วันจันทร์ ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2568 02:55 น.

การเมือง

"อนุทิน" พบปะ อสม. และผู้นำสตรี อบจ.กระบี่ ย้ำ  "โกหนู" ฝากช่วยกันสร้างความสามัคคีให้กับบ้านเมือง

วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 18.45 น.

"อนุทิน" พบปะ อสม. และผู้นำสตรี อบจ.กระบี่ ย้ำ  "โกหนู" ฝากช่วยกันสร้างความสามัคคีให้กับบ้านเมือง ร่วมกันดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตประชาชนให้มีแต่สิ่งที่ดีอย่างยั่งยืน 

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568  เวลา 17.10 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พบปะและมอบแนวทางการพัฒนาและยกระดับการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนให้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และผู้นำสตรีองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ กว่า 2,000 คน ณ อาคารแพลตตินั่ม ฮอล์ล อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม นายภๆราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมว.วัฒนธรรม น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล รมช.มหาดไทย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ร่วมให้การต้อนรับ
 
โดยทันทีที่นายอนุทินเดินทางถึงอาคารแพลตตินั่ม ฮอล์ล บรรดา อสม. และผู้นำสตรี อบจ.กระบี่ กว่า 2,000 คน ร่วมร้องเพลง อสม. ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน ได้ร่วมร้องคลอด้วยความฮึกเหิมและเป็นกันเองกับ อสม. และผู้นำสตรี พร้อมรับฟังการกล่าวต้อนรับจากประธานชมรม อสม. กระบี่ ก่อนจะขึ้นเวทีแหลงใต้ "สวัสดีครับ" ก่อนจะกล่าวพบปะและมอบแนวทางการยกระดับดูแลสุขภาพประชาชน และในช่วงท้าย ได้ทำหน้าที่เสมือนเป็น "หลวงพ่อหนู" วัดราษฎร์ทั้งสิ้น "ศรัทธาราม" อวยพรพี่น้อง อสม. และผู้นำสตรี อบจ.กระบี่ เป็นภาษาบาลี เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล
 
นายอนุทิน กล่าวว่า ตนทำงานร่วมกับพี่น้อง อสม. ในฐานะ รมว.สาธารณสุขมา 4 ปี สิ่งมี่ทำให้เราผ่านพ้นวิกฤตที่ใหญ่สุดนี้ นอกจากแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ สิ่งที่ทำให้พลิกฟื้นกลับคืนมา เป็นตัวอย่างประชาคมโลก นานาประเทศชื่นชมโสมนัสการจัดการโควิด-19 ของประเทศไทย คือ "อสม." เพราะประเทศอื่นไม่มี โดยทุกครั้งที่ตนไปประชุมที่ WHO และองค์กรระหว่างประเทศ เรื่อง อสม. ถูกตนหยิบยกมาเป็นที่ชื่นชมทุกองค์กรทุกครั้ง เพราะ อสม. จะสำเร็จต้องมาจาก Inner มาจากข้างในใจ ไม่ใช่มาเพราะหน้าที่ หรือถูกบังคับให้มา  ซึ่งเป็นสิ่งที่มีเฉพาะประเทศไทย และเป็นพลังที่ไม่ว่ามีโรคอะไร เราสู้ได้หมด นี่คือพลังอันเข้มแข็งและศักดิ์สิทธิ์
 
"ในช่วงโควิด-19 อสม. จะเดินตามหมอและพยาบาลไปทุกบ้าน มือต้องถือแอลกอฮอล์ ถือยาดม หน้ากากอนามัย และที่วัดไข้ เพราะการกักตัว การบริหารจัดการต่าง ๆ เมื่อหมอติดโควิด-19 บุคลากรวงต่าง ๆ ก็ต้องหยุดทำหน้าที่ จนกระทั่งต้องให้ "อสม." เป็นผู้ดูแล โดยมีระบบการแพทย์ทางไกล (Telemed) ตรวจกันทางจอมือถือ จนทำให้คุณค่า อสม. เกิดขึ้นทันใดและได้รับการยอมรับ ดังนั้น ไม่ว่าตนอยู่ที่ไหน กระทรวงไหน เมื่อเจอ อสม. จะตื่นเต้นและรู้สึกอยากพบเจอกับทุกท่าน และตนก็เป็น อสม. ที่บุรีรัมย์ โดยตนภูมิใจที่ได้ขับเคลื่อนโครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ให้กับ อสม. เพื่อเวลา อสม. เสียชีวิต จะได้ไม่ต้องกังวลในยามต้องจากไป กระทั่งประสบความสำเร็จถึงทุกวันนี้ ซึ่งตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการเรื่องนี้ โดยเอาโมเดล อสม. มาประยุกต์กับ อส. และอาสาสมัครต่าง ๆ ของกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งได้กำชับว่าที่อธิบดีกรมการปกครอง วางระบบอย่างจริงจัง อย่างน้อยมีเงินก้อนนี้คอยดูแลจุนเจือครอบครัวอาสาต่าง ๆ เมื่อต้องจากโลกนี้ไป"
 
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า อสม. อย่าทิ้งประชาชน อสม.คือหมอคนแรกของประชาชนที่เมื่อเขาเจ็บป่วยจะต้องได้พบเพื่อดูแลสุขภาพเบื้องต้น ดังนั้น โครงดาร 1 ตำบล 1 ผู้ช่วยพยาบาลจะยังอยู่ ต้องทำให้เกิดความชัดเจน นอกจากนี้ โครงการฟอกไตฟรีกลับมาในรัฐบาลนี้ เพื่อดูแลชีวิตของพี่น้องประชาชนไม่ต้องติดเข็มติดสายเดินไปมา สามารถเข้ารับบริการฟอกไตฟรีได้
 
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ฝาก อสม. และพี่น้องสตรี อบจ.กระบี่ อย่าให้มียาเสพติด อย่าให้มีขโจรขโจน ทำเมืองไทยให้น่าอยู่ ทำให้กระบี่น่าอยู่ เพื่อให้มีแต่นักท่องเที่ยว มีคนอยากมาเที่ยว เมื่อคนมาเที่ยวก็จะมีรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น รายได้ดีขึ้น บ้านเมืองเราก็จะสามารถขับเคลื่อนพัฒนาทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างรุดหน้าเต็มกำลัง ขอให้ทุกคนย้ำเตือนลูกหลานและทุกคนในชุมชนว่า "ยาเสพติดคือเสนียดจัญไรของบ้านเมือง ใครทำคนนั้นต้องถูกดำเนินคดีเด็ดขาด" ด้วยพลัง อสม. พลังสตรี เราช่วยกันทำได้  ทำให้คนไทยมีความแข็งแรง ไม่เป็นภาระลูกหลาน เพื่อลูกหลานทำงานสร้างเสริมรายได้ สร้างโอกาสต่าง ๆ  เราต้องช่วยกันทำให้ประเทศมีข่าวดีทีละนิดทีละนิด เพื่อทำให้ประเทศไทยมีความสงบสุข และสร้างชีวิต สร้างความสามัคคีให้กับประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง ฝากพวกเราช่วยกันสร้างความสามัคคีให้กับบ้านเมืองเรา เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ และสำหรับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เราต้องทำให้กองทุนเกิดการสร้างมูลค่า สร้างรายได้ ทำให้คุ้มค่า ต้องคิดให้ดีว่าอะไรที่ทำแล้วต้องขายได้และมีราคา เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องสตรีทั่วประเทศอย่างยั่งยืน
 
"ตนคือคนที่ประชาชนเลือก เป็น ส.ส. ประเทศไทย ไปที่ไหนก็ต้องคิดทำประโยชน์ให้ทุกคน โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่ ตนมีความผูกพันกับคนใต้ ภรรยาก็เป็นคนใต้ ดังนั้น ตนเห็นศักยภาพ โอกาส และน้ำใจของคนกระบี่ ขอให้ชาวกระบี่ทุกคนร่วมกันสร้างสรรค์ทำให้จังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดแห่งความสุขที่ยั่งยืน" นายอนุทิน กล่าวในช่วงท้าย
 
น.ส.ซาบีดา กล่าวว่า ตนผูกพันกับกระบี่ ตั้งแต่เมื่อครั้งตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีหน้าที่ดูแลโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ และตอนนี้เป็น รมว.วัฒนธรรม มีหน้าที่ส่งเสริมงานวัฒนธรรมของประเทศชาติ และในฐานะเป็นชาวมุสลิม ตนพึงระลึกถึงหน้าที่ในการส่งเสริมทุกศาสนา ทำหน้าที่ด้วยความยุติธรรมให้ทุกศาสนาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เมื่อได้รับหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ ตนก็พร้อมที่จะดูแลพี่น้องทุกคน ทุกศาสนา และพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจเพื่อพี่น้องประชาชน
.
นายภราดร กล่าวว่า เป็นครั้งที่ 5 ที่ตนได้มาร่วมกิจกรรมกับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดกระบี่ ซึ่งกระบี่มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา ที่ได้ขับเคลื่อนจังหวัดกระบี่ให้มีความสมบูรณ์พูนสุขมากขึ้น โดยเฉพาะพี่น้อง อสม. ซึ่ง นายอนุทิน เมื่อครั้งเป็น รมว.สาธารณสุข ได้สนับสนุนและขับเคลื่อนเงินค่าตอบแทนจาก 500 บาท เป็น 1,000 บาท กระทั่งออกกฎหมายเพิ่มเติมเป็น 2,000 บาท โดยในขณะนี้ การบริการ "ฟอกไตฟรีกลับมาให้บริการพี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่ง" และ 4 เดือนนี้ เราจะขับเคลื่อนสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง
 
น.ส.ศศิธร กล่าวว่า ตนได้รับความไว้วางใจเป็นอย่างสูงให้มาเป็น รมช.มหาดไทย ซึ่งถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เพราะตนขับเคลื่อนงานแม่บ้าน อบจ. บูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายมาตลอด โดยตอนนี้ตนได้รับมอบหมายให้กำกับกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งตนให้ความสำคัญกับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีอย่างต่อเนื่อง และจะทำให้กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นกองทุนเพื่อทำให้คุณภาพชีวิตของพี่น้องสตรีมีแต่สิ่งที่ดีและมีความสุขอย่างยั่งยืน
 
ด้านประธานชมรม อสม. กระบี่ ย้ำว่า ชาว อสม. พร้อม "เป็นมือขวาของหมอ เป็นหมอคนที่ 1 ผู้ดูแลส่งเสริมสุขภาพคนในชุมชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ประชาชนจังหวัดกระบี่มีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน สร้างสังคมสุขภาวะที่เข้มแข็ง"
 
การลงพื้นที่นี้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย  นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายไพรัตน์ เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ร่วมด้วย
 

หน้าแรก » การเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง