เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568   นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ ดร.มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์ โฆษกกระทรวงแรงงาน นายกานต์ กิตติอำพน คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางสาวมาลากาลัญ ห่อประทุม ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม นางสาวหัฏฐริภิม ณมงคลบุญวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 ผู้บริหารส่วนกลางสำนักงานประกันสังคม นักกายภาพบำบัดและเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่เขตพระนครและเขตดุสิต เพื่อตรวจเยี่ยมคุณภาพชีวิตผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพ 
 
ดร.มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวในโอกาสได้รับมอบหมายจาก นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพว่า กระทรวงแรงงานโดยสำนักงานประกันสังคม เล็งเห็นถึงความสำคัญในการช่วยเหลือดูแลลูกจ้างผู้ประกันตนที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยจนเป็นเหตุให้ทุพพลภาพ และมุ่งหวังให้ผู้ประกันตนมีความรู้สึกอุ่นใจที่มีสำนักงานประกันสังคมให้การดูแล จึงได้ลงพื้นที่เพื่อเข้ารับฟังปัญหาพร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้สิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน ในการนี้ยังได้นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ต่างๆ มามอบให้ผู้ประกันตนทุพพลภาพ ที่อยู่ในการดูแลของสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 จำนวน 3 ราย

โดยรายแรกอายุ 34 ปี เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ทุพพลภาพจากอาการเส้นเลือดในสมองตีบ รวมถึงป่วยด้วยโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย เป็นเหตุให้ร่างกายซีกขวาอ่อนแรง สามารถเดินได้แต่ต้องมีผู้ช่วยพยุง สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของร่างกายร้อยละ 75 ได้รับสิทธิเป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2567 ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 2,989.95 บาท ตลอดชีวิต
 
รายที่ 2   อายุ 50 ปี เป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ทุพพลภาพจากอุบัติเหตุรถยนต์ เป็นเหตุให้ร่างกายซีกขวาอ่อนแรง สื่อสารและช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของร่างกายร้อยละ 80 ได้รับสิทธิเป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2561 ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 2,400 บาท ตลอดชีวิต
  
และรายที่ 3   อายุ 49 ปี เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ทุพพลภาพจากอาการกล้ามเนื้อไม่ประสานงานจากความพิการทางสมอง ซึ่งเกิดจากกรรมพันธุ์ เป็นเหตุให้ร่างกายมีอาการเกร็ง ไม่สามารถพูดได้ การยืนและการเดินไม่สะดวกต้องมีผู้ช่วยพยุง สูญเสียสมรรถภาพในการทำงานของร่างกายร้อยละ 75 ได้รับสิทธิเป็นผู้ทุพพลภาพตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 7,500 บาท ตลอดชีวิต
                  
นางสาวมาลากาลัญ ห่อประทุม ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม กล่าวเพิ่มเติมในตอนท้ายว่า นอกจากสิทธิประโยชน์กรณีทุพพลภาพแล้ว สำนักงานประกันสังคมยังคุ้มครองผู้ประกันตนในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีคลอดบุตร กรณีตาย กรณีสงเคราะห์บุตร กรณีชราภาพ และกรณีว่างงาน เพื่อให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอุ่นใจ และไร้ความกังวล แม้จะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นก็ตาม