ผอ.สพป.อุบลฯ เขต 2 แจง! 
ถูกบิดเบือนข้อเท็จจริงกรณีครูร้องทุกข์ผอ.ร.ร.
 

นายวิชัย แสงศรี  ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2 (ผอ.สพป.อบ.2)  ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวของเราว่า  เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีเหตุการณ์ข้าราชการครู สังกัดโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในต.หัวนา  อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา เปิดทำการสอนตั้งแต่ ชั้นอนุบาล-มัธยมศึกษาตอนต้น  สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2 (สพป.อบ.2) ร้องทุกข์ต่อ สพป.อุบลราชธานี เขต 2 กรณีมีการเข้าใจกันผิดระหว่าง ผู้อำนายการโรงเรียน กับ ข้าราชการครูสายผู้สอน 2 ราย โดยมีหนังสือร้องทุกข์เข้ามายัง สพป.อบ.2 เมื่อวันที่ 7 ส.ค.62 ที่ผ่านมา และ  เกี่ยวกับเรื่องนี้ มีองค์กรหนึ่ง ได้มีหนังสือมาถึง สพป.อบ.2  ซึ่งคาดว่า อาจจะมีข้าราชการครูจากโรงเรียนดังกล่าว ไปร้องทุกข์ต่อองค์กรนั้นเช่นกัน ซึ่งองค์กรดังกล่าว ได้ระบุเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ดังต่อไปนี้
 

ด้วยมีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนบ้าน..? สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2 ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อชมรม..(ขอสงวนชื่อ)....ฯ จังหวัดอุบลราชธานี กรณีมีเหตุคับข้องใจ เนื่องจากถูกผู้บังคับบัญชาปฎิบัติต่อตนโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อาจทำให้ราชการเกิดความเสียหาย โดยข้าราชการครูรายดังกล่าวกับพวกได้ทำหนังสือร้องทุกข์ และมีคำขอให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2 ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2562 รายละเอียดปรากฎตามที่แนบมาพร้อมนี้

ในการดังกล่าว ปรากฎข้อเท็จจริงว่า ได้มีคณะกรรมการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2 ประกอบด้วย 1. นาย ณ 2.นาย ก. เรียกนางอ. และนางสาวส. ข้าราชการครูโรงเรียนบ้าน...?.... ไปพบที่ร้านอาหารด่านฮังฟาร์มปลา ต.พังเคน อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ไปทำการสืบสวน โดยอ้างว่า ผ.อ.สพป.อบ.2 แต่งตั้งให้มาทำการไกล่เกลี่ยยอมความกัน และจะนำผลการไกล่เกลี่ยไปรายงาน ผ.อ.สพป.อบ.2 ต่อไป และกรรมการที่ ผ.อ.สพป.อบ.2 แต่งตั้งมาทำการไกล่เกลี่ยนั้น ได้เชิญคู่กรณี คือ ผอ.ร.ร. และภรรยา และครูอีก2คน ชึ่งเป็นบุคคลฝ่ายคู่กรณี เข้ามาร่วมรับฟัง  โดยการโน้มน้าว จูงใจ ให้คำมั่นสัญญา ด้วยประการใดๆ เพื่อไม่ให้นางอ. และนางสาวส. อยากที่จะให้ถ้อยคำตามที่อยากจะให้
 

การกระทำของคณะกรรมการที่ ผ.อ.สพป.อบ.2 แต่งตั้งมาสืบสวนพิจารณาในเบื้องต้น จึงเป็นการปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์โดยมิสมควรได้  ชมรมฯ จึงเสนอให้ท่านพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่ข้าราชการครูทั้ง 2 ท่านนี้ ด้วย
 

จึงเรียนมาเพื่อเสนอต่อผู้มีอำนาจหน้าที่ควบคุมตรวจสอบการกระทำดังกล่าว ด้วย ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของทางราชการไม่ให้เกิดความเสียหาย
 

นายวิชัย แสงศรี  ผอ.สพป.อุบลราชธานี เขต 2 ได้กล่าวว่า ผมขอเรียนให้ทุกท่านได้ทราบว่า เรื่องนี้ไม่จริงนะครับ และก่อนหน้านี้ ผมก็ยังไม่ได้แต่งตั้งคณะกรรมการไปลงพื้นที่สืบสวนข้อเท็จจริงเลย  แต่ทั้ง 2 คน ที่ถูกพาดพิงถึงนั้น ได้ออกไปที่ร.ร.ดังกล่าวจริง แต่เป็นการออกไปโดยที่ผมไม่ได้สั่งการอะไร ไม่เคยสั่งให้ไปประนีประนอม ยอมความทำบันทึกกัน แม้จะทำบันทึกทางกฎหมายก็ไม่มีผลอะไร  หากมีการกระทำผิดแล้ว จะมาบันทึกไม่ได้ ดำเนินการทางกฎหมายไม่ได้  ซึ่งหนังสือเข้ามาที่สพป.อบ.2 ในวันที่ 7ส.ค.62 ผมก็มอบให้กลุ่มวินัย ดำเนินการ และในขณะนี้ นิติกรอีกคน ซึ่งผมมอบหมายให้เป็นเจ้าของเรื่อง ได้เสนอแต่งตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริงแล้วครับ โดยไม่มี 2 คน ที่ออกไปร.ร.ก่อนหน้านี้ตามที่ถูกกล่าวถึงมาร่วมเป็นคณะกรรมการในครั้งนี้ กรรมการที่แต่งตั้งขึ้นมานี้จะเลือกเอาคนที่ไม่มีส่วนได้เสียและมีความเป็นกลาง ครับ
                

นายวิชัย แสงศรี กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ ผมจะดำเนินการตามระเบียบกฎหมาย แต่จะให้ความเป็นธรรมทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง แต่ผู้ร้องอยากให้ผมดำเนินการอย่างรวดเร็วทันที  การที่นิติกรนายกระสุน และคณะออกไปหาข้อมูล (ไปเองโดยไม่ได้ขออนุญาตจากผม) รวมทั้งไปพูดคุยประนีประนอม ทำให้ผู้ร้องเข้าใจว่า ผมจะไม่มีการตั้งกรรมการสืบ หากมีมูล ผมก็จะเสนอข้อมูลต่อผู้มีอำนาจในการตั้งกรรมการสอบสวนต่อไป
 

นายวิชัย แสงศรี  ยังได้ฝากถึงเพื่อนครูและผู้สื่ข่าวหรือสื่อมวลชนทุกท่านด้วยว่า กรณีมีการบิดเบือนเรื่องดังกล่าวนี้  น่าจะมีสาเหตุมาจากการที่มีบุคคลภายนอกคนหนึ่ง มาขอร้องให้ผมลงโทษ ผอ.ร.ร.ขยายโอกาสทางการศึกษาแห่งหนึ่ง ในอำเภอเขมราฐ จ.อุบลฯ โดยกล่าวหา ผอ.ร.ร.คนดังกล่าว  ทำนองว่า  มีการจัดซื้อจัดจ้าง เบิกจ่ายเงินมิชอบด้วยระเบียบกฎหมาย แต่ผม ต้องตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาก่อน แล้วจึงจะดำเนินการตามระเบียบขั้นตอน ไม่ใช่ว่า บุคคลภายนอกจะมาสั่งยังไงก็ได้ หรือสั่งปุ๊บ ให้ผมทำตามปั๊บ  แบบนั้น มันไม่ได้ ไม่ถูกต้อง นายวิชัย กล่าวในที่สุด.