“ชูศักดิ์” ตั้งข้อสังเกตการเปิดทางร่าง รธน. ใหม่ส่อล่ม เหตุ ครม. ไร้ท่าทีเสนอร่างแก้ไข  MOA ส้ม-น้ำเงินอาจได้แค่ยุบสภา 4 เดือน  ที่เหลือไม่ได้อะไรเลย ถามหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จริงใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงนโยบายรัฐบาล โดยตั้งข้อสังเกตถึงประเด็นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดทางร่างฉบับใหม่ว่า ขณะนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่มีท่าทีชัดเจนในการเสนอยกร่าง ทั้งที่มีการทำบันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่างพรรคการเมือง ซึ่งอาจทำให้สิ่งที่ได้จริงมีเพียงการยุบสภาใน 4 เดือน แต่ไม่สามารถเดินหน้าเรื่องรัฐธรรมนูญได้

ชูศักดิ์ระบุว่า แม้ข้อตกลงระบุให้ ครม. พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทยร่วมกันผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อจัดทำฉบับใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญจากการเลือกตั้ง แต่ในนโยบายรัฐบาลกลับมีเพียงข้อความสั้น ๆ ในอารัมภบท ต่างจากเนื้อหาในข้อตกลงที่เขียนไว้ชัดเจน 5 ข้อ จึงทำให้เกิดความไม่มั่นใจว่ารัฐบาลมีความจริงจังหรือไม่

นอกจากนี้ ยังมีเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคที่ประกาศไม่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้เหตุผลว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 เป็น “ฉบับปราบโกง” และควรรักษาไว้ ทำให้การผลักดันร่างแก้ไขเพิ่มเติมเสี่ยงไม่ผ่าน เนื่องจากการพิจารณาต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา และต้องได้เสียงจากวุฒิสภาไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม

“หากสุดท้ายการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ ประเทศไทยจะได้เพียงการยุบสภาภายใน 4 เดือน แต่ไม่ได้รัฐธรรมนูญใหม่ คำถามคือ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ” ชูศักดิ์กล่าว

เขายังชี้ว่า ปัจจัยที่อาจทำให้การแก้รัฐธรรมนูญล้มเหลว ได้แก่ การไม่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากในรัฐสภา การถูก ส.ว. คว่ำเสียง และความเป็นไปได้ที่จะมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ รวมถึงการเคลื่อนไหวคัดค้านจากภาคส่วนต่าง ๆ

พร้อมทิ้งท้ายว่า การร่างรัฐธรรมนูญใหม่คือสิ่งที่ประชาชนรอคอย แต่หากรัฐบาลไม่จริงใจและขาดความพร้อม ก็อาจทำให้ความพยายามครั้งนี้ล้มเหลวตั้งแต่ต้นทาง