วันพฤหัสบดี ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2568 02:41 น.

การเมือง

 เริ่มแล้ว!  “ตรีนุช” เปิดให้แรงงานเมียนมาในพื้นที่พักพิง 4.2 หมื่นคน  ออกทำงานถูกกฎหมาย แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานภาคธุรกิจ

วันพุธ ที่ 01 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 16.21 น.

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เห็นชอบแนวทางผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวที่พำนักอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา สามารถออกมาทำงานนอกพื้นที่ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงแรงงานได้ออกประกาศร่วมกันมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม พร้อมทั้งสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเปิดโอกาสให้คนต่างด้าวที่มีศักยภาพ สามารถเข้าร่วมทำงานภายใต้ระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย

นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า แรงงานกลุ่มนี้เป็นผู้พำนักอยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราว 9 แห่ง ใน 4 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี และราชบุรี โดยกรมการปกครองได้ขึ้นทะเบียนไว้แล้ว และได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้สามารถทำงานได้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งอนุญาต โดยขั้นตอนการดำเนินการมี 6 ขั้นตอน ดังนี้
1. นายจ้างที่ประสงค์จะจ้างแรงงาน ต้องไปคัดเลือกคนต่างด้าวในพื้นที่พักพิงชั่วคราว

2. แจ้งรายชื่อคนต่างด้าว พร้อมสถานที่ทำงาน และระยะเวลาการจ้างงาน ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัดต้นทาง
ซึ่งพื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาตั้งอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ

3. ยื่นคำขอออกนอกเขตพื้นที่ควบคุมเพื่อไปทำงาน ต่อนายอำเภอหรือปลัดอำเภอที่ได้รับมอบหมายในเขตท้องที่ที่ผู้ขออนุญาตพำนักอยู่ในเขตพื้นที่ควบคุม พร้อมใบรับแจ้งข้อมูลคนต่างด้าว ที่ประสงค์จะออกไปทำงานนอกเขตควบคุม

4. คนต่างด้าวรายงานตัวต่อกรมการปกครองในจังหวัดปลายทางภายใน 48 ชั่วโมง ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้รายงานตัวต่อผู้อำนวยการสำนักกิจการความมั่นคงภายใน ส่วนจังหวัดอื่นให้รายงานต่อนายอำเภอ 

5. นายจ้างนำคนต่างด้าวไปตรวจสุขภาพ ณ สถานพยาบาลของรัฐ และทำประกันสุขภาพตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพคนต่างด้าว

6. นายจ้างนำคนต่างด้าวยื่นคำขออนุญาตทำงาน พร้อมเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคำขอ และชำระค่าธรรมเนียม 100 บาท ในการยื่นครั้งแรก ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัด ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของสถานประกอบการ ส่วนครั้งถัดไปจะมีค่าธรรมเนียมการขออนุญาตทำงานปีละ 900 บาท และค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอ 100 บาท คนต่างด้าวสามารถทำงานกับนายจ้างได้ทุกประเภทงานที่ไม่มีประกาศห้ามคนต่างด้าวทำ

นายพิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า จากสำรวจผู้ที่อยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราวทั้ง 9 แห่ง ซึ่งเป็นวัยแรงงานที่พร้อมทำงาน อายุระหว่าง 18 – 59 ปี จำนวน 42,601 คน โดยในจำนวนนี้ มีแรงงานที่ประสงค์พร้อมทำงานจำนวน 12,000 คน ขณะที่มีนายจ้างแจ้งความประสงค์จ้างแรงงานแล้วจำนวน 6,152 คน สำหรับประเภทกิจการที่มีความต้องการแรงงานมากที่สุด ได้แก่ กิจการก่อสร้างการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เกษตรและปศุสัตว์ ประมง การผลิตหรือจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ตามลำดับ

ทั้งนี้ กรมการจัดหางานขอความร่วมมือจากนายจ้างและสถานประกอบการที่ประสงค์จะจ้างแรงงานกลุ่มดังกล่าว ให้ศึกษารายละเอียดแนวทางการดำเนินการ และปฏิบัติตามขั้นตอนให้ครบถ้วน หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1–10 สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน
 

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง