วันเสาร์ ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2568 01:46 น.

การเมือง

กมธ.กฎหมายฯ วุฒิสภา จัดสัมมนาเข้ม ป้องกัน–ปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ถกทางรับมือแก๊งคอลเซ็นเตอร์–สแกมเมอร์

วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 13.40 น.

คณะกรรมาธิการการกฎหมาย และการยุติธรรม วุฒิสภา จัดสัมมนาเรื่อง “แนวทางการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย มาตรการ และแนวทางในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ท่ามกลางสถานการณ์อาชญากรรมไซเบอร์ที่ทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น

เมื่อเวลา 09.00 น. ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานครพล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย และการยุติธรรม วุฒิสภา เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนา โดยมีคณะกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการการกฎหมายและการยุติธรรม วุฒิสภา พร้อมด้วย ดร.วิชัย ปิยวรรณวงศ์ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการสัมมนาอย่างพร้อมเพรียง

พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัลมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และการสื่อสารไร้พรมแดน ส่งผลให้รูปแบบอาชญากรรมเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะอาชญากรรมทางเทคโนโลยี อาทิ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และกลุ่มสแกมเมอร์ ซึ่งใช้เทคนิคการหลอกลวงผ่านโทรศัพท์และสื่อออนไลน์ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ สร้างความเสียหายโดยตรงต่อประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ

ดังนั้น คณะกรรมาธิการฯ จึงเล็งเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จึงได้จัดการสัมมนาครั้งนี้ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น สะท้อนปัญหา อุปสรรค รวมถึงนำเสนอแนวทางการปรับปรุงกฎหมาย มาตรการ และการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเสถียรภาพการทำงานของวุฒิสภาภายหลังการยุบสภา ว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการผลักดันแก้ไขกฎหมายหรือไม่ พล.ต.ท.บุญจันทร์ ระบุว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของวุฒิสภาแต่อย่างใด และเมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่ วุฒิสภาก็พร้อมนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ทันที เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน

ภายในงานยังมีการปาฐกถาพิเศษเรื่อง “นโยบายและมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” โดย พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งกล่าวว่า ปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ โดยเฉพาะแก๊งสแกมเมอร์ มีการพัฒนารูปแบบการหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกหน่วยงานภาครัฐในการปราบปรามอย่างจริงจัง พร้อมชื่นชมวุฒิสภาที่จัดเวทีสัมมนาครั้งนี้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างยิ่ง

เมื่อถูกถามถึงกรณีที่แก๊งสแกมเมอร์พัฒนารูปแบบการหลอกลวงผ่านระบบสแกนม่านตาและบัญชีม้า พล.ต.ท.รุทธพล ระบุว่า ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด พร้อมยืนยันว่าหากมีการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวจริง ภาครัฐก็มีระบบตรวจสอบยืนยันตัวบุคคลที่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นมนุษย์หรือระบบอัตโนมัติ

ส่วนแผนการเยียวยาผู้เสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ได้กำชับทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในกรอบเวลา 30 วัน ผ่านกระบวนการยึดทรัพย์และเฉลี่ยทรัพย์ เพื่อคืนความเสียหายให้แก่ประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง