เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 29 ต.ค. 62 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.อินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง หลังทราบว่าที่บ้านหลังดังกล่าวได้มีการจัดงานศพโดยมีสัปเหร่อผู้จัดการศพเป็นสาวใหญ่วัย 61 ปี ซึ่งอาสาช่วยเป็นสัปเหร่อในงานศพต่าง ๆ ในวัดเขตพื้นที่ อ.โพธิ์ทองถึง 9 วัด โดยไม่เรียกร้องค่าจ้างแต่อย่างใด เมื่อไปถึงพบบ้านดังกล่าวเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง บริเวณชั้นบนของบ้านได้มีการจัดเตรียมงานรดน้ำศพนางน้ำอ้อย  เต่าทอง อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคชรา โดยมีสัปเหร่อสาวใหญ่วัย 61 ปี คือนางสายัณห์  อ่อนละม้าย หรือน้ายัณห์ อายุ 61 ปี กำลังตระเตรียมพิธีรดน้ำศพ ซึ่งเริ่มด้วยการจุดธูปเทียนทำน้ำมนต์สำหรับสำหรับพรมศพ แล้วก็เตรียมสายสิญจน์สำหรับมัดตราสังศพ ก่อนที่จะมีพิธิรดน้ำ ซึ่งเมื่อญาติ ๆ และชาวบ้านรดน้ำศพเรียบร้อยแล้ว น้ายัณฑ์ได้ตรวจดูความเรียบร้อยของโลงเย็น ก่อนที่จะทำพิธีมัดตราสังศพ และช่วย ๆ กันกับญาติพี่น้องนำศพลงโลงเย็น ทำการลงคาถาและยึดโยงสายสิญจน์บนโลงเย็น จากนั้นก็ได้นำโลงศพที่เตรียมไว้บรรจุศพมาเปิดและทำพิธีพรมน้ำมนต์ก่อนยกขึ้นตั้งและจัดหีบศพให้เรียบร้อย

 

จากการสอบถามนางสายัณห์ หรือน้ายัณห์ กล่าวว่า ตนเป็นสัปเหร่อมานานกว่า 20 ปีแล้ว แต่ก่อนพ่อของตนเป็นสัปเหร่อมาก่อน เวลาพ่อของตนไปช่วยงานศพตนก็จะติดสอยห้อยตามพ่อของตนไปตลอด จนกระทั่งพ่อของตนได้เสียชีวิตลง ตนก็ได้สืบทอดเจตนารมณ์ของพ่อประกอบกับใจรักในด้านนี้จึงสานต่อการเป็นสัปเหร่อต่อมา  ตนไม่ได้คิดว่าเป็นอาชีพ เพราะปกติตนก็จะมีอาชีพจักสาน รับสานตะกร้าหวายส่งในตลาดโพธิ์ทอง พอมีงานศพก็จะมีคนมาตามไปช่วย ตนก็ไปทุกงาน ช่วยวัดที่บ้านก่อนคือวัดท่าอิฐ จากนั้นวัดอื่น ๆ ก็ตามมารวม 9 วัด คือ วัดท่าอิฐ วัดน้ำอาบ วัดแม่นาง วัดท่าตลาด วัดโพธิ์เกรียบ วัดศีลขันธาราม วัดสว่าง วัดท่าโขลง และวัดกลางพุฒินิมิต ตั้งแต่ทำมายังไม่เคยที่จะไม่ไปงานไหนเลย ถึงไม่สบายไปไม่ไหวก็จะมีคนมาช่วยพยุงไป แต่พอไปถึงงานตนก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จากที่เดินไม่ค่อยไหว พ่อไปถึงกลับมาแรงทำหน้าที่สัปเหร่อจนเสร็จ พอกลับมาบ้านก็ถึงกับล้มนอนต่อ

 

นางสายัณห์ กล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนในการทำหน้าที่สัปเหร่อนั้น ไม่ได้มีขั้นตอนอะไรมากมาย แต่ต้องมีการพิธีกรรมท่องคาถาตามที่พ่อตนสอนมา เมื่อมีคนมาตามว่ามีงานศพตนก็ไปช่วยจัดเตรียมพิธีรดน้ำศพ  มัดตราสังศพลงโลง และจัดเตรียมสถานที่เสร็จเรียบร้อย ก็จะมีพิธีหลักอีกทีก็ตอนเผาศพ ซึ่งในวันนั้นก็ต้องเตรียมเมรุให้พร้อม เมื่อเสร็จพิธีการ ก็ต้องมาทำพิธีก่อนที่จะนำศพออกจากโลงและนำเข้าเมรุเผาศพ ซึ่งหลังนำศพเข้าเมรุแล้วก็ไม่ใช่ว่าเสร็จเรื่อง ต้องคอยดูศพว่าไหม้หมดหรือยัง ถ่านพอมั้ย บางศพก็อยู่ดูต่ออีก 2-3 ชั่วโมง ซึ่งเวลานั้นส่วนใหญ่ก็จะเหลือตน ผู้ช่วย และก็ศพที่เผาอยู่แค่นั้น ส่วนญาติเขาก็จะรอมาตอนเช้าเพื่อเก็บกระดูก ศพบางศพเผายาก บางศพก็เผาง่าย เคยเจอบางศพเป็นศพไร้ญาติ หรือไม่ค่อยมีเงิน 

 

ซึ่งนอกจากตนจะมาช่วยแล้ว ตนก็ยังประสานไปยังร้านทำศพ ร้านดอกไม้ เพื่อให้เขาช่วยเหลือ ซึ่งเมื่อตนโทรบอก ก็ต่างมีคนมาช่วยกันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นร้านโลงศพ หรือร้านดอกไม้ บางคนก็บริจาคให้ฟรี บางคนก็คิดราคาถูก ซึ่งตนก็ดีใจที่มีคนใจบุญช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก บางศพตนก็ช่วยบริจาคถ่านเผาให้ฟรี เพราะญาติเขาไม่มีเงิน ไม่ใช่ว่าตนรวยหรือมีเงินเยอะ เพียงแต่นึกถึงใจคนที่เขาไม่มีแค่นั้น และก็คิดว่าเป็นการทำบุญด้วย ถึงแม้ตนจะเหนื่อยแต่ตนก็สุขใจทุกครั้งที่ได้ทำ ซึ่งตนเคยเจอมากสุดวันนึงต้องทำศพถึง 4 ศพในหนึ่งวัน ทุกวันนี้ก็ยังเป็นห่วงว่าต่อไปหากตนไปไม่ไหวแล้ว หรือตายไปก่อน จะมีใครที่จะมาเป็นสัปเหร่อแทนได้บ้าง ตนพยายามฝึกพยายามหัดให้คนอื่นทำ แต่ก็ยังไม่เจอใครที่จะทำจริง ๆๆ การเป็นสัปเหร่อมันบังคับกันไม่ได้ มันต้องมีใจจริง ๆ

 

ด้านนายปทีป  พาชื่น อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง และเจ้าของร้านดอกไม้ใน อ.โพธิ์ทอง กล่าวว่า ตนเห็นน้ายัณห์มาตั้งแต่เด็ก ๆ เมื่อก่อนน้ายัณห์จะตามพ่อเขาไป ต่อมาก็มาทำเอง ซึ่งน้ายัณห์เป็นหญิงเก่ง เป็นสัปเหร่อถึง 9 วัด ซึ่งตนก็ยังไม่เคยผู้หญิงที่ไหนทำแบบนี้ น้ายัณห์ไม่เคยเรียกร้องค่าจ้างอะไรจากใคร นอกจากจะมีเจ้าภาพหยิบยื่นมาให้เป็นค่าน้ำมันรถบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ดูแลศพดี ทำสะอาดสะอ้าน บางงานศพที่ตนไปส่งศพหรือไปส่งดอกไม้ ถึงแม้เขาจะมีสัปเหร่อประจำวัดอยู่แล้ว ก็ยังต้องให้ตนช่วยตามน้ายัณห์ ซึ่งน้ายัณห์เองก็ก็ลำบากใจ แต่ก็ปฏิเสธเจ้าภาพไม่ได้ บางครั้งเจอศพไร้ญาติก็มาประสานให้ตนช่วยเรื่องดอกไม้บ้าง ช่วยประสานเรี่ยไรเงินกันจัดงานศพให้บาง นอกจากนั้น เวลาน้ายัณห์ไม่สบาย แต่มีงานศพก็จะโทรให้ตนไปช่วยบ้าง เพราะบางครั้งต้องมีการพลิกศพน้ายัณห์ไม่ไหวก็ต้องไปช่วย  หลาย ๆ ครั้งที่ในหนึ่งวันจะเจองานศพหลายงานติดต่อกัน ซึ่งน้ายัณห์ก็จะเลื่อนเวลากันไป ซึ่งมากสุดก็เจอถึงวันละ 4 ศพเลยทีเดียว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างชื่นชมในความมีน้ำใจของน้ายัณห์ ช่วยเหลือโดยไม่เรียกร้องค่าจ้าง และไม่เคยปฏิเสธใคร มาช่วยงานด้วยความเต็มใจ และทำศพเรียบร้อยทุกขั้นตอน คนแถวนี้ต่างขนานนามแกว่าเป็นสัปเหร่อหญิงแกร่งของบางพลับ