบาลเดิม เราก็ส่งสัญญานออกไปในการตั้งคำถาม

น.ส.จินณ์ตวรรณกล่าวต่อว่า ปัจจัยที่สองคือเราลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ ประชาชนสามารถเข้าถึงเราได้ง่าย จากนี้สิ่งที่เราจะทำเป็นอันดับแรกคือเตรียมตัว หาข้อมูลทั้งการแก้ไขปัญหาชายแดน การแก้ปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ เตรียมตัวเพื่อไปเสมอแนวทางการแก้ปัญหาในสภา

"จะทำให้ดีที่สุดให้ประชาชนเห็นความจริงใจ" น.ส.จินณ์ตวรรณกล่าว