เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568  ที่เจนีวา, สวิตเซอร์แลนด์ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทย กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา (Inter-Parliamentary Union: IPU) ครั้งที่ 151 ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติเจนีวา ภายใต้หัวข้อ “การยึดมั่นในบรรทัดฐานด้านมนุษยธรรมและการสนับสนุนการปฏิบัติด้านมนุษยธรรมในยามวิกฤติ”

ประธานวันนอร์ย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญกับหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และพร้อมร่วมมือกับรัฐสภาทั่วโลกเพื่อคุ้มครองชีวิตประชาชน ส่งเสริมสันติภาพ และยึดมั่นในแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะในสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ไทยยังคงยึดหลักสหประชาชาติ กฎหมายระหว่างประเทศ และแนวทางอาเซียนในการเจรจา

“ความรุนแรงไม่เคยสร้างประโยชน์ มีแต่สร้างบาดแผลที่ยากลบเลือน รัฐสภาคือเวทีแห่งการสนทนา ความเมตตา และการปกป้องผู้เปราะบางที่สุดของสังคม”  นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวในที่ประชุมใหญ่ IPU

ประธานรัฐสภาไทยยังได้แสดงความกังวลต่อการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง การรุกล้ำอธิปไตยของไทย และการใช้มรดกโลกหรือพลเรือนเป็นเครื่องมือทางการเมือง พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพพันธกรณีระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ ไทยยังเสนอร่างมติ “การเสริมสร้างบทบาทของรัฐสภาในการต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์ข้ามพรมแดน ควบคู่กับการธำรงไว้ซึ่งหลักมนุษยธรรม” เพื่อแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ที่สร้างความเสียหายต่อประชาชนทั่วโลก

ผู้แทนไทยร่วมแสดงบทบาทในคณะกรรมาธิการ IPU หลายเวที

ดร.นพดล อินนา สมาชิกวุฒิสภา และนางวิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการสามัญว่าด้วยประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน เสนอแก้ไขร่างข้อมติว่าด้วย “การรับรองและสนับสนุนเหยื่อของการรับบุตรบุญธรรมระหว่างประเทศที่ผิดกฎหมาย” ซึ่งข้อเสนอของไทยได้รับการสนับสนุนและรับรองจากที่ประชุม

ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคประชาชน ได้อภิปรายในคณะกรรมาธิการว่าด้วยสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ในหัวข้อ “นโยบายควบคุมอาวุธและการไม่แพร่ขยายอาวุธ” โดยยืนยันจุดยืนของไทยต่อการลดและควบคุมอาวุธ เพื่อคุ้มครองชีวิตพลเรือนและสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืน

ไทยยืนยันบทบาทรัฐสภาในเวทีโลก

คณะผู้แทนรัฐสภาไทยย้ำว่า ไทยพร้อมทำงานอย่างสร้างสรรค์กับรัฐสภาทั่วโลก เพื่อธำรงไว้ซึ่งหลักมนุษยธรรม ความยุติธรรม และสันติภาพในระดับสากล ตลอดจนผลักดันให้ปัญหาความมั่นคงใหม่ เช่น อาชญากรรมไซเบอร์ ได้รับการแก้ไขร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม