วันเสาร์ ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2568 14:17 น.

การเมือง

ทภ.2 อายัดเงินสด 11 ล้าน ทองอีกเพียบ ทหารไทยยิงถล่ม 5 พิกัดเมืองปอยเปต

วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 12.19 น.

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568  เพจเฟซบุ๊ก กองทัพภาคที่ 2 แจ้งว่า ได้ดำเนินการอายัดทรัพย์สิน หลังตรวจพบเงินสดกว่า "11 ล้านบาท และทองรูปพรรณ" บริเวณโกดังตรงข้ามคาสิโนช่องสะงำ โดยคาดว่ามีความเชื่อมโยงกับ "ทุนเทา" ที่อาจนำไปสนับสนุนการตั้งฐานปฏิบัติการ อาวุธ - กระสุน เทคโนโลยีโดรน และเครือข่ายแสกมเมอร์ โดยในปัจจุบันอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินอย่างละเอียด

ทบ.ปัดล็อกเป้าตึกคาสิโน-สแกมเมอร์ ชี้มีหลักฐานชัดถูกดัดแปลงเป็นที่ตั้งทางการทหาร 
 
 พันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงถึงกรณีที่โจมตีเป้าหมายที่เป็นคาสิโน-สแกมเมอร์ในช่วงที่ผ่านมาการปฏิบัติการทางทหาร โดยยืนยันว่า ทุกเป้าหมายที่กองทัพไทยทุกเหล่าทัพ โจมตีล้วนเป็นเป้าหมายทางทหารทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นกำลังรบ อาวุธยุทโธปกรณ์ อาวุธยิงล้วนเป็นเป้าหมายทางการทหาร ไม่ได้มุ่งโจมตีไปที่คาสิโน และสแกมเมอร์ เพียงอย่างเดียว เพราะทุกที่หมายที่เราโจมตีเข้าไปมีการพิสูจน์ทราบอย่างชัดเจนว่าใช้เป็นฐานที่ตั้งปฏิบัติการทางทหาร โดยที่พบบ่อยครั้งคือจุดควบคุมบัญชาการโดรน มีการปล่อยโดรนโจมตีมาตรงบริเวณนั้น และเป็นคลังอาวุธ ซึ่งเมื่อเราตรวจพบ เราจะโจมตีด้วยอาวุธต่างๆ ที่มี รวมไปถึงใช้กำลังสนับสนุนจากกองทัพอากาศ ซึ่งไม่ได้หมายความว่า กองทัพบกละเลยการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ เนื่องจากมีหน่วยงานที่แก้ปัญหาในเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยมีกองกำลังป้องกันชายแดนร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในการดูแลแก้ปัญหาตามแนวชายแดนการเข้า-ออก

พร้อมย้ำทุกเป้าหมายที่เราโจมตีไม่ว่าจะเป็นคาสิโนหรือแหล่งสแกมเมอร์ เราได้มีการพิสูจน์แล้ว ว่ากัมพูชาชายตรงนั้นปฏิบัติการทางทหารต่อฝ่ายไทย และจุด ที่เรายังไม่ได้มีการโจมตี เนื่องจากยังไม่ได้มีการพิสูจน์ทราบหรือตรวจพบว่ามีการปฏิบัติการทางทหา

ทั้งนี้ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา โดย พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม สรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.) - ช่วงเช้าวันนี้ (18 ธ.ค.)

- เวลา 13.00 น.ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากระดมยิง BM-21 จำนวนกว่า 120 นัดใส่เป้าหมายพลเรือนในพื้นที่ จ.สระแก้ว ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องป้องกันตนเอง

- เวลา 15.00 น.ฝ่ายกัมพูชาระดมยิงอาวุธหนักอย่างต่อเนื่องเข้ามาในพื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ ทำให้มหารไทยเสียชีวิต 1 นาย

- เวลา 16.00 น.ฝ่ายกัมพูชาระดมยิง BM-21 เข้าใส่พื้นที่การเกษตรบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว ทำให้เกิดเพลิงไหม้เสียหายกว่า 1,000 ไร่

- เวลา 18.00 น.ฝ่ายกัมพูชาระดมยิงอาวุธหนักเข้าใส่พื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ทำให้ทหารไทยถูกสะเก็ดระเบิกเสียชีวิต 1 นาย

- เวลา 03.00 น. ทหารกัมพูชาใช้ BM-21 และอาวุธประเภทต่างๆ ยิงเข้ามาในพื้นที่ชายแดน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เนิน 350 และบริเวณปราสาทตาควาย ฝ่ายไทยยิงตอบโต้เพื่อปกป้องตนเอง

- เวลา 06.00 น. หลายพื้นที่ตามชายแดนไทย-กัมพูชา หลายจุดยึงตึงเครียด กองกำลังทั้ง 2 ฝ่ายยังคงตรึงกำลังอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค.68 ถึงปัจจุบันมีทหารไทยเสียชีวิตจากการปะทะ 20 นาย และเสียชีวิตระหว่างปฎิบัติหน้าที่อีก 1 นาย รวม 21 นาย

การปฎิบัติการทางทหาร

เนิน 350 กัมพูชายังรุกหนัก นำร่างทหาร 2 นายออกมาไม่ได้

พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงโจมตีในทุกพื้นที่ ขณะที่ฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่ได้หลายจุดและสถาปนาความมั่นคง เพื่อป้องกันการโต้ตอบจากฝ่ายกัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี ช่องอานม้า ซำแต, จังหวัดสุรินทร์ ช่องจอม ช่องเปลอ ช่องระยี ปราสาทคนา แต่ฝ่ายกัมพูชายังมีความพยายามโจมตีเข้ามาเพื่อช่วงชิงพื้นที่ แต่พื้นที่นี้ฝ่ายไทยยังได้เปรียบอยู่

สำหรับพื้นที่ที่มีการรบอย่างหนักหน่วง ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ที่มียุทธภูมิสำคัญคือเนิน 350 ซึ่งปัจจุบันมีทหารพลีชีพจำนวนมาก และมี 2 นายที่ยังไม่สามารถนำร่างออกมาได้ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังอยู่ในความพยายาม และกัมพูชายังรุกคืบโจมตีอย่างหนัก

ในส่วนของกองทัพภาคที่ 1 กองกำลังบูรพา จุดหลักที่เราพยายามผลักดันการรุกล้ำอธิปไตยของฝ่ายกัมพูชามีอยู่ 3 จุด บ้านคลองแผง บ้านหนองหญ้าแก้ว บ้านหนองจาน ซึ่งสถานการณ์ทั้งไทยและกัมพูชาพยายามควบคุมพื้นที่แต่ด้วยสภาพพื้นที่ราบและมีชุมชน การใช้กำลังในจุดนั้นเรียกว่าระดมยิงด้วยอาวุธวิถีโค้ง ทั้งปืนใหญ่และจรวดเข้าหากัน เพื่อช่วงชิงพื้นที่ แต่สิ่งที่พบมีการใช้ BM-21 ยิงใส่พื้นที่เกษตร และพื้นที่พลเรือนหลายร้อยลูก ซึ่งเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง เราจะต้องตอบโต้แน่นอน ซึ่งถือเป็นพื้นที่หนึ่งเรากำลังช่วงชิง

ยึดคืนพื้นที่บ้านสามหลัง

ขณะที่ ร.ท.หญิงนภัสกร ทิพย์โส ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า สถานการณ์บริเวณบ้านสามหลัง บ้านหนองรี จังหวัดตราด หลังยึดคืนพื้นที่ได้ กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด(กปจ.ชต.) ได้ลงพื้นที่ควบคุมพื้นที่ที่หมาย ตรวจค้นพื้นที่ พบคลังทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งดัดแปลงมาจากทุ่นระเบิดดักรถถังจำนวน 16 ลูก และอีกหลายลูกบริเวณโดยรอบ การกระทำครั้งนี้เป็นการแสดงออกถึงการจงใจสร้างอันตรายแบบไม่ระบุเป้าหมาย เป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและขัดต่อพันธกิจระหว่างประเทศ รวมถึงอนุสัญญาออตตาวา

เร่งอพยพคนไทยติดค้างในกัมพูชา

นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงความคืบหน้ากรณีประชาชนและชุมชนไทยที่ยังตกค้างอยู่ที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชาว่า กระทรวงการต่างประเทศได้เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกให้ประชาชนคนไทยเดินทางออกจากเมืองปอยเปตทางอากาศ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสารการเดินทาง และมีเที่ยวบินรองรับประชาชนเดินทางกลับประเทศไทยเพียงพอ ปัญหาดังกล่าวเกิดจากกัมพูชาประกาศระงับการเดินทางทางบกตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดหลักสากลและกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเมื่อวานนี้นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ได้ทำหนังสือถึงข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ฉบับที่ 2 เพื่อชี้แจงความถูกต้องและการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชา

ด่วน! ทหารไทยยิงถล่ม 5 พิกัดเมืองปอยเปต หลังพบทหารกัมพูชาซ่องสุมกำลังพร้อมอาวุธ
 
เวลา 11.54 น.ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก Army Military Force ได้โพสต์วิดีโอคลิปการทิ้งระเบิดในพื้นที่เมืองปอยเปต จ.บันทายมีชัย ของกัมพูชา ตรงข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมระบุข้อความว่า “ด่วน! ถล่มปอยเปตแล้ว! เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา - ทหารไทยเปิดฉากถล่มฐานทหารเขต 5 พิกัดเมืองปอยเปต หลังพบทหารกัมพูชาซ่องสุมกำลังพลอาวุธรุกรานประเทศไทย”

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 18 ธันวาคม 2568 (เวลา 12.00 น.) ดังนี้
สถานการณ์ พื้นที่ช่องอานม้า : ฝ่ายเราปฏิบัติการเชิงรุกตามแผน ฝ่ายกัมพูชาละทิ้งพื้นที่ ปัจจุบันทำการเสริมความมั่นคง และจัดระเบียบใหม่ ณ ที่หมาย บริเวณขอบหน้าผา

พื้นที่โดนตรวล – ซำแต – สัตตะโสม – พนมประสิทธิโส – ช่องตาเฒ่า : ฝ่ายกัมพูชา ใช้เครื่องยิงลูกระเบิด และปืนใหญ่ตลอดทั้งวัน ฝ่ายเราทำการยิงตอบโต้ด้วยปืนเล็ก และใช้ปืนใหญ่ยิงต่อต้านปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชา
พื้นที่ผามออีแดง – ห้วยตามาเรีย : มีการปะทะเป็นระยะๆ ฝ่ายกัมพูชาใช้ปืนเล็กยาว เครื่องยิงลูกระเบิด รถถัง โดรนทิ้งระเบิด และโดรนพลีชีพ FPV โจมตีฝ่ายเรา โดยฝ่ายเราได้ใช้เครื่องยิงลูกระเบิด ปืนใหญ่ ยิงทำลายเป้าหมาย และปฏิบัติตามแผนอย่างต่อเนื่อง
 
พื้นที่ภูมะเขือ – ช่องโดนเอาว์ – พลาญยาว - พลาญหินแปดก้อน : มีการปะทะกันอย่างหนาแน่น ฝ่ายกัมพูชาพยายามเข้าตี เพื่อยึดคืนพื้นที่ มีการใช้โดรนทิ้งระเบิด โดรนพลีชีพ FPV ต่อกำลังฝ่ายเรา กำลังพลฝ่ายเราปลอดภัย
พื้นที่ช่องคลาคะมุม : ฝ่ายเราทำการยึดครองพื้นที่ได้เพิ่มเติม และกำลังปฏิบัติตามแผน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดระเบียบพื้นที่ใหม่
 
พื้นที่ช่องกร่าง – ตาเมือน – ตาควาย - บริเวณเนิน 350 : มีรบปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายเราระดมยิงอย่างหนัก ทำให้กำลังพลฝ่ายกัมพูชาที่เพิ่มเติมเข้ามา กว่า 160 คน ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ ในส่วนกำลังพลที่ประจำการอยู่เดิม มีความอ่อนล้า ขาดน้ำ และมีการรายงานว่า อาจต้านทานไม่ไหว ขอให้หน่วยเหนือยิงสนับสนุนในทันที และบางจุดได้สั่งให้กำลังพลถอนตัวไปด้านล่าง ทำให้การต่อต้านฝ่ายเราในห้วงเวลาเบาบาง ส่วนหน่วยรถถังของกัมพูชา มีการสั่งการว่า “ห้ามเคลื่อนย้ายหากไม่มีคำสั่ง” ฝ่ายกัมพูชาอาจต้องการใช้เพื่อยิงสกัดกั้น ในภารกิจคุ้มครองกำลังที่กำลังถอนตัว
 
หน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้ปิดล้อมตรวจค้นชุมชนบริเวณพื้นที่ตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำ เนื่องจากที่มีคำสั่งของอำเภอภูสิงห์ ให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวฯ  แต่ยังคงมีประชาชนพักอาศัยอยู่บริเวณชุมชนตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำ และคาดว่าจะมีประชาชนชาวกัมพูชาอาศัยอยู่ จึงร่วมกันเข้าตรวจค้นโกดังสินค้า ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ พบชายสัญชาติไทย กับภรรยาสัญชาติกัมพูชาเป็นเจ้าของ ผลจากการตรวจค้น พบเงินสดจำนวน 11,031,150 บาท และทองรูปพรรณ 33 รายการ โดยเจ้าตัวอ้างว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการค้าขายสินค้าในพื้นที่ตลาดเมืองใหม่ช่องสะงำ เจ้าพนักงานได้ทำการอายัดเงินเพื่อตรวจสอบ และให้เจ้าตัวนำหลักฐานการค้าขายมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ 
 
ขอแจ้งเตือนประชาชน และทหารทุกนาย งดการไลฟ์สด งดโพสต์ และงดแชร์ข้อมูล ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติ  การทางทหาร รวมถึงสถานการณ์ในพื้นที่การรบ ทั้งที่เป็นภาพ คลิปวิดีโอ บทสนทนา หรือข้อมูลอื่นๆ ที่ยังไม่ผ่านการกลั่นกรองจากหน่วยงาน เพื่อความปลอดภัยของกำลังพล และเพื่อไม่เปิดช่องให้ข้อมูลด้านยุทธการรั่วไหล การปฏิบัติตามมาตรการนี้ คือการปกป้องชีวิตของเพื่อนทหารในแนวหน้า และรักษาความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ของชาติ

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง