องค์กรตรวจสอบทุจริตฯภาคอีสาน
ห่วงต้นไม้ที่ถูกโค่นกลางเมืองอุบลฯ
 

ตามที่แขวงการทางอุบลราชธานีที่ 1 ได้รับการจัดสรรงบประมาณจ้างเหมาให้ก่อสร้างทางแยกต่างระดับจุดตัดทางหลวงหมายเลข 231 กับทางหลวงหมายเลข 23 (ทางแยกดงอู่ผึ้ง) พร้อมทางคู่ขนาน และทางแยกวนารมย์ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยและรองรับปริมาณการจราจรที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากที่ผ่านมาทางแยกทั้งสองแห่งมีปริมาณรถสะสมเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นการรองรับการเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 20 เม.ย.62 ที่บริเวณสี่แยกดงอู่ผึ้ง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

การก่อสร้างทางแยกทั้งสองแห่ง เป็นแบบทางลอดและทางยกระดับพร้อมสร้างทางคู่ขนาน ซึ่งจะเริ่มลงมือก่อสร้างในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้างนาน 3 ปี (1,080 วัน) หรือเร็วกว่านั้นหากการดำเนินการเคลื่อนย้ายสาธารณูปโภคในบริเวณรอบโครงการแล้วเสร็จโดยเร็ว การก่อสร้างดังกลล่าวใช้งบประมาณ 798 ล้านบาท โดยมี บริษัท ส.เขมราฐ อินดัสตรี้ จำกัด เป็นผู้รับจ้าง และมีสำนักงานก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวง เป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง
 

ในขณะที่ในอีกมุมมองหนึ่ง ได้มีประชาชนชาวอุบลราชธานี ที่เป็นห่วงต้นไม้ขนาดน้อยใหญ่ นานาพันธุ์ ที่ยืนต้นตระหง่านอยู่บริเวณสี่แยกดงอู่ผึ้งมานานกว่าร้อยต้น เกรงว่าอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ใช้ขุดถอน ต้นไม้เหล่านั้นจะไม่ได้มาตรฐาน ต้นไม้ถูกตัดโค่นลงโดยไม่ถูกวิธี และเสียชีวิตไปในที่สุด หรือหากยังมีชิตอยู่ ก็ไม่รู้ว่า จะถูกเคลื่อนย้ายไปไว้ที่ไหน? อย่างไร?  และจากที่พี่น้องประชาชนได้พบเห็นสภาพต้นไม้ที่ถูกโค่นล้มลงมา น่าจะอาการร่อแร่ และรอดยาก อยู่หลายต้น บางต้นเหมือนจงใจจะเอาให้ตายกันไปเลย แบบว่า ตายก็ช่าง ไม่ตายก็ช่าง ลองมาฟังความคิดเห็นของพี่น้องชาวจังหวัดอุบลราชธานี กันดูครับ
 

วันนี้ (19 มิ.ย.62 ) นายจำรูญศักดิ์  จันทรมัย  ประธานองค์กรตรวจสอบทุจริตคอร์รัปชั่นภาคอีสาน และ เป็นรองเลขาธิการพรรคไทยศรีวิไลย์ ลำดับที่ 1 ซึ่งเป็นลูกหลานชาวอุบลฯ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ ด้วยความไม่สบายใจ อันเนื่องมาจากการตัดโค่นต้นไม้ใหญ่ ณ สี่แยกดงอู่ผึ้ง (บริเวณที่จะมีการก่อสร้างทางดังกล่าวข้างต้น) กลางเมืองอุบลฯ ตามกระแสสังคมที่กล่าวถึงต้นไม้เหล่านั้นกันอย่างกว้างขวาง ในเมืองอุบลฯ ว่า หากผู้มีอำนาจหน้าที่  ตระหนักและหวงแหนคุณค่าของต้นไม้ใหญ่ สามารถทำได้ครับ ประชาชนร่วมด้วยแน่ๆ จัดเป็นวาระแห่งชาติ แห่ต้นไม้จะยิ่งใหญ่ไม่แพ้ งานแห่เทียนพรรษา เมืองอุบลฯ และจะเป็นข่าวดังทั่วโลก ย้ายไปอยู่ที่ใดก็จะเป็นจุดเที่ยว (ถ่ายภาพ) ทำได้ถึงขนาดลงกินเนสบุ๊ค “ การย้ายกลุ่มต้นไม้ใหญ่อายุหลายร้อยปี ที่ประชาชนเข้ามีส่วนร่วมมากที่สุดในโลก ” สื่อทั่วโลกจะมาทำข่าว และอาจจะดังกว่าบั้งไฟพญานาค ผมเชื่อว่า ทำได้ครับ.!  ยืมเทคโนโลยีของทางตะวันตก และมิตรประเทศ รวมถึงที่เรามีมาร่วมในปฏิบัติการ ผมว่าประเทศต่างๆ เขายินดีมาครับ  ไม่ใช่มาช่วยเฉพาะเกิดภัยพิบัติ  อย่างนี้ควรหาช่องทาง ตั้งคณะทำงานโชว์วิสัยทัศน์ สง่างามครับ อุบลราชธานี ถ้าไม่ Smart Brain ก็อย่าไปคุยเรื่อง Smart City เลยครับ “มันหาความ Smart ไม่ได้” นายจำรูญศักดิ์ จันทรมัย กล่าว

นายจำรูญศักดิ์ จันทรมัย ได้กล่าวต่ออีกว่า เราควรหาข้อสรุปร่วมกัน เชิญประชาชน คนอุบลราชธานีเข้าหารือ ประชาชนต้องมีส่วนร่วม  ไม่ใช่เพียงภาครัฐกับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ร่วมเห็นชอบ แล้วเหมือนจงใจกระทำย่ำยีหัวใจคนรักต้นไม้ ที่หวงแหนสิ่งแวดล้อมอันทรงคุณค่า จะทำหรือไม่อย่างไร ไม่ว่า แต่ท่านผู้มีอำนาจหน้าที่ควรถามประชาชน ไม่ใช่เพียงประชาพิจารณ์แบบลักไก่  ชาวบ้านทั่วไปเขาไม่เคยถูกถามเลย การขุดล้อมย้ายต้นไม้จะมีผลให้ต้นไม้สูญเสียระบบรากไปมากกว่าร้อยละ 50 ดังนั้น การตัดแต่งที่เหมาะสมและถูกต้องตามหลักวิชาการจะช่วยให้ต้นไม้มีโอกาสฟื้นตัว รอดและแข็งแรงได้รวดเร็ว โดยเฉพาะการตัดใบ หากตัดออกมากเกินความจำเป็นจะทำให้ต้นไม้ฟื้นตัวช้า จึงควรตัดออกไม่เกิน 1 ใน 3 ของทรงพุ่มเดิม นอกจากนี้ การขุดล้อมตุ้มดินยิ่งมีขนาดใหญ่ ยิ่งเป็นผลดีกับต้นไม้ แต่อาจไม่สะดวกในการขนย้าย จึงมีแนวทางกำหนดขนาดตุ้มดินให้เล็กลงเพื่อความสะดวก คือตุ้มดินจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 6 เท่าของเส้นผ่าศูนย์กลางลำต้นโดยวัดที่ความสูง 50 ซม.จากโคนต้น หลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ (ย้ายต้นไม้ใหญ่ที่สุดในโลก) ด้วยเทคโนโลยีเมื่อ 25 ปีที่แล้ว (พ.ศ.2537) แต่เขามีความตั้งใจและรักหวงแหนสมบัติของแผ่นดิน “ขนาดต้นไม้ สูง 29 เมตร รอบต้นวัดได้ถึง 33 เมตร” เขายังย้ายไปปลูกในที่ใหม่ได้(เนื่องจากจะมีการสร้างเขื่อนที่บริเวณนั้น)

นายจำรูญศักดิ์ กล่าวในตอนท้ายอีกว่า กรุงเทพมหานคร ย้ายต้นไม้มาแล้วและกำลังจะย้ายอีกนับพันต้น ท่านลองหารือดูนะครับ ผมเชื่อว่าคนอุบลราชธานี จำนวนไม่น้อยที่ไม่สบายใจ ทุกครั้งที่ผ่านแยกดงอู่ผึ้ง ในวันนี้! และพบต้นไม้ถูกโค่น ท่านคิดเห็นกันอย่างไรครับ ปฏิบัติการช่วยทีมหมูป่า 13 ชีวิต ไทยเราทำสำเร็จมาแล้ว ออกข่าวดังทั่วโลก สร้างภาพลักษณ์ของคนในชาติ ส่งเสริมการท่องเที่ยว สุดยอดครับ ดังนั้น พี่น้องชาวอุบลราชธานีต้องสร้างกระแส “ปฏิบัติการช่วยชีวิตต้นไม้ใหญ่”  ถึงเวลานี้ ท่านผู้เกี่ยวข้องและประชาชน ยังช่วยกันได้ครับ  เราลองพิจารณาดูจากสภาพของต้นไม้ที่ถูกตัดโค่นลง ทั้งดูจากของจริงและดูจากภาพถ่าย น่าจะมีต้นไม้ที่อาการร่อแร่ และรอดยาก อยู่หลายต้น อาจจะเป็นเพราะว่า ถูกขุดโค่นไม่ถูกวิธี หรืออาจะเกิดจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งในขณะที่ทำการขุดโค่น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัว ในเรื่องส่วนรวมที่พบเห็นมา เท่านั้นครับ นายจำรูญศักดิ์ กล่าวในที่สุด