วันจันทร์ ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 03:19 น.

การเมือง

“ภูมิใจไทย” ติดปีก “ชาติไทยพัฒนา-คุณปลื้ม-ปิตุเตชะ “แห่ร่วมงานบ้านใหญ่ระยอง” ด้าน “ลูกท็อป” ปัดทิ้ง” ชทพ.”ยังมีผู้ใหญ่ดูแลอยู่ “สนธยา” จับมือ “เฮ้ง” ทำงานให้เมืองชล

วันอาทิตย์ ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 15.45 น.

เมื่อวันที่ 23 พ.ย.2568  เวลา 15.00 น.ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. แถลงเปิดตัวนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำกลุ่มชลบุรี นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง ร่วมงานกับพรรค ภท.โดยนายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้พรรค ภท.มีโอกาสต้อนรับผู้ที่จะมาร่วมการทำงานการเมืองด้วยกันในนามพรรค ภท. ภายหลังจากการมียุบสภาและมีการเลือกตั้งครั้งหน้าที่ใกล้จะถึงนี้ เป็นไปตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ วันนี้ถือโอกาสมายืนยันว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรค ภท.จะมีกลุ่มของนายวราวุธ มาพร้อมกับสมาชิกที่สังกัดพรรค ชทพ. และมีทางนายสนธยาที่จะทำการเมืองร่วมกันในนามพรรค ภท. ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ส่วน จ.ระยอง มีนายปิยะ ที่จะมาทำงานการเมืองร่วมกับพรรค ภท. ซึ่งเราได้มีการหารือทำความเข้าใจถึงนโยบายและแนวทางการดำเนินการทางการเมืองของพรรค ภท. ทุกท่านล้วนแต่มีเป้าหมาย จุดประสงค์ และเจตนารมณ์เดียวกันคือ ตั้งใจเข้ามาอาสาทำงานรับใช้ประเทศชาติ ประชาชน และทำความเจริญก้าวหน้าให้ประเทศไทยมากที่สุด ด้วยประสบการณ์ ศักยภาพ และเครือข่ายต่างๆ ที่เรามีอยู่ ซึ่งชัดเจนว่า เมื่อมีการยุบสภา ท่านทั้งหลายจะมาทำงานด้วยกัน
นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้พรรคภูมิใจไทยมีการประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อตั้งคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง และเป็นไปตามที่คาดการณ์ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นช่วงต้นปีหน้า จึงต้องเตรียมการไว้แต่เนิ่นๆ แล้ววันนี้มีผู้แสดงเจตจำนงจะมาทำงานร่วมกันในทางการเมือง อย่างจังหวัดเพชรบุรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะช่วยดูแลคัดสรร ที่จะมาร่วมงานกันและได้พา นายชัยยะ อังกินันทน์ นายก อบจ.เพชรบุรี และนางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ สส.เพชรบุรี เขต1 และจ่าเอกอภิชาติ แก้วโกศล สส.เพชรบุรี เขต3พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่จะมาร่วมงานในทางการเมือง

และการเลือกตั้งครั้งหน้าจะส่งลงสมัคร ซึ่งเป็น สส.อยู่แล้ว 2 คน โดยจ.เพชรบุรี มีสส.ทั้งหมด 3 คน หากได้มาทำงานร่วมกัน เชื่อว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน แนะนำตนเองและซึ่งตนจะ ลงไป แนะนำตนเองและขอโอกาสจากประชาชนในพื้นที่ ในเร็ววันนี้

เมื่อถามว่า พื้นที่ จ.ชลบุรี ลงตัวแล้วหรือไม่นายอนุทิน กล่าวว่า นายสนธยา คุณปลื้ม และนายวิทยา คุณปลื้ม นายก อบจ.ชลบุรี ได้เดินทางมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนการแบ่งพื้นที่ จ.ชลบุรี ดูแลนั้น นายสุชาติ กล่าวเสริม โดยยืนยันว่าไม่ทับซ้อนกัน ก่อนที่นายอนุทิน กล่าวอีกว่า รายละเอียดของพื้นที่เดี๋ยวค่อยว่ากัน เพราะมีคณะกรรมการสรรหาอยู่แล้ว แล้ววันนี้อะไรที่มีความชัดเจนก็ลงมาแจ้งให้กับประชาชนรับทราบโดยไม่ต้องไปหลบๆซ่อนๆ กั๊กๆอะไรไม่เอา เพื่อจะได้ลงพื้นที่ทำงานได้เลย จะได้แจ้งกับประชาชนว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะทำงานในนามพรรคภูมิใจไทย

เมื่อถามถึงความชัดเจนของนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาที่เดินทางมาพรรคภูมิใจไทยในวันนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ปกตินายวราวุธ เคยเดินทางมาที่พรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ยกเว้นงานวันเกิดพรรค

เมื่อถามว่า ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ว่า จะมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย นายอนุทินกล่าวว่า อย่างที่บอก บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูดอะไร พูดมากคนอ่านไม่ชอบก็ได้ อัพว่ามาทำงานร่วมกันได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น โดยยึดประชาชนเป็นใหญ่และเป็นหลักอยู่แล้ว

 เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยมีความเป็นเอกภาพแต่ขณะนี้มีหลายกลุ่มการเมืองเข้ามาร่วมงานจะสามารถคุมพรรคให้เป็นเอกภาพได้ต่อไปหรือไม่นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีกลุ่มมีก๊วน มีก๊วนเดียว ก๊วนหนูนี่แหละ ทุกคนเรียกผมพี่หมดและนายสุชาติ ก็บ้านติดกัน คุยกันทุกคืน จะไปไหนผมก็ตามถึงบ้าน

เมื่อถามถึงสาเหตุของนายวราวุธ เลือกที่จะทิ้งพรรคชาติไทยพัฒนา มาร่วมกับพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ใครก็รู้ว่าตนกับนายวราวุธ เหมือนพี่น้องคลานตามกันมา สมัยที่นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ก็ดูแลตัวเหมือนลูกหลาน และยังเคยพูดกับตนว่าไปไหนก็ให้ดูแลน้องด้วย มีอะไรก็ดูแลกัน พูดตั้งแต่ตอนท่านยังไม่สิ้นไป แล้วตอนนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีเราก็ได้มาคุยกัน ว่าการทำการเมืองจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนมากที่สุด แยกกันทำก็อาจจะเกิดประโยชน์กับประชาชนไม่เต็มที่ ประสิทธิภาพและศักยภาพของแต่ละคนต้องมีองค์ประกอบด้วยหลายอย่าง ทำให้ตายหากไม่มีองค์ประกอบอื่นๆ ก็จะทำงานได้ไม่เต็มที่ วันนี้เราพยายามใช้ศักยภาพ ประสิทธิภาพประสบการณ์และความสามารถ ของแต่ละคนที่มีที่พร้อมจะรับใช้บ้านเมือง และประชาชนอย่างเต็มที่ เราเอาตรงนี้มาเปิดโอกาส ให้เขาใช้สิ่งที่มี พรรคภูมิใจไทยก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า เราให้โอกาสคนทำงาน ไม่มีการกั๊กหรือก้าวก่ายกัน

เมื่อถามว่า พื้นที่ในกรุงเทพฯ จะมีการดึง สส. เข้ามาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ก็เปิดตัวใกล้ๆกรุงเทพฯ แล้ว นี่คือโอกาสในการสร้างให้กับคนทำงาน ให้ประชาชนเป็นปึกแผ่น ไม่มีเรื่องการด้อยค่า ปรามาสกันหรือพูดถึงคนอื่นในทางไม่ดี เราตั้งหน้าตั้งตาทำงาน และจ.เพชรบุรี ฝันมานานแล้วว่าอยากทำงานร่วมกับนายกอบจ. คนที่ทำให้ฝันเป็นจริงในวันนี้คือนายสุชาติ เราต้องใช้เครือข่ายและความสัมพันธ์ที่มีอยู่แต่ต้องมาทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง ไม่ได้ใช้เครือข่าย ไปทำอะไรที่ไม่ดีไม่ชอบ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยไม่เคยคิดเช่นนั้น

เมื่อถามว่า ฝันต่อไปคือการได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ฝันต่อไปคือขอให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้มาก นั่นคือความฝันอันสูงสุด

เมื่อถามถึงกลยุทธ์ที่จะทำให้พรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคอันดับ 1 ในการเลือกตั้งครั้งหน้านาย อนุทิน กล่าวว่า เราร่วมกันทำงานและทำงานกันอย่างเต็มที่ นโยบายอะไรที่สัญญาไว้กับประชาชนก็ทำให้เต็มที่ ให้ประชาชนเห็น

เมื่อถามว่า การประชุมใหญ่วันนี้มีการพูดถึงการวางตัวแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคภูมิใจไทย แล้วหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกัน ต้องเป็นไปทีละขั้นตอน ยังไงก็มาแน่ ส่วนกรณีของนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ก็เริ่มพูดคุย ซึ่งวันนี้ก็มาร่วมประชุมที่พรรคภูมิใจไทย การจะเอาคนมาเป็นนายกฯเราก็ต้องคุยในรายละเอียด ทำความเข้าใจซึ่งกันและกันให้ได้มากที่สุดถ้าเข้ามาแล้วจะทำงานอย่างไร เพราะตามรัฐธรรมนูญ สามารถเสนอชื่อนายกฯ ได้ 3 คน สมัยก่อนพรรคภูมิใจไทยเสนอชื่อตนคนเดียว แต่ช่วงหลังที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ทางการเมือง บางพรรคใช้ไป 3 คนหมดแล้วแต่บางพรรคมีแค่คนเดียว ดังนั้น เราต้องเติมเต็มและเตรียมความพร้อมไว้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นไฟต์บังคับเพียงเป็นการเตรียมความพร้อมไว้ เผื่ออนาคตเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง จะได้มีความพร้อมในการสานต่องานให้เกิดความต่อเนื่อง

เมื่อถามว่า มองพรรคการเมืองใดเป็นคู่ต่อสู้ของพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งนายอนุทิน กล่าวว่า ก็มองที่พวกเรา ต้อง ต่อสู้กับตนเอง ต้องไม่ขี้เกียจ ไม่ประมาท ไม่คิดว่าประชาชนให้ความไว้วางใจแล้วเราจะอยู่เฉยๆ ไม่สร้างความมั่นใจให้แข็งแกร่งขึ้น เราต้องเอาตัวเองวิ่งตามตัวเอง แล้ววิ่งนำตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เมื่อถามว่า การดึงองคาพยพมาเสริมทัพในภูมิใจไทยทำให้มั่นใจมากขึ้นหรือไม่นายอนุทิน กล่าวว่า ทิศทางของพรรค แนวนโยบายของพรรคบุคลากรของพรรคที่เข้ามาจะทำให้เป้าหมายของเราได้บรรลุ เพราะมีแต่คนมีประสบการณ์มีความรู้ความสามารถ

เมื่อถามถึงกรณีที่ สส.เพื่อไทย หลายคนปรากฏตัวที่ทำการพรรคภูมิใจไทยวันนี้ชัดเจนแล้วใช่หรือไม่ที่จะร่วมงานกัน นายอนุทิน กล่าวว่า มาถึงวันนี้แล้วและการเลือกตั้งครั้งหน้าก็จะเกิดขึ้นภายในเดือนสองเดือนนี้ คงไม่มีอะไรต้องหลบๆซ่อนๆ ซึ่งไม่ดีหรอก จะเห็นได้ตั้งแต่ตั้งรัฐบาล ใครมาก็เปิดให้ประชาชนเห็นเลย ไม่ใช่แอบๆมาแล้วโผล่ชื่อในภายหลัง คนไหนคุยเรียบร้อยหมดแล้วก็เอามาเปิดเผย เช่นเดียวกับ จ.เพชรบุรี ที่มีผู้สมัครชัดเจนก็นำมาเปิดตัว หลังจากนี้ตนจะให้ผู้สมัครและนายสุชาติ พาลงพื้นที่ จ.เพชรบุรี ก่อนหน้านี้ไปได้แค่ อ.ชะอำ ตอนนี้จะไปได้หลายที่ทั้งอำเภอเมือง อ.บ้านลาด และอีกหลายที่ซึ่งตอนนี้ชื่ออำเภอยังจำได้ไม่หมด

เมื่อถามว่า หลังการเลือกตั้งพรรคภูมิใจไทยมีโอกาสสูงหรือไม่ที่จะร่วมงานกับพรรคประชาชน นายอนุทิน ปฏิเสธตอบคำถาม โดยยกมือพร้อมระบุว่าขอไปปิดประชุมใหญ่วิสามัญพรรคก่อน

ด้านนายวราวุธ กล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจร่วมงานกับพรรค ภท.ว่า ขอชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวศิลปอาชาทิ้งพรรค ชทพ.ว่า วันนี้ยังมีศิลปอาชาอยู่ และผู้ใหญ่ของพรรค ชทพ.ยังดำเนินกิจกรรมของพรรคอยู่ ไม่ได้ทิ้งไปไหน ส่วนเหตุผลที่ยกกลุ่มมาร่วมงานกับพรรค ภท.นั้น เดี๋ยวถึงเวลาพอยุบสภาจะได้เห็นถึงความชัดเจนอย่างที่นายอนุทินกล่าว แต่การทำงานแน่นอนเราอยากทำงานให้พี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็น จ.นครปฐม ร้อยเอ็ด และสุพรรณบุรี ให้มีประสิทธิภาพ อย่างเช่น ปัญหาน้ำท่วมที่ จ.นครปฐม สุพรรณบุรี เรื่องสถานการณ์น้ำท่วมหนักหนา  ซึ่งการได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงและหน่วยงานของรัฐต่างๆ ให้กับประชาชน คิดว่าจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
                          
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าเรื่องพรรคเล็กอาจจะไปได้ยาก และจะย้ายเข้าพรรคใหญ่ นายวราวุธ กล่าวว่า ไม่ผิด เพราะจริงๆ แล้วในระบบการเมือง ไม่ว่าจะในประเทศไหนก็ตาม การที่มีพรรคการเมืองจำนวนมากจะทำให้เกิดพรรคร่วมรัฐบาลหรือพรรคร่วมฝ่ายค้านเป็นจำนวนมาก แต่หากดูจากหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาหรืออังกฤษที่มีพรรคการเมืองหลักอยู่ 2-3 พรรค ทำให้การทำงานมีความราบรื่นมากขึ้น
เมื่อถามย้ำว่า ประชาชนในพื้นที่สุพรรณบุรีเข้าใจใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนเองคิดว่าพอถึงเวลา อย่างเช่นในขณะนี้ ถ้าได้มีโอกาสช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มที่ ตนเองเชื่อว่าพี่น้องประชาชนจะเห็นถึงการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ    เมื่อถามอีกว่า ใช้เวลาในการตัดสินใจยากหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นการพูดคุยกันกับทุกคน เพราะไม่ได้ตัดสินใจคนเดียว เป็นการเห็นพ้องต้องกันของสมาชิกที่อยู่ในพรรค
                     
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรค ชทพ.เปลี่ยนมาจากเป็นพรรค ภท.มั่นใจว่าจะได้ยกจังหวัดหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนเองคิดว่าสมาชิกที่อยู่ในแต่ละพื้นที่เราทำงานอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ไม่ว่าจะในสถานการณ์ใดก็แล้วแต่ สมาชิกและสส.ทำงานเคียงข้างพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด และหวังว่าจะได้รับความไว้วางใจอีกครั้งหนึ่ง ก็มั่นใจ
                            
เมื่อถามว่า เป็นทิ้งพรรคซึ่งเป็นมรดกของบิดาหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า “พรรค ชทพ. พ่อบรรหารเองรับไม้ต่อจากราชครู และที่ตนเองกล่าวไปคือ ศิลปอาชายังอยู่คู่กับพรรค ชทพ.อยู่ ที่สำคัญการตัดสินใจดำเนินการทางการเมืองแบบนี้เป็นการรักษามรดกของผมเองไว้ด้วย” ขณะที่นายอนุทิน กล่าวเสริมว่า “ผมก็มาจากตรงนั้นเหมือน พวกเราต่างก็มีที่มาจากตรงนั้นแหละครับ”
                        
ขณะที่นายสนธยา กล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อเกตว่าไม่ถูกกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจริงหรือไม่ ว่า การทำงานทางการเมืองหรือวิถีทางการเมือง บางครั้งในเรื่องการแข่งขันมันก็มีเป็นเรื่องปกติของการเมือง ณ วันนี้ เรื่องการทำงานในนามของพรรค ภท.ทำให้เห็นชัดเจนว่า วิถีกับวิธีการทำงานทางการเมืองที่ จ.ชลบุรี เราทำงานในนามของพรรค ภท.ชลบุรี ทำงานด้วยกัน เดินหน้าไปด้วยกัน เพื่อที่จะสร้างความไว้วางใจ หรือทำให้พี่น้องประชาชนเห็นว่า ทีม ภท.ชลบุรีมีเป้าหมายในการทำงานร่วมกัน โดยมีนโยบายของพรรคเป็นหลัก และมีพวกเราเป็นผู้ขับเคลื่อนนโยบายของพรรคในพื้นที่
                         
ด้านนายปิยะ กล่าวถึงการร่วมงานกับพรรค ภท.ว่า วันนี้ก็อยู่ด้วยกัน มีความคุ้นเคยกัน วันนี้ดีใจที่มาคุยกัน ทราบว่านายกฯมีนโยบายที่กระจายอำนาจ ผลักดันให้ท้องถิ่น ซึ่งตนเองเป็นนายก อบจ.ระยอง ตนเองอยากจะรู้ว่าการพัฒนาท้องถิ่นจะนโยบายชัดเจนอย่างไร วันนี้ดีใจ มีนโยบายที่จะกระจายอำนาจเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีนโยบายที่จะกระจายท้องถิ่น คิดว่าความร่วมมือกับนายกฯและพรรค ภท. มีแนวทางที่ทำให้การพัฒนาพื้นที่ จ.ระยองและเขตอีอีซีของระยองเติบโตขึ้น ส่วนกรณีนายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต สส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะย้ายตามมาพรรค ภท.ด้วยหรือไม่นั้น ปัญหาครอบครัว ความจริงนายสาธิตเป็นลูกน้องนายกฯ พี่น้องอาจจะคุยกันยากหน่อย เจ้านายกับลูกน้องอาจจะคุยกันได้ เลยยกให้นายอนุทินเป็นคนไปคุย ก็ไม่มีปัญหาอะไร อย่างไรเสียเรายังเป็นสายเลือดเดียวกัน  
                            
ขณะที่นายอนุทิน กล่าวเสริมว่า “เอาน่ะ พี่เฮ้ง (นายสุชาติ ชมกลิ่น) กับพี่แป๊ะ (นายสนธยา คุณปลื้ม) ยังมาดีกันได้เพราะน้องหนู (นายอนุทิน ชาญวีรกูล)” ตนเองคิดว่าวันนี้อาจจะเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ทางการเมือง ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาทำการเมืองมาด้วยการแตกแยก มีแต่คิดถึงตัวเองเป็นหลัก วันนี้เราสามารถเปลี่ยนบริบททางการเมือง คนที่ได้รับประโยชน์สูงสุดคือประชาชน แต่อย่าลืมว่าผู้แทนราษฎรคือ ตัวแทนของประชาชน ถ้าผู้แทนราษฎรไม่ถูกกัน ทะเลาะกัน คือ ประชาชนแตกแยกกัน ไม่มีประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้นกับประชาชนและประเทศชาติ สิ่งที่เราต้องการที่สุดวันนี้คือ ความสมัครสมานสามัคคี เอาประสบการณ์ทุกสิ่งที่แต่ละคนสั่งสมกันมา 20 กว่าปี สมัยก่อนเราเป็นวัยรุ่นทางการเมือง แต่วันนี้ต้องถือว่าการสั่งสมประสบการณ์ทางการเมืองมากพอสมควรแล้ว จึงต้องใช้ประสบการณ์ ใช้เครือข่าย ความสามารถ ทำให้ประเทศของเราก้าวหน้า สิ่งที่เราเห็นเรื่องความแตกแยกกันมา วันนี้ตนเองมีหน้าที่ที่จะทำให้เรื่องเหล่านี้หมดไป และมาเป็นพลังเดียวกันเพื่อทำให้เกิดการพัฒนา เกิดความสงบเรียบร้อย ความสามัคคี ทำให้ประเทศไทยของเรากลับมาเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง