ตามแนวทางปฏิบัติ พร้อมย้ำ ผู้ตรวจราชการเป็นเสมือนดวงตาและหัวใจของกระทรวงทำหน้าที่เป็น "กลไกกลาง"  เชื่อมโยงการทำงานทุกหน่วยในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข"  ทำให้พี่น้องประชาชนมีความ "สมบูรณ์พูนสุข"  อย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568  นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ครั้งที่ 6/2568 โดยมี นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย  ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย  ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย  นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย  นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย  นางรณิดา เหลืองฐิติสกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย  พร้อมด้วยผู้ตรวจราชการกรมในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสำนักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุภาพ กระทรวงมหาดไทย 
 
นายนฤชา กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยและปวงพสกนิกรทุกหมู่เหล่าต่างอยู่ในความโศกเศร้าและพร้อมใจกันถวายความอาลัยและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้มีการแจ้งเวียนแนวทางปฏิบัติไปยังทุกส่วนราชการและทุกจังหวัด เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติในช่วงของการไว้ทุกข์แล้ว จึงขอให้ท่านผู้ตรวจราชการกระทรวงทุกท่านได้เน้นย้ำพื้นที่ถึงวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหนังสือสั่งการและโบราณราชประเพณี รวมถึงแนวทางการใช้ดุลพินิจตีความกฎหมายให้ถูกต้อง เป็นไปในทางเดียวกัน และต้องสร้างความร่วมมือภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะครู ก. และ ครู ข. ประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งเป็นผู้ผ่านการอบรมประวัติศาสตร์ของชาติ ได้ทำงานร่วมกับวัฒนธรรมจังหวัด จิตอาสาพระราชทาย เพื่อร่วมสร้างการรับรู้ถึงแนวทางปฏิบัติการถวายความอาลัยให้กับพี่น้องประชาชนในชุมชน/หมู่บ้าน
 
“สำหรับการตรวจราชการในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี พ.ศ. 2568 ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องเร่งรัดให้ทุกภารกิจของกระทรวงมหาดไทยเกิดผลเป็นรูปธรรม โดยท่านอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้ความสำคัญกับการลงตรวจพื้นที่เพื่อติดตามการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของรัฐบาล และนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ตามเขตตรวจราชการที่รับผิดชอบ เพื่อไปรับฟังปัญหาของผู้ปฏิบัติ ข้อร้องเรียนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพราะลำพังแล้วจะหวังพึ่งส่วนราชการอื่น ๆ ก็เกรงว่าจะไม่ทันต่อทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชน ผู้ตรวจราชการกระทรวง รวมถึงผู้ตรวจราชการกรม จึงมีความสำคัญในการรับฟังเสียงสะท้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจติดตามโครงการตามนโยบายเร่งด่วน อาทิ การปราบปรามผู้มีอิทธิพลและป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด การจัดการขยะและสิ่งแวดล้อม การแก้ไขปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ฝุ่น PM 2.5 รวมถึงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก โดยให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ทำหน้าที่เป็น “กลไกกลาง” เชื่อมโยงการทำงานของทุกหน่วยงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด” นายนฤชา กล่าวเพิ่มเติม
 
นายนฤชา กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยทุกท่าน ได้เร่งลงพื้นที่ตรวจราชการอย่างต่อเนื่อง เมื่อเราได้เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ก็ต้องตั้งใจทำงานให้เต็มที่เพื่อ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” พี่น้องประชาชน เพราะ “ผู้ตรวจราชการเป็นเสมือนดวงตาและหัวใจของกระทรวง” ที่มองเห็นปัญหาในพื้นที่อย่างรอบด้าน พร้อมนำข้อเสนอแนะและแนวทางป้องกันแก้ไขมาขับเคลื่อนให้เกิดผลจริง เพื่อให้กระทรวงมหาดไทยเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกสถานการณ์ ร่วมกันยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประชาชน “สมบูรณ์พูนสุข” อย่างแท้จริง