“อดิศร” ตั้งคำถาม อนุทิน 187 ตามหมายเรียก DSI คดีฮั้ว สว. เป็นคนเดียวกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ย้ำประธานวุฒิสภาเองก็มีรายชื่ออยู่อันดับ 3 ยังไม่ต้องพูดถึง ครม. เพราะสภาจะลุกเป็นไฟ ยืนยันไม่เชื่อว่าสุจริต เพราะอำนาจวุฒิสภาถูกตั้งคำถามว่าปล้นมา หรือสมคบกันอย่างละเอียดละออหรือไม่  

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายในการแถลงนโยบายรัฐบาล โดยตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล หลังมีรายชื่อ “อนุทิน ลำดับที่ 187” ปรากฏอยู่ในหมายเรียกของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เกี่ยวกับคดี “ฮั้วเลือก ส.ว.”

อดิศรชี้ว่า คดีดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะวุฒิสภามีอำนาจคัดเลือกองค์กรอิสระและกลั่นกรองกฎหมาย การสอบสวนครั้งนี้มีถึง 4 หน่วยงานร่วมกันทำงาน ทั้ง กกต. ดีเอสไอ อัยการ และตำรวจ สะท้อนว่าข้อเท็จจริงมีน้ำหนักอย่างยิ่ง โดยผลการเลือก ส.ว. พบว่ามีคะแนนตรงกันเป๊ะราวกับ “โพยเลือกตั้ง” ไม่ใช่ความบังเอิญ

“ถ้าอนุทิน 187 คือคนเดียวกับนายกรัฐมนตรี เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า 4 เดือนที่อยู่ในอำนาจ จะไม่ใช่การเข้ามายุบคดีนี้” อดิศรกล่าว พร้อมย้ำว่าหากผลสอบออกมา พรรคการเมืองและคณะรัฐมนตรีทั้งหมดอาจถูกยุบและถูกตัดสิทธิทางการเมือง

นอกจากนี้ อดิศรยังเปิดเผยว่าแม้แต่ประธานวุฒิสภา นายมงคล สุรสัจจะ ก็มีรายชื่ออยู่ในลำดับที่ 3 ของผู้ถูกสอบสวน และยังมีรัฐมนตรีหลายคนใน ครม. ปรากฏชื่ออยู่ในเอกสารเช่นกัน

การอภิปรายดังกล่าวสร้างความตึงเครียดในที่ประชุม ส.ว. ลุกขึ้นประท้วง หลังอดิศรใช้คำว่า “ปล้นอำนาจ” ต่อมาจึงยอมถอนและเปลี่ยนถ้อยคำเป็น “สมคบกันมาอย่างละเอียดละออ”

อดิศรทิ้งท้ายว่า ตนไม่เชื่อว่านายกรัฐมนตรีชุดนี้จะซื่อสัตย์สุจริตต่อระบอบประชาธิปไตย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าพฤติกรรม “ฮั้ว ส.ว.” คือหลักฐานที่รอการพิพากษา และถามประชาคมการเมืองไทยว่า “รัฐบาลที่มีข้อครหาหนักเช่นนี้ จะให้ความไว้วางใจได้แม้แต่วินาทีเดียวหรือไม่”