วันเสาร์ ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567 14:11 น.

อสังหา

“อยู่เจริญ” เดินหน้าเติมพอร์ตที่อยู่อาศัยทุ่ม 560 ล้าน ผุด“บ้านอยู่เจริญ ทาวน์ อิน ทาวน์” เอ็กซ์คลูซีฟ 14 ยูนิต

วันศุกร์ ที่ 08 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 18.42 น.

“อยู่เจริญ” เดินหน้าเติมพอร์ตที่อยู่อาศัยทุ่ม 560 ล้าน ผุด“บ้านอยู่เจริญ ทาวน์ อิน ทาวน์” เอ็กซ์คลูซีฟ 14 ยูนิต

 

 

ทายาทรุ่น 2 แม่ทัพใหญ่ผู้มีภารกิจสำคัญในการนำแบรนด์ที่อยู่อาศัย “อยู่เจริญ” ของตระกูลรุ่งโรจน์ธนกุล กลับมาโลดแล่นในวงการอสังหาริมทรัพย์อีกครั้ง  ดร.ชนฐนพค์ รุ่งโรจน์ธนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อยู่เจริญ เอสเตทส จำกัด เดินหน้านำที่ดินที่มีศักยภาพสูงมาพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม และโฮมออฟฟิศ ตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ

 

 

ล่าสุด ทุ่มงบประมาณ 560 ล้านบาท เปิดตัวโครงการ “บ้านอยู่เจริญ ทาวน์ อิน ทาวน์” (Baan U Charoen Town in Town) โฮมออฟฟิศ บนทำเลเด่นอย่างถนนศรีวรา ย่านเอกมัย-รามอินทรา ในบริเวณเดียวกับ “อยู่เจริญ เรสซิเด้นท์ ทาวน์ อิน ทาวน์” (U Charoen Residence Town in Town) คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น (Low Rise) ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนห้องเพียง 208 ยูนิต

 

สำหรับไฮไลท์ของ “บ้านอยู่เจริญ ทาวน์ อิน ทาวน์” เป็นโฮมออฟฟิศสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพียง 14 ยูนิต แต่ละหลังมีความสูง 4.5 ชั้น บริเวณหน้าตึกกว้าง 8 เมตร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดตั้งแต่ 41-66 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 431 ตารางเมตร (ตร.ม.) ในราคา 38-46 ล้านบาท

 

ด้านการออกแบบมีจุดเด่นด้วยแนวคิด ZEN นำเสนอการใช้ชีวิตสไตล์ Modern Japanese ที่มีความเรียบหรู นอกจากนี้ ยังโดดเด่นด้วยการให้อิสระของผู้อยู่อาศัยในการเลือกใช้ชีวิต ด้วยฟังก์ชั่นของพื้นที่ภายในบ้านที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ เช่น หากต้องการเป็นพื้นที่อยู่อาศัยทั้งหมด (Total Residential) ก็สามารถปรับพื้นที่เป็นห้องนอนได้ถึง 5 ห้อง หรือจะใช้ฟังก์ชั่น แบบกึ่งที่อยู่อาศัยกึ่งออฟฟิศ ก็สามารถปรับตามความต้องการได้เช่นกัน อีกทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น มีลิฟต์โดยสารส่วนตัว  ระบบรักษาความปลอดภัยได้มาตรฐานด้วย Home Automation และรองรับพื้นที่จอดรถสูงสุด 6 คัน

 

ด้านพื้นที่ภายนอกโครงการ มีการออกแบบโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัย ตามแนวคิดแบบ inside out ด้วยการออกแบบ Façade ที่นอกจากกันแดดแล้ว ยังบังสายตาไม่ให้บุคคลภายนอกเห็นความเป็นไปของผู้อยู่อาศัยอีกด้วย

 

พื้นที่ส่วนกลางยังเนรมิตให้ผู้อยู่อาศัยสามารถทำกิจกรรมร่วมกัน อย่าง Co-working space ซึ่งสามารถดัดแปลงเป็นห้องประชุม หรือจัดกิจกรรมในรูปแบบอื่นๆ (Multi-function Space) คลับเฮ้าส์ฟังก์ชั่นครบ พื้นที่ออกกำลังกาย และสระว่ายน้ำระบบเกลือ ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ รวมถึงสัมผัสความผ่อนคลายแบบเป็นส่วนตัว ที่ Private Onsen สุดพิเศษสำหรับลูกบ้านเท่านั้น

 

ดร.ชนฐนพค์ รุ่งโรจน์ธนกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อยู่เจริญ เอสเตทส จำกัด กล่าวว่า “การเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยรูปแบบโฮมออฟฟิศในเวลานี้ เนื่องจากบริษัทมองศักยภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย นโยบายเปิดประเทศ จะทำให้เศรษฐกิจปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ส่วนมิติของผู้บริโภค ยังมีความต้องการ (Real Demand) ที่จะครอบครองบ้าน จึงมีการออกแบบโครงการ และทำเลที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในยุคปกติใหม่ (New Normal) มากขึ้น”

               

ในส่วนของทำเล ทาวน์ อิน ทาวน์ ถือว่ามีศักยภาพค่อนข้างสูง เป็น Business Hub ของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ทำงานด้านครีเอทีฟ ทั้งยังเป็นศูนย์รวมแหล่งออฟฟิศ ธุรกิจบันเทิง และคอมมูนิตี้ มอลล์ ทำให้สามารถเกิดการแลกเปลี่ยน network ของกลุ่มคนย่านทาวน์ อิน ทาวน์ได้อย่างไร้รอยต่อ จึงคาดว่าจะได้การตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการ คนรุ่นใหม่ที่ผันตัวเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด (KOL/Influencer) คอนเทนต์ ครีเอเตอร์ ยูทูปเบอร์ ฯ ซึ่งนอกจากซื้อเพื่ออยู่อาศัย ยังตอบโจทย์ด้านการลงทุนอีกด้วย

 

นอกจากนี้ ด้วยทำเลที่ใกล้ย่านใจกลางธุรกิจใหม่ (New CBD) อย่างรัชดา-พระราม 9 จึงสามารถเชื่อมต่อทุกการเดินทางได้อย่างสะดวก เช่น รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หรือรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (MRT) และยังมีส่วนต่อขยายเชื่อมเป็นวงแหวนในอนาคตอีกด้วย

 

สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดโครงการ “บ้านอยู่เจริญ ทาวน์ อิน ทาวน์” บริษัทลงทุนกว่า 3% ของมูลค่าโครงการ เดินหน้าสื่อสารครบวงจรผ่านสื่อ  Offline และ Online เพื่อเชื่อมทุก Touchpoint ในชีวิต (On Life) ของผู้บริโภค พร้อมจัดแคมเปญแรงต้อนรับการเปิดโครงการ (Pre-sale) ช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ด้วยส่วนลด 5 ล้านบาทในราคาเริ่มต้นเพียง 33 ล้านบาท หรือซื้อบ้านแถมคอนโดหรู “อยู่เจริญ เรสซิเด้นท์ ทาวน์ อิน ทาวน์” มูลค่า 3.4 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของกลุ่มเป้าหมาย