ที่ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังในเขื่อนกระเสียวประมาณ 40 คนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียวมีคาสั่งให้หยุดเลี้ยงปลากระชังและขอให้รื้อถอนกระชังปลา ได้มารวมตัวยื่นหนังสือถึงขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดฯโดยมีนายธีรชัย ทศรฐ รองผู้ว่าราชจังหวัด ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดให้เป็นผู้รับหนังสือ โดยนายธีรชัยชัย ได้กล่าวกับกลุ่มเกษตรกร ที่มายื่นหนังว่าวันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดฯและรองผู้ว่าราชการจังหวัดฯที่รับผิดชอบโดยตรง ติดภารกิจสำคัญตนจะได้นำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมความเดือดร้อนของเกษตรกรให้ท่านผู้ว่าในลำดับต่อไปกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังในเขื่อนกระเสียวต่างพอใจจึงแยกย้ายกันเดินทางกลับ

ซึ่งหนังสือขอความเป็นธรรมที่กลุ่มเกษตรกรได้ยื่นถึงผู้ว่าราชการมีใจความว่า ตามหนังสือโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ กษ. 032.11 / ลงวันที่ 4 เมษายน 2562 มีคาสั่งให้กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังในเขื่อนกระเสียว (กลุ่มผู้ร้อง) ดำเนินการ หยุดเลี้ยงปลากระชังโดยไม่ให้ลงปลากระชังอีกไม่ว่าเหตุผลใดๆ และขอให้รื้อถอนกระชังปลาออกไปภายในกำหนด ระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ เนื่องจากเป็นการปลูกสิ่งก่อสร้างรุกล้ำทางน้ำชลประทาน นั้น (ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1) กลุ่มผู้ร้องขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนยกเลิกคาสั่งดังกล่าว และให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มผู้ร้อง โดยขอชี้แจงว่าทางกลุ่มผู้ร้องมิได้กระทำการรุกล้ำทางน้ำชลประทานโดย พลการหรือเจตนา เนื่องจากการประกอบอาชีพเลี้ยงปลากระชังในเขื่อนกระเสียว ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี นั้น เป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นอย่างดีมาโดยตลอด อีกทั้งกลุ่มผู้ร้อง ได้มีการยื่นขออนุญาตต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และได้รับอนุญาตให้ประกอบอาชีพได้ (ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 2ซึ่งเข้าใจได้ว่าเป็นการประกอบอาชีพสุจริต และมิได้ละเมิดกฎหมายแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี หากสาเหตุของการมีคำสั่งดังกล่าว สืบเนื่องมาจากปัญหาที่มีประชาชนบางส่วนร้องเรียน เรื่องคุณภาพของน้ำประปาที่ไม่ได้มาตรฐานโดยมีการกล่าวว่าเป็นปัญหาจากน้ำในเขื่อนกระเสียวไม่ได้คุณภาพ จากการเลี้ยงปลากระชัง
 
               
นายเดชา เมฆฉาย อายุ 43 ปีตัวแทนกลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชังกล่าวว่าสาเหตุที่เรามาเรียกร้องในวันนี้มีอยู่ 2 ประเด็นประเด็นแรกคือเรื่องผอ.เขื่อนกระเสียว ได้มีหนังสือคำสั่งให้เรายุติการเลี้ยงปลาภายใน 6 เดือนแล้วเก็บอุปกรณ์การเลี้ยงขึ้นภายใน 6 เดือนซึ่งพวกเราเป็นเกษตรกรเราคิดว่ามันเร็วเกินไปเราได้รับความเดือดร้อนไม่มีเวลาให้เกษตรกรได้เตรียมตัวเลย ประเด็นที่ 2 ก็คือเรื่องน้ำประปาที่ชาว ด่านช้าง บอกว่าคุณภาพน้ำใช้ทำน้ำประปาไม่ได้เราได้ไปหาข้อมูลมาพบว่า ที่อำเภอหนองหญ้าไซ และประปา บ่อกรุ อ.เดิมบางนางบวช ซึ่งทั้ง 2 แห่งใช้น้ำดิบจากแหล่งเดียวกันทำไมไม่เป็น คุณภาพน้ำก็ปกติ ทำไมถึงเป็นแค่ประปาภูมิภาคด่านช้างแห่งเดียว พวกเรามีความคลางแคลงใจว่าหน่วยราชการมีความเป็นกลางหรือเปล่าจึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐตรวจสอบเรื่องคุณภาพน้ำให้ดีเสียก่อน ก่อนที่จะมีคำสั่งให้เกษตรกรหยุดเลี้ยงปลา ก่อนที่จะมีคำสั่งให้หยุดเลี้ยง ได้มีชาวบ้านด่านช้างที่มาร้องฝ่ายเดียวโดยไม่ได้ให้พวกเราเข้าไปร่วมประชุม  มีแต่เชิญกลุ่มผู้ใช้น้ำประปาอย่างเดียว ตนแปลกใจตรงที่ว่าประปาหนองหญ้าไซ เตรียมข้อมูลไปเต็มที่แต่ไม่ได้พูดแค่ไปเซ็นให้เหมือนว่ามีคนเยอะแค่นั้นไม่มีการหาข้อมูลจากประปาที่อื่นที่ใช้แหล่งน้ำเดียวกันเลย แล้วมาโทษพวกเราว่าชาวบ้านทำน้ำเสียจากการเลี้ยงปลาตนคิดว่ามันไม่น่าจะใช่ข้อยุติมันยังไม่มีด้านวิทยาศาสตร์หรืออะไรที่เป็นกลางเข้ามาดูแล   
               

นายเดชา  กล่าวอีกว่าการเลี้ยงปลาของเรานั้นเรามีการตรวจสอบวัดค่าออกซิเจนทั้งปีโยชาวบ้านจะวัดกันเอง จะรู้ว่าช่วงไหนน้ำดีน้ำไม่ดีเราต้องทำยังไงเราต้องงดอาหาร เขื่อนส่วนมากช่วงที่น้ำเยอะจะไม่ค่อยมีปัญหา ส่วนปัญหาที่มีอยู่ก็คือน้ำมีปริมาณน้อย พอน้ำน้อยทั้งปลาธรรมชาติและปลาที่เราเลี้ยงก็แย่งออกซิเจนกัน ออกซิเจนถึงได้ต่ำลง ตนคิดว่าคุณภาพน้ำที่มีอยู่นี้สามารถที่จะทำประปาได้แบบไม่มีปัญหา ดังนั้นจึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลงมาช่วยดูแล และตรวจสอบโดยตนอยากให้ทำงานร่วมกันทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องชาวบ้านที่เดือดร้อนจากการใช้น้ำและพวกเราเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง เนื่องจากชาวบ้านอย่างพวกเราอยากรู้ว่าน้ำที่เสียนั้นสาเหตุเกิดจากอะไรถ้าหากมีการตรวจสอบและมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาแสดงและชี้แจงให้พวกเราได้เห็นพวกเราก็ยอมรับได้ และที่มาวันนี้ก็อยากให้ท่านผู้ว่าช่วยแก้ไขให้อย่างเร่งด่วนด้วย  
               

ทางด้านนายเพิ่มพล อสุวพงษ์พัฒนา อายุ 39 ปีหนึ่งในกลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชังกล่าวว่า
กรณีที่ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียวมีคาสั่งให้หยุดเลี้ยงปลากระชังและขอให้รื้อถอนกระชังปลา อยากให้หน่วยงานราชการเข้ามาตรวจสอบคุณภาพน้ำจากที่มีชาวบ้านหรือกลุ่มผู้ใช้น้ำประปาต่อต้านไม่ให้เลี้ยงปลากระชัง ระบุว่าน้ำประปาไม่สามารถผลิตให้ดีได้ถ้าเขื่อนกระเสียวน้ำยังเน่าอยู่อย่างนี้ จึงอยากให้ตรวจสอบจริงๆว่าน้ำเสียจริงหรือเปล่าเอาหน่วยงานกลางและชาวบ้านที่ใช้น้ำเข้ามาดูด้วยว่าการผลิตน้ำประปาจะดีหรือไม่ดี มันอยู่ที่ขบวนการผลิตหรือเปล่า ยังไงตนและชาวบ้านอยากขอความชัดเจนจากหน่วยงานของภาครัฐทุกฝ่ายทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องรวมถึงนักวิชาการต่างๆเข้ามาตรวจสอบให้มีหลักฐานข้อมูลที่ชัดเจนแจ้งให้ชาวบ้านได้รับรู้ ที่ผ่านมากรณีที่เกิดเหตุการณ์ปลากระชังในเขื่อนตายจำนวนมากนั้นสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไรขอให้หน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้ามาหาความจริงดูแลช่วยเหลือเกษตรกรด้วย
 
               

ทางด้านนายเดชา รอดระรัง ประมงจังหวัด กล่าวว่าตามที่มีเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม กรณีที่ทางโครงการชลประทานเขื่อนกระเสียว ให้เกษตรกรหยุดเลี้ยงปลากระชังภายในเขื่อนกระเสียวภายใน 6 เดือนได้มายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ในส่วนของสำนักงานประมงจังหวัด ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการดูแล การทำการประประมง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้เป็นไปตามพระราชกำหนด การประมงปี 2558 คือเรื่องการเลี้ยงปลาในกระชังซึ่งเป็นที่ที่เป็นแหล่งน้ำสาธารณะ ได้กำหนดไว้ว่าห้ามเกษตรกรหรือบุคคลใดเลี้ยงสัตว์น้ำในที่แหล่งน้ำสาธารณะเว้นแต่ได้รับอนุญาตหลังจากที่มีพระราชกำหนดปี 2558 เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการประมงจังหวัด แต่ละจังหวัด ซึ่งมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน มีประมงจังหวัดเป็นเลขา มีหน้าที่กำหนดพื้นที่แหล่งน้ำในแต่ละจังหวัดว่าพื้นที่ใดที่เหมาะสมในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำการเพาะเลี้ยงปลาในกระชัง ในส่วนของจังหวัดสุพรรณบุรี ก่อนปี 2558 ก็มีเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังอยู่ก่อนหน้านี้แล้วเป็นจำนวนหนึ่งพอสมควร โดยเฉพาะในเขื่อนกระเสียวมีกว่า 1,700 -1,800 กระชัง ซึ่งเลี้ยงก่อนที่พระราชกำหนด 2558 กำหนดไว้ตามมาตรา 175 ให้เกษตรกรซึ่งเลี้ยงปลากระชังก่อนที่ พรก.ออกมาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานประมงอำเภอ สำนักงานประมงจังหวัด ว่าได้มีการเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง ซึ่งเรามีข้อมูลอยู่ว่ามีเกษตรกร รายใดบ้างจำนวนกี่กระชัง หลังจากนั้นสำนักงานประมงจังหวัด ในฐานะที่เป็นเลขา คณะกรรมการประมงจังหวัด ไปเสนอคณะกรรมการประมงจังหวัด เพื่อพิจารณาว่าแหล่งน้ำในจังหวัดสุพรรณบุรี มีแหล่งน้ำใดบ้างที่จะเหมาะสมเป็นที่เลี้ยงปลากระชัง ก็จะประกาศเป็นเขตอนุญาตให้เลี้ยงปลาในกระชัง
               

ในเดือนกันยายน 2561 ทางสำนักงานประมงจังหวัด ได้เชิญคณะกรรมการประมงจังหวัดประชุม แล้ว 1 ครั้งที่ประชุมมีมติให้สำนักงานประมงจังหวัดได้มาทบทวนในแหล่งน้ำโดยเฉพาะแหล่งน้ำที่เป็นแหล่งน้ำในเขตชลประทานไม่ว่าจะเป็นอ่างเก็บน้ำเขื่อนกระเสียว คลองชลประทาน ซึ่งมีการเพาะเลี้ยงปลากระชังอยู่ ที่ประชุมให้มาพิจารณาโดยถี่ถ้วนและสอบถามหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบในแหล่งน้ำนั้นๆก่อนแล้วค่อยนำมาเสนอคณะกรรมการประมงจังหวัดอีกครั้งเบื้องต้นเราได้ไปทำหนังสือสอบถามหน่วยงานที่รับผิดชอบในแหล่งน้ำนั้นๆเรียบร้อยแล้วให้ประมงอำเภอไปรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ ที่มีการเลี้ยงปลากระชังตามที่มาจดแจ้ง ตามาตรา 175 ไว้ตอนนี้เราก็ได้ข้อมูลครบถ้วนรวมทั้งข้อมูลแหล่งน้ำที่ไปรับฟังความคิดเห็นมีเสียงกลับมาว่ามีแหล่งน้ำมีคุณภาพที่ ไม่ดี เราได้ให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องของการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำเราก็เก็บข้อมูลคุณภาพน้ำประกอบด้วยเพื่อจะเสนอข้อมูลให้คณะกรรมการประมงจังหวัดพิจารณา   ในเบื้องต้นเราได้นำเรียนท่านผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อจะประชุมเพื่อพิจารณาในเรื่องของการเลี้ยงปลาในกระชังในวันที่ 23 เมษายน เวลา 13.00 น.เพื่อจะพิจารณาในจังหวัดสุพรรณบุรี ว่ามีพื้นที่ใดบ้าง ที่จะประกาศเป็นพื้นที่อนุญาตให้เลี้ยงปลาในกระชังซึ่งมีอยู่หลายพื้นที่ทั้งแม่น้ำท่าจีน ลำน้ำเขื่อนกระเสียวทังคลองชลประทานรวมทั้งในหนองบึงต่างๆซึ่งมีอยู่หลายที่ ตอนนี้เราได้เตรียมข้อมูลต่างๆเพื่อให้คณะกรรมการประมงประจำจังหวัดพิจารณาต่อไป