วันอาทิตย์ ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2568 07:12 น.

การเมือง

"สว.ดร.วราภัสร์" ประธานกมธ.พัฒนาสังคมฯ วุฒิสภา นำคณะลงพื้นที่เรือนจำกลางนครราชสีมา เพื่อติดตามการคุ้มครองสิทธิผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง

วันเสาร์ ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 19.46 น.

สว.ดร.วราภัสร์ ไพพรรณรัตน์  ประธานกมธ.พัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการด้อยโอกาส และความหลากหลายทางสังคม “นำคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมฯ วุฒิสภา ลงพื้นที่เรือนจำกลางนครราชสีมา เพื่อติดตามการคุ้มครองสิทธิผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง

วันที่ 10 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุม อาคารย่าโม เรือนจำกลางนครราชสีมา คณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส และความหลากหลายทางสังคม วุฒิสภา นำโดย นางวราภัสร์ ไพพรรณรัตน์ ประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมด้วยคณะกรรมาธิการ ได้เดินทางลงพื้นที่เรือนจำกลางนครราชสีมา ติดตามการคุ้มครองสิทธิและการจัดสวัสดิการผู้ต้องขังกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะผู้ต้องขังหญิง หญิงที่มีบุตร กลุ่มหลากหลาย ผู้สูงอายุ และคนพิการ รวมทั้งมาตรการฟื้นฟูและเตรียมความพร้อมผู้ต้องขังเพื่อกลับคืนสู่สังคม โดยมีนางสาวจันทร์จิรา หวังวรวัฒนากุล ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาผู้ต้องขัง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ พร้อมรายงานข้อมูลที่เกี่ยวข้องและนำตรวจเยี่ยมเรือนจำกลางนครราชสีมา
 

คณะกรรมาธิการได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานของเรือนจำกลางนครราชสีมา ในส่วนของพื้นที่แดนหญิง ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ 2 งาน ปัจจุบันมีผู้ต้องขังหญิงจำนวน 425 คน ในจำนวนนี้มีผู้สูงอายุ 9 คน ผู้พิการ 6 คน ผู้ป่วยจิตเวช 37 คน ผู้ต้องขังกินยาเป็นประจำ 53 คน และเด็กติดมารดา 4 คน โดยการดำเนินงานของเรือนจำเป็นเป็นไปตามข้อกำหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules) ซึ่งครอบคลุมทั้งกระบวนการรับผู้ต้องขัง การตรวจค้น ชี้แจงระเบียบ และการจัดสวัสดิการพื้นฐาน รวมถึงการฟื้นฟูและพัฒนาทักษะอาชีพ ให้กับผู้ต้องขัง อาทิ การฝึกอาชีพตามความสนใจ การอบรมธรรมะ การศึกษาภายในเรือนจำ การฟื้นฟูสุขภาพกายและจิตใจ การเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย โดยการเตรียมตัว 6 เดือนถึง 1 ปีก่อนพ้นโทษ และกรมคุมประพฤติ ราชทัณฑ์ตำบลและราชทัณฑ์ชุมชนจะมีการติดตามดูแลหลังปล่อยเป็นไปอย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมตามเทศกาลต่าง ๆ และส่งเสริมการศึกษา เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถนำความรู้ไปใช้ประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษ อันเป็นการลดโอกาสในการกระทำผิดซ้ำ รวมถึงได้รับทราบปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงาน อาทิ ปัญหาข้อจำกัดด้านพื้นที่ในการควบคุมผู้ต้องขังจิตเวชร่วมกับผู้ต้องขังทั่วไป การขาดงบประมาณในการจัดหาของใช้จำเป็นสำหรับผู้ต้องขังสูงอายุ หญิงและเด็ก เช่น นม แพมเพิร์ส ชุดชั้นใน ผ้าอนามัย เป็นต้น ปัญหาการปล่อยตัวผู้ต้องขังตามหมายศาลในช่วงเย็นซึ่งส่งผลให้ผู้พ้นโทษไม่สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ทัน ปัญหาข้อจำกัดของผู้คุมที่จะต้องนำผู้ต้องขังที่เป็นคนพิการออกไปตรวจร่างกายเพื่อทำบัตรประจำตัวคนพิการ และประเด็นด้านเด็กที่ติดมากับมารดา หรือเด็กที่ญาติไม่สามารถรับไปดูแลได้ ซึ่งยังขาดกลไกประสานงานที่เหมาะสม ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการเห็นควรส่งเสริมความร่วมมือร่วมกับภาคเอกชนเพื่อสนับสนุนงบประมาณและสิ่งของจำเป็นในการดำเนินงาน รวมทั้งควรมีการพิจารณาหารือแนวทางการปล่อยตัวผู้ต้องขังให้เหมาะสมและปลอดภัย 

จากนั้น คณะกรรมาธิการได้ลงพื้นที่ พบปะพูดคุยและให้กำลังใจผู้ต้องขังหญิงในแดนหญิงจำนวนกว่า 400 คน พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมพื้นที่ภายในแดนหญิง ได้แก่ ห้องนอนผู้ต้องขัง ห้องแม่และเด็ก ห้องอเนกประสงค์ และห้องให้คำปรึกษา ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการจะได้นำข้อมูลจากการลงพื้นที่ครั้งนี้ประกอบการพิจารณา ตามหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมาธิการต่อไป


 

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง