ระดมควาญช้าง4จังหวัด
ล่าพลายกวม-ก่อนสิ้นฤทธิ์ด้วยยาสลบ

พัทลุง ระดมควาญช้าง 4 จังหวัด ตามล่าพลายกวมดึงโซ่ขาดวิ่งหนีเข้าป่า หลังจากควาญของถูกไม้ยางพาราหล่นทับได้รับบาดเจ็บสาหัส ควาญช้างต้องใช้เวลาตามจับถึง 3 วัน ก่อนที่พลายกวมจะสิ้นฤทธิ์ด้วยยาสลบของสัตวแพทย์โรงพยาบาลช้างกระบี่

ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุงรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 9 ก.ย.นี้ นายวัชรเกียรติ ภัทรภูติ ปลัดอำเภอเขาชัยสน จ.พัทลุง และนายเจริญศักดิ์ ชูสงค์ กำนันตำบลโคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง พร้อมลูกบ้านประมาณ 100 คน นำควาญช้างผู้ชำนาญการจับช้างจากจังหวัดพัทลุง ตรัง สตูลและนครศรีธรรมราชและคณะของนายสัตวแพทย์ทศพล ภิภัทรธรรม จากโรงพยาบาลช้างกระบี่ นำปืนยิงยาสลบออกไปตามจับช้างที่ชื่อพลายกวม ที่พยายามดึงโซ่และสายทอที่ติดอยู่ที่คอออก ก่อนที่จะเดินหนีเข้าป่าสวนยางพารา บ้านโคกม่วง หมู่ที่ 11 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ทางกลุ่มควาญช้างประมาณ 10 คน นำโดยนายเจียร จุลคง ควาญช้างจากอำเภอกงหรา และเป็นผู้ชำนาญการเลี้ยงช้างประเภทช้างดุมาโดยตลอด แต่ใช้เวลาตามจับนาน 2 วันก็ยังไม่สามารถจับเอาไว้ได้ ทำให้ทางหมู่บ้านต้องประกาศห้ามราษฏรใน 4 หมู่บ้านออกไปกรีดยางพารา เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นอันตราย เนื่องจากช้างพลายกวม เป็นช้างประเภทดุ ใครก็ตามไม่สามารถเข้าใกล้ได้ในระยะ 100 เมตร และเป็นช้างที่ฉลาด มีควาญช้างคนเดียวเท่านั้นที่สามารถขึ้นขี่คอพลายกวมได้

นายเจริญศักดิ์ ชูสงค์ กำนันตำบลโคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง เผยว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา นายนนท์ เหล็มปาน ราษฏรจากบ้านน้ำตกไพรวัลย์ อ.กงหรา จ.พัทลุง นำช้างมาทำงานตัดโค่นไม่ยางพาราและชักลากไม้ยางออกจากสวน ในระหว่างที่นายนนท์ ควาญช้างใช้เลื่อยโซ่โค่นต้นยาง กิ่งยางขนาดใหญ่ที่ค้างอยู่ยอดยางได้ตกลงมาถูกศรีษะของนายนนท์ จนได้รับบาดเจ็บ สาหัส ขณะที่เพื่อร่วมทำงานนำผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาล และได้ผูกช้างไว้ในสวนยาง แต่เมื่อกลับมาอีกที่ก็พบว่า ช้างได้ดึงโซ่ขาดและใช้งวงถอดสายทอที่ใช้ลางไม้ทิ้งไว้ในสวน ก่อนที่จะเดินหนีเข้าป่า เจ้าของก็ได้ประสานงานไปยังควาญช้างที่มีประสบการณ์มาช่วยกันจับ แต่ทุกคนไม่สามารถเข้าใกล้ช้างได้ จึงต้องประมาณขอความร่วมมือไปยิงโรงพยาบาลช้างกระบี่ ส่งเจ้าหน้าที่มาใช้ปืนยิงลูกดอกยาสลบ ถึง 2 ดอก และช้างก็ยังไม่หมดฤทธิ์ วิ่งหนีเข้าไปในหมู่บ้าน และควาญช้างพยายามปิดล้อม ใช้หอกค้ำและกระโดดขึ้นขี่คอช้างได้ แต่ก็ถูกช้างที่กำลังจะวิ่งหนีสะบัดจนกระทั่งควาญช้างที่กระโดดขึ้นขี่คอตกจากหลังช้าง แต่ก็โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ และในที่สุดควาญช้างนับสินคน ก็ใช้หอกค้ำบังคับช้าง ให้สงบก่อนที่จะใช้โซ่ผูกขาทั้ง 4 ขา ไว้กับต้นยางพารา โดยใช้เวลา ตามจับช้างนานถึง 3 วัน

นายเจียร จุลคง ควาญช้างผู้ชำนาญการจับช้าง กล่าวว่า ช้างที่ชื่อไอ้กวม เป็นช้างที่รับรู้กันว่าดุร้ายและจำควาญนอกจากนายนนท์ ผู้เป็นเจ้าของแล้ว ควาญคนอื่นก็ไม่สามารถที่จะขึ้นนั่งคอไอ้กวมได้ ยิ่งเมื่อเจ้าของได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถที่จะมาจับเองได้ ควาญคนอื่นๆก็เข้าใกล้ช้างไม่ได้ เพราะช้างที่เดินหนีเข้าป่า ไม่ได้ตกมันอาการยังปกติ เมื่อเข้าไปใกล้ประมาณ 100 เมตร ช้างก็จะแสดงอาการที่จะไล่ และสภาพป่าเป็นสวนยางพารา ไม่เหมาะที่จะจับช้าง เพราะไม่มีที่กำบัง

ควาญช้างที่เดินทางมาจากหลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นควาญช้างจากจังหวัดสตูล นครศรีธรรมราช ตรังและควาญช้างในจังหวัดพัทลุง ทุกคนก็พยายามที่จะควบคุมเอาไว้ให้ได้ ถึงขนาดนำช้างที่ชื่อ พลายเสรีจากจังหวัดสตูลมาเคียง พลายกวมก็ยังรู้ตัว ไม่ยอมเข้าใกล้ จึงจำเป็นต้องใช้ยิงยาสลบ เพราะถ้ายังจับไม่ได้ทำให้ชาวสวนยางเดือดร้อนไม่กล้าที่จะออกกรีดยาง

สำหรับช้างที่ชื่อไอ้กวม เป็นช้างสีดอ อายุ ประมาณ 30 ปี นายนนท์ เหล็มปาน รับซื้อมาจากจังหวัดแพร่ เมื่อประมาณ 20 ปี ที่ผ่านมา ความดุร้ายของไอ้กวม ก็เคยทำร้ายควาญมาบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต จึงเป็นที่รับรู้กันในกลุ่มผู้เลี้ยงช้างและเคยทำงานชักลากไม่ยางพาราร่วมกันมาตลอด เป็นช้างที่ทำงานเก่งและฉลาด ขณะที่เดินหนีเข้าป่า น้ำตาของไอ้กวมก็จะไหลอยู่ตลอด เป็นน้ำตาสีใสๆ ควาญช้างก็จะรู้ได้ว่า อาการช้างเป็นปกติ แต่อาจจะเสียใจที่ควาญช้างบาดเจ็บ

ทางด้านนายสัตวแพทย์ทศพล กล่าวว่า ปัญหาและอุปสรรคในการยิงลูกดอกจับช้างที่ต้องใช้เวลานานและยิงถึง 2 ครั้ง ก็เกิดจากผู้คนทีอยู่ในพื้นที่มาก เมื่อยิงแล้วชาวบ้านส่งเสียงดังช้างก็จะตื่นและวิ่งหนี ตามปกติเมืองยิงแล้วก็ปล่อยให้ช้างยื่นนิ่งๆและค่อยแสดงอาการจากฤทธิ์ยา ควาญช้างก็จะเข้าไปผูก แต่เมื่อช้างวิ่งหนี อุปกรณ์โดยเฉพาะโซ่หรือเชือกผูกช้าง ก็ไม่พร้อมเป็นการทำงานลำบาก