วันจันทร์ ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568 12:11 น.

ภูมิภาค

ขอเมตตาช่วยแม่เลี้ยงลูกพิการยากจนบ้านจะพัง

วันพฤหัสบดี ที่ 04 กรกฎาคม พ.ศ. 2562, 17.56 น.

วอนช่วยเหลือแม่วัย 37 เลี้ยงลูกพิการฐานะยากจนบ้านกำลังจะพังลงคลอง

เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันนี้ (4 ก.ค.62) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านเลขที่ 134/1 หมู่ที่ 13 ต.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวสำเริง  โพธิ์พิกุล อายุ 37 ปี หลังทราบว่าที่บ้านดังกล่าวมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก และที่สำคัญบ้านที่อยู่นั้นกำลังจะทรุดตัวลงไปในคลองชลประทาน โดยเมื่อเดินทางไปถึงพบว่าบ้านหลังดังกล่าวนั้นมีสภาพเป็นเพิงสังกะสีที่อยู่ริมถนน มีขนาดกว้างประมาณ 3 x 4 เมตร หน้าบ้านพบนางสาวสำเริงกำลังเดินกวาดถนนอยู่หน้าบ้าน เมื่อนางสาวสำเริงเห็นผู้สื่อข่าวจึงรีบเดินเข้าไปต้อนรับ และพาไปดูในตัวบ้าน ซึ่งเมื่อเข้าไปในบ้านถึงกับต้องตกใจ เนื่องจากในบ้านมีสภาพผุพัง พื้นบ้านเป็นไม้ลาดเอียงหลุดออกจากฝาบ้านเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่หลายจุด หลังคาบ้านเป็นแผ่นสังกะสีเก่าๆ รั่วหลายจุด บริเวณที่ทำครัวอยู่พื้นที่เดียวกับตัวบ้านที่ใช้นอน อีกแถบของบ้านยกพื้นขึ้นไปเล็กน้อยมีลักษณะเป็นที่นอนอีกที่ และกั้นเป็นห้องน้ำ  บริเวณที่ทำครัว ห้องน้ำ และตรงจุดที่นอบแถบจะเป็นจุดเดียวกัน

จากการสอบถามนางสำเริงกล่าวว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านของตนอยู่กันทั้งหมด 3 คน มีตน ลูกสาวอายุ 17 ปี ที่พิการทางสมอง 1 คน และลูกชายวัย 13 ปีอีก 1 คน ส่วนสามีของตนนั้นเลิกรากันไปแล้ว ทิ้งลูกไว้ให้ตนเลี้ยงดู ตนมีชีวิตที่ยากลำบาก หากินเพียงคนเดียว ตนยึดอาชีพรับจ้างและบางครั้งก็เป็นหมอนวดจับเส้น หาเช้ากินค่ำบางวันก็มีคนจ้าง บางวันบางช่วงก็ไม่มีคนจ้างเลย ตนจะไปทำงานที่ไหนไกลๆ ก็ไปไม่ได้ หรือไปบ้างแต่ก็แค่ไม่กี่วันก็ต้องกลับ เนื่องจากห่วงลูกสาวที่พิการ โดยลูกตนตั้นมีอาการทางสมอง ต้องคอยดูแลไว้ แต่ก็ยังดีที่ยังช่วยเหลือตัวเองได้ และช่วยงานบ้านได้บ้างเล็กน้อย เช่นล้างจาน ซึ่งนอกจากทำงานรับจ้างแล้ว ตนยังเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านด้วย ทุกวันนี้ก็ได้ค่าเบี้ย อสม. เดือนละ 1,000 บาท และค่าเบี้ยคนพิการของลูกสาว เดือนละ 800 บาท ประทังชีพไป 

ตอนนี้ตนลำบากมากในเรื่องของที่พักอาศัย โดยบ้านของตนนั้นปลูกอยู่ในที่หลวงริมคลองชลประทาน อยู่มานานหลายปีบ้านค่อยๆ ทรุดและผุผังไปเรื่อยๆ ตอนแรกตนก็ยังพอทำงานหาเงินหรือของสิ่งของมาซ่อมแซมได้บ้าง หนุนขึ้นบ้าง แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว เงินทองหามาได้ก็นำมาใช้จ่ายในบ้าน เลี้ยงลูก ในส่วนตัวบ้านบ้านก็ทรุดตัวและพังมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะตัวบ้านไม่ว่าจะพื้นบ้านหรือหลังคา โดยพื้นบ้านนั้นทรุดลาดเอียง และหลายจุดที่แยกออกจากตัวบ้าน ส่วนหลังคานั้นฝนตกก็รั่วน้ำไหลนองเข้ามาในบ้านเปียกที่นอนหมอนมุ้ง บางวันก็นอนไม่ได้กั้นเลย ตนกลัวเหลือเกินว่าไม่รู้วันไหนที่ตนกับลูกนอนอยู่ในบ้านแล้วบ้านจะพังลงไปในคลอง ตนเคยไปติดต่อหน่วยงานราชการในท้องที่ ก็ได้รับคำตอบว่าบ้านของตนนั้นปลูกอยู่ในที่หลวง จะหางบประมาณมาซ่อมก็ลำบาก ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงอยากวอนให้ผู้ใจบุญใจกุศลให้ช่วยเหลือ มาซ่อมแซมบ้านให้ ซึ่งหากว่าบ้านตนแข็งแรงมั่นคงกว่านี้ ตนคงวางใจและไปทำมาหากินที่มันไกลบ้านได้บ้าง ทุกวันนี้แทบจะไปทางไหนไม่ได้ เพราะห่วงลูก 

สำหรับผู้ใจบุญที่ประสงค์จะให้การช่วยเหลือนางสาวสำเริง สามารถติดต่อช่วยเหลือ หรือบริจาคเงินช่วยเหลือได้โดยผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาผักไห่ ชื่อบัญชีนางสำเริง  โพธิ์พิกุล เลขที่บัญชี 102-0-18291-1 หรือโทร. 062-743-9356

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพอยู่นั้นจู่ๆ ก็ได้มีผู้นำชุมชนคนหนึ่ง มาถึงก็มาโวยวายหาว่านักข่าววุ่นวาย เขาว่าลูกบ้านเขาทั้งหมดน่ะเป็นยังงัย เดี๋ยวเขาจะจัดการเอง เขากำลังจะลงมาจัดการอยู่แล้ว ขอร้องไม่ต้องวุ่นวาย และไม่ต้องโทรมาอีก ซึ่งในฝั่งของชาวบ้านที่เดือดร้อนในละแวกบางคนก็บอกว่า ผู้นำชุมชนคนนี้ไม่เคยได้มาใส่ใจดูแลเรื่องความเดือดร้อนของชาวบ้านเลย 

หน้าแรก » ภูมิภาค