วันอาทิตย์ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568 11:28 น.

ภูมิภาค

หนุ่มปลูกราชินีแห่งมะนาวแป้นรำไพ แบบอินทรีย์สร้างรายได้ดี

วันพฤหัสบดี ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2562, 11.28 น.

หนุ่มปลูกราชินีแห่งมะนาวแป้นรำไพ
แบบอินทรีย์สร้างรายได้ดี

 

วันที่ 28 สิงหาคม 2562 หนุ่มวัย 37 ปีในพื้นที่ชุมชนเวียงน้ำเต้าหมู่ที่ 14 ตำบลท่าวังทองอำเภอเมือง จังหวัดพะเยาใช้เวลาว่างปลูกมะนาวแบบอินทรีย์ สองสายพันธุ์มีมะนาวแป้นรำไพและมะนาวแป้นพิจิตรโดยใช้พื้นที่หลังบ้านสามารถนำไปขายสร้างราย 400-500 บาท ต่อวันจนผลผลิตไม่พอกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละวัน

 


 

นายอิทธิเดช ศิวากรดนัยนักธุรกิจหนุ่ม วัย 37 ปี ในพื้นที่หมู่ที่ 14 ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยานำผู้สื่อข่าวเข้าดูผลผลิตมะนาวที่เขาปลูกไว้ประมาณ 50 กว่าต้นผสมผสานกับพืชผักในครัวเรือนซึ่งเป็นพื้นที่บริเวณสวนหลังบ้านเนื้อที่ประมาณ2งาน ที่เคยเป็นพื้นที่ว่างเปล่า โดยเขาได้หันมาปลูกมะนาวแป้นรำไพและมะนาวแป้นพิจิตรที่เพาะขยายพันธ์ด้วยตนเอง มาเป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปีโดยล่าสุดสามารถเก็บผลผลิตได้ และสามารถจำหน่ายได้เป็นอย่างดีจนไม่เพียงพอกับความต้องการของการตลาด


 

นายอิทธิเดชเล่าว่าปัจจุบันตนเองทำธุรกิจเกี่ยวกับพระเครื่องและได้ใช้เวลาว่างในพื้นที่ดังกล่าวดูแลสวนมะนาวหลังบ้าน ซึ่งปัจจุบันครอบครัวขายน้ำผลไม้ปั่นและส้มตำจึงได้ทำการหาซื้อพันธ์มะนาวทั้งสองสายพันธ์โดยเฉพาะแป้นรำไพหรือราชินีแห่งมะนาวที่มีคุณลักษณะพิเศษคือเปลือกจะบางมีกลิ่นหอมน้ำจะเยอะ จึงได้ทำการเพาะพันธ์และนำมาปลูกเริ่มต้นที่ 50ต้นโดยผลผลิตในช่วงฤดูฝนนี้จะมีลูกดกมากสามารถเก็บไปขายได้ทุกวัน

 

 

โดยใช้วิธีการปลูกแบบชีวภาพปลูกในบ่อซีเมนต์เพราะสามารถให้มะนาวสามารถออกลูกนอกฤดูกาลได้โดยเฉพาะช่วงฤดูแล้งช่วงเดือนเมษายนซึ่งมะนาวจะแพงถึงกิโลกรัมละ 80บาท และการปลูกมะนาวปลูกในบ่อซีเมนต์จะง่ายต่อการจัดการ เนื่องจากการปลูกในบ่อซีเมนต์สามารถปลูกให้มีขนาดทรงพุ่มเท่ากับการปลูกในแปลงดินได้ และง่ายต่อการงดน้ำเพื่อบังคับให้ออกลูกนอกฤดู และมีรสชาติที่หอมอร่อยและสามารถนำไปขายได้ราคาดีกว่ามะนาวพันธุ์อื่นๆ

 


โดยตนเองสามารถจะเก็บผลผลิตนำไปขายทั้งร้านอาหารทั่วไปและจะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อผลผลิตของตนเองถึงบ้านซึ่งลูกค้าต้องการซื้อเป็นจำนวนมากจนไม่พอขายเนื่องจากมะนาวที่ตนเองปลูกนั้นจะใช้วิธีการปลูกแบบอินทรีย์จึงทำให้มีรสชาติที่ดีและเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งจะจำหน่ายในราคาส่งที่กิโลกรัมละ 50 บาท และหากขายปลีกก็จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 55 บาท ซึ่งในแต่ละวันนั้นสามารถเก็บผลผลิตได้ สามารถสร้างรายได้เสริมจากงานหลักถึงวันละ 400-500บาทเลยทีเดียว

 

หน้าแรก » ภูมิภาค