วันพฤหัสบดี ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2568 13:41 น.

ภูมิภาค

ก.พลังงานเปิดเวทีเสวนา "B10 พลิกโฉมปาล์มน้ำมัน" ลั่น ม.ค. 63 มีใช้ทุกจังหวัด

วันอาทิตย์ ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562, 19.47 น.
วันที่ 24 พ.ย. 62 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเวทีเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อ “B10 พลิกโฉมปาล์มน้ำมัน” และร่วมแถลงนโยบาย “B10 น้ำมันบนดิน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก” ที่โรงแรมบรรจงบุรี อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสร้างการรับรู้และขยายความเข้าใจในวงกว้าง เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบนโยบายและทิศทางพลังงานของประเทศที่ชัดเจนมากขึ้น สามารถนำข้อมูลที่ได้รับนำไปวางแผนการดำเนินทางธุรกิจในอนาคตได้ โดยนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ
 
สำหรับเวทีการเสวนามีวิทยากรร่วมเสวนาประกอบด้วยนายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์/นายอรรถพล ฤกษ์พิบูล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลี่ยมขี้นปลาย บริษัท ปตท.จำกัดมหาชน/นายกฤษดา ชวนะนันท์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม/นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานกรรมการบริษัทบริษัทนิวไบโอดีเซล จำกัด ตัวแทนผู้ผลิตไบโอดีเซล/นายณภัคธร ชัยสงคราม นายกสมาคมการค้าลานเทปาล์มน้ำมัน จ.สุราษฎร์ธานี/ประธานสมาพันธ์ลานเทปาล์มน้ำมันประเทศไทย มีเกษตรกรชาวสวนปาล์มร่วมรับฟังประมาณ 1,000 คน
 
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า กระทรวงพลังงานร่วมมือกับค่ายรถยนต์ โรงกลั่น ผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 ผู้ผลิตไบโอดีเซล และตัวแทนชาวสวนปาล์ม เตรียมเปิดตัวกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมการใช้ B10 ประกาศเป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศ วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน สร้างสมดุลปาล์มน้ำมันทั้งระบบของประเทศ สามารถดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ได้ประมาณ 2 ใน 3 ของปริมาณการผลิตทั้งหมดของประเทศ หรือประมาณ 2.2 ล้านตันต่อปี ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมัน ทำให้ราคาสูงขึ้น รวมทั้งยังช่วยลดปริมาณฝุ่นพิษ PM 2.5 และยังประหยัดการนำเข้าน้ำมันได้ถึงประมาณ 1.8 ล้านลิตรต่อวัน
 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวอีกว่า ปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจหลักสำคัญอีกอย่างหนึ่งของประเทศที่ผ่านมาเราปล่อยให้เป็นปัญหาสะสมมานานต่างจากประเทศเพื่อนบ้านประเทศมาเลเซียที่เขามีการบริหารจัดการที่ครบวงจรมีกระทรวงปาล์มน้ำมันแห่งชาติ อย่างไรก็ตามโดยนโยบายหลัก B10 ต่อไป จะเหลือชื่อเดียวคือดีเซล ส่วน B7 เป็นทางเลือกของรถเก่าซึ่งจะเดินหน้า B10 เพียงอย่างเดียวจะหารือกับเครือ ปตท./บางจากซื้อสต็อกปาล์มน้ำมันล่วงหน้า3เดือน แก้ปัญหาปาล์มอ่อนหรือปาล์มไม่มีคุณภาพโดยกระทรวงพลังงานจะซื้อ 2 ใน 3 ของปาล์มทั้งหมดส่วนที่ห่วงคือผลผลิตต่อไร่ต่ำเพราะคุณภาพพันธุ์ไม่ดีต้องยกระดับตั้งแต่เกษตรกร ลานเท โรงสกัด และกระทรวงจะสนับสนุนโรงสกัดไปสู่การผลิตกระแสไฟฟ้าแต่กำไรต้องคืนให้กับเกษตรกร ตอนนี้ค่ายน้ำมันทุกค่ายประกาศร่วมกันมี B10 อย่างเดียวทั่วประเทศเริ่ม 1 ม.ค. ที่จะถึงนี้ที่สำคัญต้องไม่ปล่อยให้มีน้ำมันลักลอบเข้ามาเด็ดขาดซึ่งชาวสวนปาล์มต้องช่วยกันเชื่อว่าปัญหาปาล์มน้ำมันมีทางออก
 
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ปัจจุบันราคาปาล์มน้ำมันอยู่ที่ กก.ละ 3.80-4.70 บาท และการที่ผลักดันให้ใช้น้ำมัน B10 นับว่ามาถูกทางแล้วและมีความเสถียรภาพ ส่วนในอนาคตราคาปาล์มอาจเปลี่ยนแปลงไปตามกลไกตลาด
 
ด้านนายอรรถพล ฤกษ์พิบูล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลี่ยมขั้นปลายบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน)กล่าวว่าปตท.ใช้น้ำมันปาล์มผลิตน้ำมันประมาณ 14 ล้านตัน ทั้งนี้นโยบาย B10 หรือ B100 เป็นนโยบายที่สร้างสมดุลเหมาะกับเครื่องจักรกลของไทยสามารถลดควันดำได้ถึง 40% และเดือน ม.ค.ปี 63 น้ำมัน B10 มีใช้ทุกจังหวัด และเดือนมี.ค.มีทุกปั๊มทั่วประเทศส่วนคลังน้ำมันในภาคใต้มีถึง 2 แห่งคือ ที่สุราษฎร์ธานีกับสงขลา
 
ขณะที่นายประกิต ประสิทธิศุภผล ประธานกรรมการบริษัทนิวไบโอดีเซล จำกัด ตัวแทนผู้ผลิตไบโอดีเซลกล่าวว่าปัจจุบันกำลังการผลิตไบโอดีเซล1.2ล้านลิตรต่อวันใช้ได้3แสนลิตรและมีโรงงานทั่วประเทศ11โรง ผลิตได้7.5ล้านลิตรซึ่งหากผลักดันB7เป็นB10จากวันละ4ล้านลิตรจะเพิ่มเป็น6ล้านลิตรหากเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบควรจะเพิ่มพื้นที่การปลูกปาล์มจะสามารถพัฒนาการผลิตน้ำมันB10เพิ่มมากขึ้นและทดแทนพลังงานอย่างอื่นได้
 
ด้านนายณภัคธร ชัยสงคราม นายกสมาคมการค้าลานเทปาล์มน้ำมัน จ.สุราษฎร์ธานีและประธานสมาพันธ์ลานเทปาล์มน้ำมันประเทศไทย กล่าวว่า พร้อมสนับสนุน B10ซึ่งที่ผ่านมาเคยสนับสนุนB7และB100และควรปรับเปลี่ยนโซล่ามาเป็นไบโอดีเซลทั้งหมดขอฝากไปยังรัฐบาลคือควรสนับสนุนให้เต็มที่ทั้งนี้ลานเทกินส่วนแบ่งราคาปาล์มแค่30-40สตางค์ที่รับซื้อจากชาวสวนปาล์มส่งโรงงาน
 
อย่างไรก็ตามในช่วงสุดท้ายของการเสวนาเป็นการเสนอแนะไปยังรัฐบาลว่าทำอย่างไรให้เหมาะสมกับการสร้างสมดุลและต้องมีการบูรณากันหลายกระทรวงทั้งกระทรวงเกษรฯกระทรวงพลังงาน/กระทรวงพาณิชเป็นต้นและทำอย่างไรให้มีปาล์มมีคุณภาพรวมทั้งเร่งระบายสต๊อกปาล์มน้ำมันซึ่งทุกฝ่ายพร้อมสนับสนุนB10
 
จากนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพร้อมคณะได้เดินทางไปเยี่ยมชมกระบวนการผลิตไบโอดีเซล B10และB100 ของบริษัทนิวไบโอดีเซล จำกัด อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี

หน้าแรก » ภูมิภาค