จากเหตุการณ์ จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ถมมา อายุ 32 ปี ทหารหน่วยกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จังหวัดนครราชสีมา คลั่งก่อเหตุกราดยิงใจกลางเมืองโคราช ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 30 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวน 58 รายนั้น โดยนายทัศนะ หริรักษ์ อายุ 55 ปี หรือ เซอร์เวย์  ซึ่งเป็นตำรวจบ้านและเป็นจิตอาสา ถือว่า เป็น 1 ในจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งบิดาบุญธรรมตำรวจบ้านทัศนะฯยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ภูมิใจในตัวของลูกชายที่ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์บ้านจนนาทีสุดท้ายของชีวิต

 

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 ที่วัดดอนขวาง เขตเทศบาลตำบลหัวทะเล อำเภอเมือง จ.นครราชสีมา นายเชิดไปล่ กระโทก อดีตกำนันตำบลหัวทะเล บิดาและบุตรสาว ได้ตั้งศพของนายทัศนะฯบำเพ็ญกุศลอยู่ภายในศาลา 1 ตั้งแต่เมื่อวาน (10 ก.พ.) ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยมีเพื่อนจิตอาสาเดินทางมาเคารพศพ ซึ่งมีการจัดความเป็นระเบียบของพวงหรีดจำนวนมากให้เหมาะสมและสมเกียรติ โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ช่วงเย็นเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระราชินีฯได้พระราชทานน้ำหลวง พวงมาลา และสิ่งของพระราชทาน โดยให้พลอากาศโทภักดี แสงชูโตองคมนตรีเป็นผ้แทนพระองค์ในการอันเชิญให้กับศพนายทัศนะ หริรักษ์ วัดดอนขวาง ต.หัวทะเล อ.เมือง โดยมีการคลุมด้วยธงชาติ เสมือนข้าราชการ ในฐานะที่เป็นผู้ทำความดีด้วยความเสียสละ นอกจากนี้ยังมีพวงหรีดของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา , พล.อ.ประวิตร วง์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี , พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย , พล.อ.อภิรักษ์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. , พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และบุคคลสำคัญจำนวนมาก อาทิ แม่ทัพภาคที่ 2 , ผวจ.นครราชสีมา , ผบช.ภ.3 , กระทรวงยุติธรรม เป็นต้น โดยจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพวันที่ 13 ก.พ. 2563 เวลา 16.00 น. 

        

นายเชิดไปล่ กระโทก อดีตกำนันตำบลหัวทะเล อายุ 69 ปี บิดาของนายทัศนะ หริรักษ์ ตำรวจบ้านตำบลหัวทะเล เปิดเผยว่า ลูกชายเป็นตำรวจบ้านมาหลายปีตั้งแต่ก่อตั้ง และยังเป็นจิตอาสา ทานงานด้วยความเสียสละด้วยใจ ไม่มีเงินเดือน ไม่มีรายได้ค่าตอบแทนจากตรงนี้เลย ช่วงเกิดเหตุตนยังไม่ทราบว่าถูกยิงเสียชีวิต มาทราบตอนประมาณหนึ่งทุ่ม จนถึงตอนนี้รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ภูมิใจที่ลูกชายปฏิบัติหน้าที่เสมือนผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จนวาระสุดท้าย จริงๆไม่ใช่ลูกแท้ แต่เป็นลูกบุญธรรมเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านของตน เพราะนายทัศนะฯไม่มีที่อยู่ ด้วยความวงสารเลยรับเป็นลูกบุญธรรม ไม่มีครอบครัว พ่อแม่แท้ๆเสียชีวิตหมดแล้ว มีเงินได้จากอาชีพรับจ้างทั่วไป ได้มาเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น ไม่สนใจว่าจะได้น้อยหรือไม่ได้ กินข้าววัดบ้าง กินข้าวที่บ้านบ้าง ทั้งนี้นายทัศนะฯเป็นคนที่มีนิสัยน่ารัก จริงจัง และมีความตั้งใจในการทำงาน ซึ่งก่อนเกิดเหตุไม่ได้มีลางบอกเหตุแต่อย่างใด  

 

ทั้งนี้ทางหน่วยงานราชการจัดพิธีศพให้อย่างสมเกียรติมาก ปลื้มใจมากที่สุดในชีวิต โดยเฉพาะสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระราชินีฯพระราชทานน้ำหลวง พวงมาลา และสิ่งของพระราชทาน รวมทั้งพระราชทานเพลิงศพ(ในพระบรมราชานุเคราะห์)ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมอย่างที่เปรียบเทียมมิได้ ภูมิใจมากที่จัดพิธีอย่างยิ่งใหญ่ อยากให้ทางราชการช่วยเหลือเยียวยาทุกอย่าง เพื่อจะนำจากที่ได้รับไปบริจาคสมทบทุนสร้างวัด และสร้างโรงเรียน ในวัดดอนขวาง แห่งนี้