การเมือง
ทบ. ชี้เขมรกักกันคนไทย อาจเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม ห้ามส่งออกน้ำมันผ่านช่องเม็ก
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
ทบ. ชี้พฤติการณ์ "กัมพูชา" กักกัน "คนไทย" หลายพันคน ที่ "ด่านปอยเปต" อาจเข้าข่าย "อาชญากรรมสงคราม" ละเมิด "อนุสัญญาเจนีวา" ห้ามส่งออกน้ำมัน-ยุทธภัณฑ์ผ่านด่านช่องเม็ก กกล.บูรพาสรุปสถานการณ์วันที่ 7 ทหารบาดเจ็บ 2 นาย
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2568 จากกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาแสดงพฤติการณ์อย่างชัดเจนในการขัดขวางการเดินทางกลับประเทศไทยของประชาชนชาวไทยจำนวนหลายพันคน ณ ด่านปอยเปตนั้น
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นการควบคุมตัวพลเรือนโดยมิชอบ หรือมีลักษณะใกล้เคียงกับการจับตัวพลเรือนไปเป็นตัวประกัน อันอาจก่อให้เกิดความเข้าใจในระดับนานาชาติว่าเป็นการกักกันตัวโดยผิดกฎหมาย และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะสิทธิและเสรีภาพในการเดินทางกลับประเทศภูมิลำเนาของตนเอง
พลตรี วินธัย ระบุว่า นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าวยังอาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ได้แก่ อนุสัญญาเจนีวา ว่าด้วยการคุ้มครองพลเรือนในเวลาการรบหรือการสงคราม ลงวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1949 รวมถึงพิธีสารเพิ่มเติมของอนุสัญญาเจนีวา และพิธีสารที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากการขัดกันด้วยอาวุธระหว่างประเทศ ค.ศ. 1977
“ทั้งนี้ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกักกันตัวพลเรือนโดยมิชอบดังกล่าว อาจมีความผิดเข้าข่ายเป็นอาชญากรสงคราม ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ เนื่องจากกัมพูชาเป็นภาคีของอนุสัญญาเจนีวาและพิธีสารเพิ่มเติมดังกล่าว จึงมีพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนชาวไทยจำนวนหลายพันคน ณ ด่านปอยเปต สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้โดยเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและหลักสิทธิมนุษยชนสากล” พลตรี วินธัย ระบุ
"ฮุนเซน" ไม่ยอมรับจับคนไทยเป็นตัวประกัน อ้างชงห้ามออกนอกประเทศเพื่อความปลอดภัย
ขณะที่เฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และรักษาการประมุขแห่งรัฐ โพสต์ข้อความแปลเป็นภาษาไทยระบุว่า "เมื่อวานนี้ (13 ธ.ค.) ผมได้ส่งข้อความไปยังรัฐบาลเพื่อเสนอแนะให้ระงับการเดินทางของชาวกัมพูชาและชาวไทยข้ามพรมแดนทางบก เพื่อความปลอดภัยของทั้งสองชาติ อาจมีความสับสนหรือการยั่วยุจากอีกฝ่ายที่คิดว่าเราจะไม่ยอมให้ชาวไทยกลับประเทศ
ผมขอชี้แจงว่า การระงับควรเป็นเฉพาะทางบกเท่านั้น เพราะการสู้รบและการรุกรานเกิดขึ้นตลอดแนวพรมแดนทางบกและทางทะเลบางส่วน สำหรับการเดินทางทางอากาศ ยังคงสามารถเดินทางได้ตามปกติ เพราะไม่มีการสู้รบที่สนามบิน
ดังนั้น ชาวไทยที่อาศัยอยู่ในกัมพูชาสามารถเดินทางออกจากกัมพูชาทางอากาศได้ที่พนมเปญหรือเสียมเรียบ ชาวไทยที่ทำงานใกล้ชายแดนเวียดนามสามารถเดินทางผ่านเวียดนามและหาทางเดินทางกลับประเทศไทยได้ ชาวกัมพูชาที่ต้องการกลับมากัมพูชาก็ต้องกลับกัมพูชาทางอากาศไปยังสถานที่ที่มีเที่ยวบินกลับกัมพูชา
ผมขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า เราไม่ได้ห้ามการเดินทางของชาวกัมพูชาหรือชาวไทย สิ่งที่เราขอให้ระงับคือการเดินทางทางบก ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้คน โปรดทบทวนข้อความของผมเมื่อวานนี้ด้วย! และโปรดอย่าใช้เจตนาดีของผมในการปกป้องชีวิตของทั้งชาวกัมพูชาและชาวไทยมาโจมตีผมแบบนี้"
เมื่อวานนี้ (13 ธ.ค.) นายฮุน เซน เสนอให้รัฐบาลกัมพูชาระงับการเดินทางออกนอกประเทศของชาวไทย และการกลับประเทศของชาวกัมพูชา ระหว่างที่ชาวไทยประมาณ 7,000-8,000 คน มีความประสงค์จะเดินทางออกนอกประเทศกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา แต่ทางการกัมพูชายังคงกักตัวไว้ที่ด่านปอยเปต จังหวัดบันเตียนเมียนเจย ไม่ให้ออกนอกประเทศ ขณะที่ทางการไทยส่งชาวกัมพูชากลับประเทศผ่านด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ไปแล้วมากกว่า 7,000 คน
ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาชี้แจงถ้อยแถลงของนายฮุน เซน ในตอนหนึ่งระบุว่า พลเรือนไม่ใช่คู่ขัดแย้งตามหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ถือเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องกับการสู้รบ (Non-combatants) และต้องไม่ถูกปฎิบัติราวกับเป็นคู่ขัดแย้ง การกระทำใดๆ ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมที่เป็นการจำกัดเสรีภาพการเดินทางของพลเรือน บังคับให้พลเรือนต้องพำนักอยู่ในพื้นที่ความขัดแย้ง หรือใช้พลเรือนเป็นเครื่องมือทางการเมือง ขัดต่อหลักการพื้นฐานของอนุสัญญาเจนีวา
ทภ.2 แจ้งสายข่าวพบ เตรียมส่งออกน้ำมัน จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็กผิดปกติ
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำเวลา 18.00 น. ระบุว่า สถานการณ์ ในวันนี้ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นมา มีเหตุการณ์ที่สำคัญดังนี้
พื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ฝ่ายกัมพูชาทำการโจมตีฝ่ายเราด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ค., ปืนใหญ่ และ จรวด BM-21 ฝ่ายเรา ใช้โดรนทำการปฏิบัติต่อที่หมายตามแผน จำนวน 3 จุด ที่หมายถูกทำลาย 80 %
พื้นที่พระวิหาร – ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ฝ่ายกัมพูชามีการใช้อาวุธยิงสนับสนุนในพื้นที่ ทั้ง ค., ปืนใหญ่ และ จรวด BM-21 และพื้นที่ประตูเหล็กมีการปะทะด้วยปืนเล็กอย่างหนาแน่นต่อเนื่อง ปืนใหญ่ฝ่ายเราดำเนินการยิงสนับสนุนในพื้นที่
พื้นที่ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ฝ่ายกัมพูชาทำการโจมตีฝ่ายเรา ด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ค., ปืนใหญ่ และ จรวด BM-21 อย่างหนาแน่นตลอดทั้งวัน ฝ่ายเราทำการตรึงตลอดแนวการวางกำลัง และตอบโต้ตามเหตุการณ์
พื้นที่ช่องจอม – ช่องระยี – ปลดต่าง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชาโจมตีฝ่ายเราด้วยอาวุธปืนเล็ก และ ค. ในพื้นที่ เป็นห้วงๆ และมีการเพิ่มเติมกำลังประมาณ 300 นาย จากนอกพื้นที่ ฝ่ายเราใช้อาวุธยิงสนับสนุน ค. ยิงต่อที่หมายพื้นที่โอสเม็ด
พื้นที่ปราสาทตาควาย – เนิน 350 อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชาทำการโจมตีด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ค. และ จรวด BM-21 และยังปรากฎการใช้อากาศยานไร้คนขับทั้งแบบทิ้งระเบิด และ FPV ฝ่ายเราปฏิบัติการเข้าตี ยึดครองภูมิประเทศสำคัญ
พื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ฝ่ายกัมพูชาทำการโจมตี ด้วยอาวุธยิงสนับสนุน ปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลัง, ค., ปืนใหญ่, จรวด BM-21 และปรากฏการใช้อากาศยานไร้คนขับบินตรวจการณ์ในพื้นที่ ฝ่ายเราทำการตรึงตลอดพื้นที่การวางกำลัง และตอบโต้ตามเหตุการณ์
พื้นที่สายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ฝ่ายกัมพูชาทำการโจมตีด้วยอาวุธปืนเล็ก และ ค. ในพื้นที่ เป็นห้วงๆ ฝ่ายเราทำการตรึงกำลังฝ่ายตรงข้ามในพื้นที่ ตลอดแนวการวางกำลัง
เรื่องสำคัญอื่นๆ ปรากฏข่าวสารมีการเตรียมส่งออกน้ำมัน ในพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรช่องเม็ก มากผิดปกติ เมื่อเทียบกับห้วงเวลาที่ผ่านมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 จึงแจ้งให้ กองอำนวยการรักษาภายในจังหวัดอุบลราชธานี ตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ และขออภัยในความไม่สะดวก พร้อมกันนี้จึงขอให้พี่น้องประชาชนช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นว่ามีสิ่งผิดปกติ สามารถแจ้งได้ในช่องทางสายด่วน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หมายเลข 1374
ตามที่ปรากฎภาพคล้ายระบบอาวุธนำวิถีต่อสู้รถถังสมัยใหม่ ในห้วงที่มีการปฏิบัติการทางทหารเพื่อควบคุมพื้นที่ช่องอานม้า ตามสื่อสังคมออนไลน์ ปัจจุบันการปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ยังไม่แล้วเสร็จ สำหรับยุทโธปกรณ์ดังกล่าว ได้ถูกเก็บไว้ รอการส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการ ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
กกล.บูรพา สรุปสถานการณ์ปะทะเดือดวันที่ 7 ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้ว ประจำวัน เวลา 18.00 น. ระบุว่า กกล.บูรพา ปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยในสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา เป็นวันที่ 7 โดยมีการปฏิบัติที่สำคัญดังนี้
พื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา ดำเนินกลยุทธ์เข้ายึดครองพื้นที่ โดยใช้อาวุธยิงสนับสนุนควบคุมพื้นที่ ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศเป็นที่โล่งแจ้ง โดยฝ่ายกัมพูชาได้ต่อต้านด้วยการยิง BM-21,ปืนใหญ่ และเครื่องยิงลูกระเบิดอย่างต่อเนื่อง
พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง ยึดครองพื้นที่ตามแนวอ้างสิทธิ์ และใช้อาวุธยิงสนับสนุนเพื่อป้องกันการเพิ่มเติมกำลังของฝ่ายกัมพูชา โดยฝ่ายกัมพูชายังคงต่อต้านด้วยการยิง BM-21,ปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิดอย่างต่อเนื่อง
พื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง ดำเนินกลยุทธ์เข้ายึดครองพื้นที่ โดยใช้อาวุธยิงสนับสนุนควบคุมพื้นที่ โดยฝ่ายกัมพูชาได้ต่อต้านด้วยการยิง BM-21,ปืนใหญ่ และเครื่องยิงลูกระเบิดอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กกล.บูรพา ได้ปฏิบัติการทางทหารต่อฝ่ายกัมพูชา ที่เป็นเป้าหมายทางทหารซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยของไทยและความปลอดภัยของทหารและประชาชน โดยสรุปความเสียหายของฝ่ายกัมพูชาที่พิสูจน์ทราบได้ ตั้งแต่ 8 ธ.ค.68 – ปัจจุบัน ได้แก่ บก.ควบคุม 1 แห่ง, จุดตรวจการณ์/ฐานทหาร 11 แห่ง, บ่อนคาสิโน 1 แห่ง, บังเกอร์ 6 แห่ง, ที่ตั้งยุทโธปกรณ์ 1 แห่ง, ที่ตั้งยิงเครื่องยิงลูกระเบิด 4 แห่ง, พื้นที่ส่งกำลัง/ที่รวมพล 2 แห่ง, คลังกระสุน 2 แห่ง, ยานเกราะ 3 คัน, โดรนตรวจการณ์ 4 ลำ, เสาสัญญาณสื่อสาร 4 ต้น และคาดว่าทหารกัมพูชาเสียชีวิตประมาณ 300 นาย
สำหรับการเตรียมการรับคนไทยจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา กลับเข้าสู่ประเทศ ณ บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศนั้น ปัจจุบันฝ่ายกัมพูชายังคงปฏิเสธการปล่อยตัวคนไทยกลับประเทศ เป็นวันที่ 4
ในส่วนกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยวันนี้มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ เพิ่มเติมจำนวน 2 นาย สรุปยอดกำลังพลได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ตั้งแต่ 8 ธ.ค.68 – ปัจจุบัน บาดเจ็บ 50 นาย และเสียชีวิต 3 นาย ประชาชนในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว ใน 4 อำเภอ ทางจังหวัดสระแก้วร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว 5 พื้นที่ จำนวน 44 ศูนย์ รวม 21,883 คน กองทัพภาคที่ 1 ขอยืนยันว่าจะยืนหยัดปฏิบัติตามภารกิจอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งนี้ การปฏิบัติการทางทหารจะดำเนินการภายใต้กฎการปะทะและสิทธิในการป้องกันตนเองจนกว่าภัยคุกคามในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว จะยุติเพื่ออธิปไตยของไทยและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- "กัญจนา" เคารพศพ "พลทหารบุ้ง-กฤตฏิกร" หนุ่มเลือดสุพรรณ พลีชีพชายแดนไทย-กัมพูชา 14 ธ.ค. 2568
- กองบัญชาการกองทัพไทยสั่งปิดกั้นอ่าวไทย สกัดยุทธปัจจัย-น้ำมัน ลำเลียงเข้ากัมพูชา 14 ธ.ค. 2568
- ศูนย์ราชการฯเปิดตัว “City of Green Lifestyles” เมืองต้นแบบสีเขียวที่มีชีวิตอย่างยั่งยืน 14 ธ.ค. 2568
- โพลชี้พรรคใหญ่ยังนำ-พรรคใหม่เริ่มมาจับตาม้ามืด “ปวงชนไทย” 14 ธ.ค. 2568
- กองทัพภาคที่ 2 เปิดโปง! ทหารกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดดักรถดังดัดแปลง แบบลูกปราย หวังเอาชีวิตทหารไทย 14 ธ.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
"ดร.มหานิยม" ประชุมแกนนำทีมงานสู้ศึกเลือกตั้งสส.สกลนครเขต 2 เซียนการเมืองชี้สู้กันมันหยด ชมผลงานชัดมีลุ้นกลับเข้าสภาอีกรอบ 19:43 น.- ทำไม่ได้ ! “อนุทิน” ตอบ “อันวาร์” หลังขอหยุดยิง 22.00 น. กัมพูชาต้องถอนกำลังพ้นแนวรบก่อน 19:21 น.
- "ตวงทิพย์" โต้ "วัชรพล" ซัดเฟคนิวส์ลอยแพผู้อพยพ ลั่นไม่ใช่เวลามาเล่นการเมือง - ทำคนทำงานเสียกำลังใจ 18:53 น.
- กกต.ชี้แนะแนวทางการจัดกิจกรรมประชุม อบรม สัมมนาของพรรคการเมือง หลังมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ จนถึงวันเลือกตั้ง 18:28 น.
- กรมชลฯ เดินหน้าปรับปรุงโครงการฯมหาราช–บางบาล มุ่งแก้ภัยแล้ง-น้ำท่วม 13:44 น.


