กู้ภัยไทย-ลาวผนึกกำลัง!ช่วย15ชีวิตเขื่อนแตก

ขณะที่นายกฯให้ไทยร่วมอธิษฐาน"ลาว"ผ่านวิกฤตด้วยดี   เกาหลีใต้ระดมช่วย ม.สงฆ็"มจร"-นศ.ลาวในโคราชเปิดรับบริจาค 

วันที่ 27 ก.ค.2561  เฟซบุ๊ก Abc Lao News ได้เผยแพร่ภาพที่ทีมกู้ภัยจากประเทศไทยประกอบด้วย- ชมรม W. D. R. T. - กู้ภัยเมตตาธรรม "เต็กก่า" จีโหงวเกาะ กาฬสินธุ์ - กู้ภัยอุดมเวทย์ จ.ร้อยเอ็ด - กู้ภัยฮุก31 โคราช - กู้ภัยสยามนนท์ นนทบุรี - กู้ภัยร่วมใจยโสธร พร้อมกับทีมกู้ภัยจากประเทศลาวได้ช่วยเหลือชีวิตผู้ประสบภัยจากเหตุเขือนอัตตะปือ สปป.ลาวแตกเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยสามารถช่วยเหลือได้จำนวน 15 คน เป็นเด็ก 4 คน ชาย 5 คน หญิง 6 คนและผู้หญิงท้อง 1 คน เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเพจพลังโซเชียลได้เผยแพร่ภาพและคลิปดังกล่าวด้วย

"ฮุก 31"FBภาพพบผู้รอดชีวิต 13 คน
 

เพจเฟซบุ๊ก ฮุก 31 ทีม ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ ระบุว่า “ที่แขวงอัตตะปือ พบผู้รอดชีวิตติดเกาะ 4 วัน เด็ก 6 ผู้ใหญ่ 7 สุนัข 1 เจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ร่วมกับกู้ภัยฮุก31(นครราชสีมา) กู้ภัยเมตตาธรรม (กาฬสิน) ทีม W.D.R.T กู้ภัยอุดมเวทย์(ร้อยเอ็ด) ชมรมดำน้ำโคราช ภารกิจตามหาผู้สูญหาย รายละเอียดพรุ่งนี้เล่าให้ฟังครับ” พร้อมภาพช่วยเหลือผู้ประสบภัยออกมาได้ รวมทั้งเด็กๆ ด้วย
          

ขณะเดียวกันนายศุภชัย นามแก้ว หนึ่งในทีมงานกู้ภัยประเทศไทยที่ได้เดินทางไปร่วมช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยจากเขื่อนแตกที่แขวงอัตตะปือ สปป.ลาว ได้โพสต์ภาพและข้อความลงเฟชบุ๊คส่วนตัว รายงานว่า “วันที่ 26 ก.ค. ทีมงานหน่วยกู้ภัยประเทศไทยร่วมกับหน่วยกู้ภัยประเทศลาว ได้แบ่งหน้าที่กันทำงานเป็น 2 สาย สาย A นำเรือลาดตระเวณค้นหาผู้ประสบภัยทางน้ำบริเวณบ้านไซดอนโขงแขวงอัตตะปือ พบชาวบ้านเป็นเด็กและผู้ใหญ่ ยังมีชีวิตจำนวน 14 ราย ติดอยู่บ้านกลางลำน้ำกู้ภัยฮุก31 นคราชสีมา จึงดำเนินการลำเรียงออกมาด้วยความยากลำบากเพราะสภาพเป็นโคนตม ส่วนสาย B ได้เดินทางไปที่บ้านตะม้อหยอดแขวงอัตตะปือ ซึ่งห่างจากปากซองประมาณ 60 กิโลเมตร แต่ก่อนจะไปถึงบ้านตะม้อหยอดนั้นถนนได้ถูกน้ำจากเขื่อนท่วมทำให้รถยนต์ทุกคันไม่สามารถวิ่งผ่านได้ทีมงานจึงตัดสินใจปักหลักกันอยู่ที่นั่น เมื่อประเมินสถานการณ์ทราบว่าการที่จะเดินทางไปต่อนั้นจะต้องอาศัยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านเข้าไป ระยะทางจากถนนที่ถูกตัดขาดถึงบ้านตะหม้อหยอดนั้นประมาณ 25 กิโลเมตร จึงได้ทำการประสานผู้นำชุมชนลำเรียงสิ่งเครื่องอุปโภคบริโภคโดยใช้รถคูโบต้าของชาวบ้านในการลำเรียงสิ่งของให้กับผู้ประสบภัยที่อาศัยอยู่บนเกาะบ้านตะม้อหยอดประมาณไม่ต่ำกว่า 700 ชีวิต”

กู้ภัยสว่างฯเพชรบูรณ์ติดตั้งเครื่องผลิตน้ำดื่ม 
 

ทีมกู้ภัยสว่างมงคลศรัทธรรมสถานหล่มสัก-เพชรบูรณ์ 12 ชีวิตนำโดยนายประจิตร สุขะวัฒนะ นายกสมาคมฯ ระดมอุปกรณ์การกู้ภัยพร้อมเรือ ข้ามพรมแดนไทย-ลายทางด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี เข้าไปในพื้นที่ประสบภัยพิบัติเพื่อปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยเขื่อนแตก ล่าสุดได้รับรายงานจากนายประจิตร สุขะวัฒนะ ว่า เมื่อวานนี้หลังทีมกู้ภัยฯข้ามพรมแดนไทย-แดนทางด่านช่องเม็ก ทางตัวแทนองค์การกาชาดลาวได้นำคณะมุ่งหน้าไปที่แขวงอัตตะปือ เพื่อเข้าพบเจ้าแขวงจากนั้นทุ่งหน้าไปที่ศูนย์อพยพประสบภัยเขื่อนแตกที่โรงเรียนมัธยมสนามไซ เมืองสนามไซ
          

“เนื่องจากสภาพเส้นทางระหว่างแขวงอัตตะปือ-เมืองสนามไซ เป็นทางดินค่อนข้างลำบาก ทำให้ไม่สามารถทำความเร็วได้ ประกอบกับระหว่างทางล้อหลังรถพ่วงบรรทุกเรือหลุดทำให้ไปถึงศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยค่อนข้างดึก อย่างไรก็ตามในเช้าวันนี้ทางทีมได้รับมอบภารกิจให้ช่วยติดตั้งเครื่อง EP 700 จำนวน 2 เครื่อง เพื่อผลิตน้ำดื่มให้แก่ผู้ประสบภัย”นายประจิตรกล่าว
          

นายประจิตรกล่าวว่า สำหรับศูนย์อพยพและช่วยเหลือผู้ประภัยโรงเรียนสนามไซ ประเมินจากสายตามีผู้ประสบภัยราว 1,000 คนที่ปักหลักพักพิงอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้ โดยมีองค์การกาชาดลาวและมีทีมแพทย์ช่วยดูแลอยู่ และทราบว่าพื้นที่ประสบภัยพิบัติอยู่ห่างจากศูนย์แห่งนี้ไปราว 6-7 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามตนได้แจ้งข้อมูลไปทางองค์การกาชาดและฝ่ายประสานไปแล้ว ถึงศักยภาพและอุปกรณ์เครื่องมือกู้ภัยต่างๆของทีมกู้ภัยสว่างฯเพชรบูรณ์ ซึ่งสามารถปฏิบัติภารกิจไม่ว่าจะเป็นกู้ภัยในพื้นที่สูง การลำเลียงผู้ประสบภัยด้วยเชือกหรือแม้จะการใช้เรือในการกู้ภัยหากได้รับมอบหมายมา ส่วนทีมกู้ภัยจากประเทศไทยที่ล่าสุดที่เห็นเข้ามาเสริมที่ศูนย์แห่งนี้ มีทางมูลนิธิป่อเต็กตึ้งซึ่งจะมาเปิดโรงทานทำอาหารแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยวันละหลายพันชุด
 

นายกฯให้ไทยร่วมอธิษฐาน"ลาว"ผ่านวิกฤตด้วยดี  
 

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เชิญชวนพุทธศาสนิกชนทำบุญ รักษาศีล ฟังธรรม ละเว้นจากอบายมุขทั้งปวงเนื่องในโอกาสวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา  พร้อมกันนี้ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยมีเหตุการณ์วิกฤตเกิดขึ้นหลายอย่าง แต่เพราะความร่วมมือร่วมใจ ความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจกัน ก็ช่วยทำให้ปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ คลี่คลายไปในทางที่ดี พร้อมทั้งอยากให้คนไทยทุกคนใช้ช่วงเวลานี้ร่วมกันอธิษฐานให้เหตุการณ์น้ำท่วมใน สปป.ลาว ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดของเรา ผ่านไปได้ด้วยดีโดยเร็วที่สุด

ประชาคม"มจร"เปิดรับบริจาคช่วยยอด3แสนกว่า

ขณะที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) เชิญร่วมบริจาคปัจจัย และสิ่งของในการดำรงชีพเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่แขวงอัตตะปือ สปป.ลาว 
สามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารทหารไทย ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี  “กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สปป.ลาว บัญชีเลขที่ 633-2-54982-0” จุดรับบริจาคสิ่งของ :  1. อาคารสำนักงานอธิการบดี ชั้น G มจร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา 2. ห้อง 105 และ 106 อาคาร มจร วัดมหาธาตุ พระนคร กรุงเทพฯ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ พระมหาพุทธศักดิ์ ฐานิสฺสโร 089-156-0089  พระมหาประยูร โชติวโร่  085-246-4126  พระมหาศุภชัย ปิยธมฺมชโย 090-557-1562 ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค.2561  จนถึงเวลา 12.00น.ของวันนี้(27ก.ค.) มีผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นิสิตและประชาชนทั่วไปได้ร่วมกันบริหารยอดรวมกว่า 3 แสนบาทแล้ว

เกาหลีใต้ระดมความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในลาว
 

ประธานาธิบดีมุนแจอิน ของเกาหลีใต้ มีคำสั่งระดมความช่วยเหลือและเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเพื่อส่งไปยัง สปป.ลาว หลังเกิดเหตุการณ์สันเขื่อนกั้นอ่างเก็บน้ำในโครงการก่อสร้างเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย ในเมืองสะหนามไซย แขวงอัตตะปือ ทางใต้ของ สปป. ลาว แตก เป็นเหตุให้มวลน้ำกว่า 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตรไหลบ่าท่วมบ้านเรือนประชาชน โดยทั้งรัฐบาลลาวและเกาหลีใต้ได้สั่งให้มีการตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้เขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยแตกร้าวในครั้งนี้แล้วทั้งนี้ โครงการก่อสร้างเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย เป็นของบริษัท เซเปียน-เซน้ำน้อย เพาเวอร์ จำกัด (PNCP) ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนระหว่างลาว-ไทย และเกาหลีใต้ โดยเอกชนไทย คือ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ถือหุ้นร้อยละ 25 ส่วนบริษัทเอกชนเกาหลีใต้ คือบริษัทเอสเค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรักชั่น (SK E&C) ถือหุ้นร้อยละ 26 และบริษัทรัฐวิสาหกิจเกาหลีใต้ โคเรีย เวสเทิร์น เพาเวอร์ (KOWEPO) ถือหุ้นร้อยละ 25 และอีกร้อยละ 24 เป็นของกิจการรัฐวิสาหกิจ สปป.ลาว (LHSE)

นศ.ลาวในโคราชตั้งจุบรับบริจาคช่วยน้ำท่วม
 

ที่ตลาดเซฟวัน เขตเทศบาลนครนครราชสีมา นักศึกษาชาว สปป.ลาว ทั้งชายและหญิง จำนวน 10 คน พร้อมด้วยเพื่อนนักศึกษาชาวไทย ที่มาศึกษาในสถาบันการศึกษาที่ตั้งอยู่ในเขตอ.เมืองนครราชสีมา เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี,มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาและวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครราชสีมา ได้ออกรับบริจาคเงินเพื่อส่งไปช่วยเหลือพี่น้องชาว สปป.ลาว ที่ประสบปัญหาถูกน้ำท่วมเนื่องจากเขื่อนเซเปียง-เซน้ำน้อย แขวงอัตตะปือและแขวงจำปาสักที่กำลังก่อสร้างแตก ทำให้มีผู้เสียชีวิต สูญหาย และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก หลายพันครอบครัวไร้ที่อยู่อาศัย โดยบรรยากาศการตั้งจุดรับบริจาคมีประชาชน
          

ส่วนที่จุดรับบริจาค บริเวณลานศาลาทรงไทย ข้างลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือย่าโม เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ยังมีนักท่องเที่ยวและประชาชนชาว จ.นครราชสีมา เดินทางมาร่วมบริจาคสิ่งของ เครื่องใช้ และเงิน เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวสปป.ลาว ที่กำลังประสบกับอุทกภัย จากเหตุการณ์เขื่อนแตกเช่นเดียวกัน โดยส่วนใหญ่ได้นำสิ่งของจำเป็นต่างๆ อาทิ เสื้อ กางเกง ผ้าห่ม ผ้าอ้อม อาหารแห้ง ยาสามัญประจำบ้าน และขนมขบเคี้ยว ซึ่งใส่กระสอบ และถุงขนาดใหญ่ ขนมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว มอบให้กับเจ้าหน้าที่รับบริจาค ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถานนครราชสีมา ก็ได้นำรถยนต์ มาบรรทุกสิ่งของเครื่องใช้ เพื่อทยอยเดินทาง