เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2568  เวลา 17.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนางสาวธนนนท์ นิรามิษ ประธานกรรมการคู่สมรสคณะรัฐมนตรีและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมแม่บ้านมหาดไทย เยี่ยมชมงาน OTOP City 2025 พร้อมเป็นกำลังใจให้กับผู้ประกอบการ OTOP ประเภทต่าง ๆ ณ ชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี  โดยมี นางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และนายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยผู้บริหารของกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมด้วย
 
โดยในวันนี้ นายอนุทิน และคณะ ได้เดินให้กำลังใจผู้ประกอบการ OTOP ในโซนต่าง ๆ อาทิ โซน OTOP ชวนชิม โซนผ้าไทยใส่ให้สนุก โซนจักสานสู่ตลาดสากล โซนศิลปิน OTOP ซึ่งในระหว่างเดินเยี่ยมชมงาน ได้พบปะให้กำลังใจพร้อมทั้งให้คำแนะนำผู้ประกอบการในการพัฒนาผลงานให้เป็นที่ถูกอกถูกใจผู้บริโภค และขณะเดียวกันก็ได้มีประชาชนที่เดินทางมาเที่ยวชมงานในวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายได้ทักทายและให้กำลังใจผู้ประกอบการทั้งได้ให้คำแนะนำต่อนายอนุทิน ในการพัฒนาผู้ประกอบการ OTOP ให้มีผลงานเป็นที่ถูกอกถูกใจของประชาชนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนายอนุทินได้แจ้งให้นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินตรวจเยี่ยมร้านด้วยกัน ได้นำคำแนะนำต่าง ๆ ของประชาชนและนักท่องเที่ยวไปใช้ในการหนุนเสริมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ OTOP ต่อไป
 
สำหรับยอดจำหน่ายสินค้า OTOP ในงาน OTOP CITY 2025 ตั้งแต่วันที่ 20 - 28 ธันวาคม 2568 (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ธ.ค. 68 เวลา 19.00 น.) สามารถจำหน่ายสินค้าสร้างรายได้ให้กับประชาชน เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากแล้วมากกว่า 830 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่างาน OTOP CITY ในปี 2024 มากกว่าร้อยละ 20 โดยเฉพาะในตลอดวันนี้ซึ่งเป็นวันสุดท้ายพบว่า มีประชาชนนิยมเดินทางมาจับจ่ายใช้สอยกันเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งลานจอดรถของอิมแพคชาเลนเจอร์ไม่เพียงพอต่อยานพาหนะที่เดินทางเข้ามาในงาน และจากการสอบถามประชาชนที่เดินทางมาตั้งแต่วันแรก ต่างนิยมเดินทางมาเลือกซื้อเลือกหาสินค้าจากผู้ประกอบการ OTOP โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ได้ร่วมลงทะเบียนตามโครงการคนละครึ่งพลัส
 
สำหรับประเภทสินค้าที่ได้รับความนิยมเลือกซื้อมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1. OTOP 5 ประเภท กว่า 400 ล้านบาท 2. โซนศิลปิน OTOP กว่า 80 ล้านบาท 3. โซน OTOP ชวนชิม กว่า 50 ล้านบาท 4. ภาคีเครือข่าย กว่า 30 ล้านบาท และ 5. OTOP Premium กว่า 25 ล้านบาท