วันเสาร์ ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2568 07:56 น.

การเมือง

"ศุภจี" อยู่ไหน!  "ยรรยง" ตามหารัฐมนตรีช่วยชาวนาเชียงใหม่ เผชิญราคาข้าวตกต่ำ - ตอก! ไม่สมราคาคุยทำงานมืออาชีพ-แก้ปัญหาเกษตรกร

วันศุกร์ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 14.12 น.

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2568  นายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่ชาวนาจังหวัดเชียงใหม่ จากหลายอำเภอ รวมตัวกันกว่า 100 คน บุกศาลากลางเชียงใหม่ เพื่อยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเรียกร้องไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ให้เร่งมือช่วยแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำเหลือเพียงกิโลกรัมละ 7 บาท หรือเท่าราคาบะหมี่สำเร็จรูปแค่ซองเดียวว่า หลังจากตนเห็นข่าวดังกล่าว ตนยังไม่เห็นนายกรัฐมนตรี หรือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะเข้าไปให้ความสนใจ เข้าไปรับรู้ หรือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวนาเลยสักคน แต่ปล่อยให้ข้าราชการระดับล่างในพื้นที่ ออกรับหน้าแทน

นายยรรยง ยังเห็นว่า ตอนรัฐบาลเข้ารับตำแหน่งตนเองเห็นทั้งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีมืออาชีพหลายคน อ้างว่า จะทำงานอย่างมืออาชีพ และไม่มีวันหยุดวันพัก เพื่อเร่งรัดแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชนโดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นแม้มีเวลาน้อย พร้อมยังระบุว่า "ไม่เห็นสมราคาคุยเลยนะครับ"

นางศุภจี  เปิดเผยว่า ได้หารือทวิภาคีกับนายจาง เจี้ยนเว่ย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2568 เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือและกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน พร้อมขอให้ฝ่ายจีนสนับสนุนและอำนวยความสะดวกสินค้าเกษตรของไทยไปจีน อาทิ ข้าว ลำไย และโคมีชีวิต ซึ่งการพบกับทูตจีนครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีในฐานะที่ทั้งสองฝ่ายเพิ่งเข้ารับตำแหน่ง

โดยตนได้ใช้โอกาสดังกล่าวขอให้ทูตจีนช่วยผลักดันรัฐบาลจีนในการผ่อนปรนมาตรการนำเข้าสินค้าลำไยของไทยไปจีน การขอให้จีนเร่งพิจารณาการเปิดตลาดโคมีชีวิต เพื่อให้ไทยสามารถส่งออกไปจีนได้โดยตรง รวมทั้งตนยังขอให้รัฐบาลจีนซื้อข้าวจากไทยเพิ่มขึ้น โดยให้ความเชื่อมั่นว่าข้าวไทยมีคุณภาพและมีราคาที่ดีมาก ซึ่งหากจีนสนับสนุนจะถือเป็นสัญลักษณ์ที่ดีสำหรับการเฉลิมฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีนในปีนี้

> นางศุภจี กล่าวว่า ในส่วนของกิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างกันนั้น ตนจะนำคณะผู้ประกอบการไทยกว่า 60 ราย เข้าร่วมงานแสดงสินค้านำเข้านานาชาติของจีน (China International Import Expo) หรือ CIIE ที่นครเซี่ยงไฮ้ วันที่ 4-6 พ.ย. ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ไทยจะได้นำเสนอสินค้าคุณภาพ เพื่อขยายมูลค่าการส่งออกของไทยในจีนได้เพิ่มขึ้น โดยในปีนี้ไทยได้รับเกียรติให้เป็น “ประเทศเกียรติยศ” ซึ่งได้รับพื้นที่พิเศษในการจัดนิทรรศการเพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศและสินค้าไทย

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังแสดงความยินดีที่การเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA 3.0) ได้ข้อสรุปและจะลงนามในการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ในปลายเดือนต.ค.นี้ ซึ่งทูตจีนได้ชื่นชมไทยในฐานะประเทศผู้ประสานงานของความตกลง ACFTA ที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จดังกล่าว

ทั้งนี้ จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยมาตั้งแต่ปี 2556 โดยการค้าระหว่างไทยกับจีนในปี 2567 มีมูลค่าการค้ารวม 115,891.58 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น10.37 % จากช่วงเดียวกันของปี 2566 แบ่งเป็นไทยส่งออก 35,277.11 ล้านดอลลาร์ และไทยนำเข้า 80,614.48 ล้านดอลลาร์

สำหรับปี 2568 (ม.ค.-ส.ค.) การค้ารวมระหว่างไทยกับจีนมีมูลค่า 96,254.68 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 28.07 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เป็นการส่งออก 27,715.25 ล้านดอลลาร์ และเป็นการนำเข้า 68,539.44 ล้านดอลลาร์ โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปจีน เช่น ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ยางพารา เป็นต้น

ขณะที่สินค้านำเข้าสำคัญจากจีน เช่น เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เคมีภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง