วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568 02:14 น.

การเมือง

‘จุลพันธ์’ ประกาศความพร้อมเพื่อไทย สู้ศึกเลือกตั้ง 69 ยึดนโยบาย 3 เสาหลัก เศรษฐกิจ-ความมั่นคง-นิติรัฐนิติธรรม มาแน่ค่าไฟเพื่อคนไทยไม่เกิน 3.70 บาทต่อหน่วย

วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 13.20 น.

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2568 เวลา 10.30 น.  ที่พรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ขึ้นกล่าวในงานเปิดตัวผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ และแบ่งเขตทั้งหมด 500 คน ว่า ตนมั่นใจพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองเดียวที่นำเสนอนโยบายเชิงโครงสร้างเพื่อพัฒนาประเทศ แก้ไขปัญหาให้ประชาชน และผลักดันให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า เราจะต่อสู้กับพลังที่ฉุดรั้งประเทศให้ทดถอย เช่น เรื่องความขัดแย้งทางการเมือง ความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาล และเรื่องปัญหานิติรัฐ นิติธรรม เพื่อก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ พรรคเพื่อไทยขอเสนอตัวเป็นพลังร่วมกับพี่น้องประชาชน ในการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ผ่าน 3 เสาหลักในการออกแบบนโยบายของพวกเรา คือ เสาทางเศรษฐกิจ เสาด้านความมั่นคง และเสานิติรัฐนิติธรรม

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า เสาเศรษฐกิจเราต้องตั้งเข็มทิศให้กับประเทศให้แม่นยำ และชัดเจน พรรคเพื่อไทยวางเป้าหมายภายในระยะเวลา 4 ปีเราจะขับเคลื่อนให้ประเทศมีความเจริญเติบโตทางจีดีพีไม่น้อยกว่า 5% เราจะตั้งเป้าในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ เราจะต้องมียุทธศาสตร์เรื่องภูมิศาสตร์เศรษฐกิจ ผ่านนโยบายการค้าและการคลัง เราจะยกระดับประเทศไทยให้เป็นประเทศรายได้สูงผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรม

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า เสาที่สอง คือเสาความมั่นคง พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านการทหาร ความมั่นคงด้านไซเบอร์ และความมั่นคงด้านสิ่งแวดล้อม เสาที่ 3 คือ เสานิติรัฐ นิติธรรมนอกจากมิติด้านเศรษฐกิจแล้ว เราตระหนักเรื่องความยุติธรรม การธำรงค์ไว้ซึ่งหลักประชาธิปไตยจะเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทย ในการได้รับการยอมรับจากประชาคมโลก ด้วยสาม 3 หลักนี้ ตั้งแต่ปี 2541 เป็นต้นมา ที่พรรคไทยรักไทย ถูกก่อตั้งขึ้นมาโดยทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เรายังคงเป็นพรรคการเมืองที่ทำนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชน เรายังคงยืนอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนเสมอมา พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันการเมืองที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เพื่อสร้างวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าให้กับประชาชน วันที่ 8 ก.พ.ที่จะถึง เป็นการเลือกตั้งที่ประเทศไทยรุมล้อมด้วยวิกฤติหลายด้าน ทั้งวิกฤติด้านการเมือง วิกฤติรัฐธรรมนูญ วิกฤติความแตกแยกในสังคมวิกฤติปัญหาชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านและวิกฤติปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง คุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีความสำคัญมาก สำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย เราไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้เพียงเพื่อเปิดตัวผู้สมัคร เรามาประกาศความพร้อมของพรรคเพื่อไทยว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้ว ประเทศไทยพร้อมแล้ว การเปลี่ยนแปลงจะต้องเริ่มตั้งแต่นาทีนี้เป็นต้นไป โอกาสและความหวังของประชาชนเริ่มที่นี่พรรคเพื่อไทยทำได้ ประเทศไทยก็ทำได้

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ตลอดเส้นทางทางการเมืองตั้งแต่รัฐบาลนายทักษิณนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายเศรษฐา ทวีสิน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ เราพิสูจน์แล้วเป็นที่ประจักษ์ ว่าเราสามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชน เราเป็นพรรคการเมืองเดียวที่ขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีนัย เราเป็นพรรคการเมืองเดียวที่นำเสนอสวัสดิการโดยรัฐสำเร็จผ่านโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เราเป็นพรรคการเมืองเดียวที่ทำเรื่องของไมโครเครดิตสำเร็จ ผ่านกองทุนหมู่บ้าน เราเป็นพรรคการเมืองเดียวที่เคยปฏิรูประบบราชการแล้วเสร็จ ผลงานพรรคเพื่อไทยเป็นที่ประจักษ์ สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศอย่างมีนัยสำคัญนี่คือสิ่งพิสูจน์ว่า ประเทศไทยเราสามารถยกเครื่องได้

เมื่อพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลนี่คือสิ่งที่เราจะทำ ประการแรก พรรคเพื่อไทยไม่เคยละทิ้งพี่น้องเกษตรกร เราจึงนำเสนอนโยบายประกันกำไรสินค้าเกษตร 30% พร้อมไปด้วยนโยบายพักหนี้เกษตรกร และตั้งเป้าหมายราคาสินค้าเกษตรหลัก เช่น ข้าวหอมมะลิที่ 15,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกที่ 10,000 บาทต่อตัน ยางพารา 70 บาทต่อกิโลกรัม ข้าวโพด 7.25 บาทต่อกิโลกรัม และมันสำปะหลัง 3 บาทต่อกิโลกรัม จากนี้ต่อไปด้วยนโยบายประกันกำไรสินค้าเกษตรที่ 30% ชีวิตของเกษตรกรจะไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงของการผันผวนของราคา ไม่ต้องห่วงพะวงต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นมากขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ พรรคเพื่อไทยจะสร้างความมั่นคงให้พี่น้องเกษตรกร จะทำให้พี่น้องเกษตรกรอยู่ในภาคการเกษตรด้วยความภาคภูมิใจ

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า มาตรการต่อไปพรรคเพื่อไทยเราเชื่อว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ในราคาที่เหมาะสม เพราะไฟฟ้าไม่ได้เป็นเพียงแค่พลังงานแต่เป็นเครื่องมือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต้นทุนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของประชาชน เป็นเครื่องชี้วัดความสามารถของการแข่งขันประเทศ ด้วยนโยบายไฟฟ้าเพื่อคนไทย เรายืนยันว่า ค่าไฟจะต้องไม่เกิน 3.70 บาทต่อหน่วย พรรคเพื่อไทยทำได้แน่นอน

นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า อีกมาตรการสำคัญคือ มาตรการการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เด็ดขาดและครบวงจร พี่น้องประชาชนสะท้อนเสียงยาเสพติดว่าเป็นเครื่องบ่อนทำลายเยาวชนของชาติ บ่อนทำลายครอบครัว ชุมชน เราจะปราบผู้ค้ายาอย่างเด็ดขาด ด้วยการสานต่อนโยบาย Seal Stop Safe ซึ่งเดินหน้ามาตั้งแต่รัฐบาลนายกฯแพทองธาร เราจะแก้ไขปัญหาให้กับผู้เสพด้วยการใช้มาตรการลดความรุนแรงอันตรายจากการใช้ยาเสพติด และด้วยนโยบาย 1 จังหวัด 1 ศูนย์บำบัด เราจะเอาภาระในการดูแลผู้ติดยาเสพติดให้พ้นจากการเป็นภาระครอบครัว มาอยู่ในการดูแลของรัฐ พรรคเพื่อไทย มุ่งมั่นจะฟื้นฟูศักยภาพของประชาชน ของเยาวชน เราจะฟื้นฟูความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว เราจะทำให้ประเทศไทยต้องปลอดภัยจากยาเสพติด ชุมชนต้องอุ่นใจ ลูกหลานไทยจะต้องมีอนาคต

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า สุดท้ายพรรคเพื่อไทยจะยกระดับความมั่นคงในทุกมิติ ทั้งความมั่นคงทางทหาร ความมั่นคงทางไซเบอร์ เพื่อแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ อาชญากรข้ามชาติ ปัญหาสแกมเมอร์ เราจะยกระดับความปลอดภัยของธุรกรรมออนไลน์ โดยให้ธนาคาร และผู้ประกอบการโทรคมนาคมร่วมมีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย เราจะตั้งกองทุนเพื่อคืนเงินให้แก่ผู้ถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพทุกประเภท เราจะขึ้นบัญชีดำอาชญากรข้ามชาติ นอกจากนี้ เราต้องแสวงหาความร่วมมือจากนานาชาติในการช่วยกันปราบอาชญากรรมออนไลน์ และการค้ามนุษย์ ไม่ใช่เพียงเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนคนไทย แต่ประเทศไทยจะต้องมีบทบาทนำในการปราบอาชญากรรมข้ามชาติ และสแกมเมอร์นี่คือการแก้ไขปัญหาทุนเทาอย่างเป็นรูปธรรม

สิ่งที่พรรคเพื่อไทยเสนอวันนี้ ไม่ใช่คำสัญญาแต่นี่คือความพร้อมของพวกเราในการลงมือทำ พรรคเพื่อไทยมีคนรุ่นเก๋า คนรุ่นใหม่ เราผ่านบทเรียนที่เจ็บปวด และผ่านความภาคภูมิใจ เรามีความหลากหลายแต่จิตวิญญาณของเรามีเป้าหมายเดียวกัน มีแต่พวกเราเท่านั้นที่จะนำพาประเทศให้หลุดพ้นจากความยากจน

“หลายคนพยายามวาดปีศาจให้คนกลัว แต่เราจะไม่ละเลยปัญหาโครงสร้างเราจะไม่ละเลยการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน จงอย่ากลัวการพัฒนา มีแต่พวกเราที่จะพาประเทศไทยไปข้างหน้า พวกเราคือ พรรคเพื่อไทย มีแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่ทำได้” นายจุลพันธ์ กล่าว

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง

ข่าวในหมวดการเมือง