วันศุกร์ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567 21:08 น.

ภูมิภาค

พช.ผนึกสภาสตรีฯชวนชาวกรุงเก่าสวมใส่ผ้าไทยให้ยั่งยืน

วันพฤหัสบดี ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2563, 19.29 น.

พช.รวมพลังสภาสตรีฯ ร่วมมือกับชาวกรุงเก่ารณรงค์สวมใส่ผ้าไทยต่อยอดผ้าถิ่นไทยให้ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2563 ที่โรงแรมอยุธยาริเวอร์วิว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ และประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน นางรชตภร โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงขับเคลื่อนรณรงค์การใส่ผ้าไทย กับ นายภานุ  แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางนวลจันทร์  แย้มศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บริษัท ประชารัฐ จำกัด องค์กรสตรี โดยความร่วมมือครั้งนี้ทุกภาคส่วนจะมุ่งมั่นขับเคลื่อนให้พี่น้องประชาชน ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หันมาใส่ผ้าไทยในทุกวัน

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า “การอนุรักษ์ผ้าไทยเป็นวงจรชีวิตของเศรษฐกิจถ้ามีความต้องการผ้าไทยมากทำให้มีการผลิตมากเช่นกัน เป็นกลไกของเศรษฐกิจที่มี Demand Supply ส่งผลให้เกิดความพอใจของคนทอผ้า ผลิตผ้าไทย ลูกหลานก็จะมาสืบทอดกันมากขึ้น ดังนั้นสิ่งสำคัญที่เราช่วยกันในวันนี้ คือการรักษาภูมิปัญญา เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศมีความรุ่งเรือง”ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ ผมเชื่อมั่นว่า ด้วย DNA ของคนอยุธยา คือ ความจงรักภักดีเพราะผ้าไทย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ผลิกฟื้นคืนชีพมา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ได้มีพระราชปณิธานที่จะรักษาและต่อยอดให้ดำรงอยู่”

ทั้งนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ได้อันเชิญกระแสพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ใจความว่า  “ข้าพเจ้ามีความตั้งมั่นที่จะสนองพระเดชพระคุณพระมหากรุณาธิคุณในการสืบสานรักษา และต่อยอดพระราชปณิธานแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เหมือนดั่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตั้งพระราชปณิธานที่จะสืบสานรักษา ต่อยอด และแผ่ขยายพระบารมีแห่งสมเด็จพระบรมชนกนาถและสมเด็จพระบรมราชินี” จากพระราชดำรัสดังกล่าว จะเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือจังหวัดอื่นๆ ทั้งประเทศได้ช่วยกันส่งเสริมสนับสนุนผ้าไทย ช่วยให้ชาวบ้านมีรายได้ เศรษฐกิจฐานรากก็จะมีความเจริญรุ่งเรืองตามมาและขอให้ผ้าไทย เจริญรุ่งเรืองเหมือนเศรษฐกิจของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวทิ้งท้าย

ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้กล่าวย้ำถึงหน้าที่สตรีไทยมี 4 ข้อ คือ 1.เป็นแม่บ้านที่ดี ดูแลสามีและครอบครัว 2.แม่ที่ดีของลูก ให้การอบรมสั่งสอน 3.รักษาเอกลักษณ์ วัฒนธรรมไทย และ 4. พัฒนาตนเองให้ทันสมัยอยู่เสมอ จากข้อ 3 เมื่อปีที่ผ่านมาได้ทำโครงการ ตามรอยผ้าไทย ลมหายใจแม่ของแผ่นดิน ผ้าเป็นชีวิตและลมหายใจของผู้หญิง รายได้ทุกบาททุกสตางค์ ได้มาจากการขายผ้าทอด้วยมือ มืออีกข้างเลี้ยงลูก ทำให้ชีวิตคนชนบทดีขึ้น ชีวิตของผู้หญิงเกิดมาอีกไม่รู้กี่ชาติจะทดแทนพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

โครงการสืบสานอนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน เป็นการรักษาเอกลักษณ์ของความเป็นไทยความมีอารยธรรมสูงจะบ่งบอกด้วยผ้า เงินเกิดการหมุนเวียน ถ้าสามารถเชิญชวนคนไทยครึ่งประเทศซื้อผ้าไทยเศรษฐกิจก็จะหมุนเวียนสู่ชุมชน “ถ้าไทยไม่ช่วยไทย ใครจะช่วยไทย” โดยในงาน OTOP CITY ที่ผ่านมายอดจำหน่ายประมาณ 1,500 ล้านบาท 1 ใน 5 มาจากผ้า ผ้าคือหนึ่งในความมั่นคง การรณรงค์ควรเริ่มที่เราก่อน

ด้านนายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กล่าวเกี่ยวกับการส่งเสริมการแต่งกายด้วยผ้าไทย ของหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้โครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” ว่า เป็นการทำให้ความเป็นไทยนิยมควบคู่ไปอย่างองอาจกับสากลนิยม ไทยนิยม คือ ส่งเสริมผ้าไทย ช่วยกันสวมใส่ผ้าไทยอย่างภาคภูมิใจไม่เขินอายในผ้าไทย ทุกคนช่วยกันใช้ผ้าไทย ให้มากอย่าอาย พวกเราทุกคนร่วมมือกันจะแพร่หลาย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเองเราก็ได้นำเอาเสน่ห์ผ้าไทยมาเป็นส่วนหนึ่งในการสนับส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชม ทำให้การท่องเที่ยงของอยุธยา มีความคึกคักและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้เป็นอย่างดี

หน้าแรก » ภูมิภาค