วันอาทิตย์ ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 13:08 น.

ภูมิภาค

นมัสการพระเจ้าใหญ่ศรีเจริญ เที่ยวงานบุญเดือนสี่ จ.อำนาจเจริญ

วันอาทิตย์ ที่ 01 มีนาคม พ.ศ. 2563, 16.41 น.

วัดพระศรีเจริญ ตั้งอยู่บ้านหัวตะพาน ต.รัตนวารีศรีเจริญ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ อยู่ห่างจากตัวเมืองอำนาจเจริญ ประมาณ 25 กิโลเมตร ด้านทิศตะวันตก ไปตามถนนอรุณประเสริฐ สายหลัก อำนาจเจริญ – ยโสธร ระยะทาง 19 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายสี่แยกไฟแดง ป้อมยามกุญชร เข้าถนนสายรองอีก 10 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดพระศรีเจริญ ท่ามกลางพุทธศาสนิกชนเดินทางเข้ามากราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์และฟังธรรมคำสอนของเจ้าคณะอำเภอหัวตะพาน อย่างเนืองแน่น ทุกวัน

 


   

 วัดพระศรีเจริญ สังกัด มหานิกาย พระครูกิตติ กิติโย เป็นเจ้าอาวาสวัดพระศรีเจริญและตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอหัวตะพาน มีพระสงฆ์ 8 รูป สามเณร 35 รูป แม่ชีไม่มี มัคนายก 1 คน ภายในเนื้อที่ 15 ไร่ ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงถูกคัดเลือกเป็นพระนักพัฒนา ได้รับรางวัลวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2551 จากสำนักงานพุทธศาสนา จ.อำนาจเจริญ
    

พระครูกิตติ กิติโย อายุ 70 ปี บวช 50 พรรษา เจ้าอาวาสวัดพระศรีเจริญและเจ้าคณะอำเภอหัวตะพาน บวชสามเณร ที่วัดปลาปาก จ.นครพนม จากนั้น ได้เดินธุดงค์ ข้ามไปฝั่งประเทศลาว และได้จำพรรษา อยู่ที่ถ้ำช้าง ภูเวียง สปป.ลาว รวม 20 ปี จึงได้ข้ามมาฝั่งไทย โดยได้เดินธุดงค์ไปทั่วประเทศ เพื่อโปรดสัตว์และเผยแผ่พุทธศาสนา กระทั่งมาถึงที่บ้านท่ายางชุม อ.หัวตะพาน จึงทำการปักกลดพักแรมใกล้กับบ้านเกิด(บ้านหัวตะพาน) เมื่อชาวบ้านหัวตะพานทราบข่าว ก็ได้นิมนต์กลับไปอยู่วัดบ้านเกิด คือ วัดพระศรีเจริญ ซึ่งตอนนั้นขาดแคลนเจ้าอาวาสพอดี อาตมาไม่ขัด ก็เลยรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระศรีเจริญ กระทั่งปัจจุบัน

 


   วัดพระศรีเจริญ ภายในอุโบสถมีพระเจ้าใหญ่ศรีเจริญประดิษฐานอยู่ ว่ากันว่า มีอายุกว่า 1,000 ปี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ปั้นด้วยดินเผา สูงจากพื้นดิน  2 เมตร หน้าตักกว้าง 1.30 เมตร ซึ่งผุกร่อนมาก จึงได้ใช้ปูนฉาบทาเสริมองค์เดิม แต่ไม่ได้ทุบองค์เดิมทิ้ง ก็เสริมเฉพาะที่แตกร้าวเท่านั้น กระทั่งปี พ.ศ.2525 ได้บูรณะใหม่อีกครั้ง โดยฉาบด้วยทองทั้งองค์  พร้อมกับก่อสร้างอุโอสถหลังใหม่ครอบ อย่างที่เห็นในปัจจุบัน
   
 

พระครูกิตติ กิติโย เจ้าอาวาสวัดพระศรีเจริญและเจ้าคณะอำเภอหัวตะพาน เทศนาสอนวิธีฝึกปฏิบัติ  กรรมฐาน ตอนหนึ่งว่า พุทธองค์ทรงเผยทางสว่างไว้ว่า ให้ควบคุมจิตให้มั่นคงอยู่ฌาน(ฌานคืออารมณ์ชิน)ให้ได้ทุกขณะ วิธีฝึกปฏิบัติ คือ ต้องระลึกไว้เสมอว่า เราจะเจริญภาวนาด้วย” พุทโธ” เริ่มที่ให้นึกถึง พระพุทธรูปองค์ใดก็ได้ที่เราศรัทธา แล้วสมาธิภาวนาทุกวันจนเคยชิน จะเกิดฌานขึ้น ควรทำวันละ 10 -20 นาที ถ้าทำได้สม่ำเสมอ ถึงแม้จะมีกรรมไม่ดีติดตัวมาบ้าง ก็จะพ้นนรก ใครที่ฝึกฌานมาโดยตลอดนั้น สามารถใช้ฌานเข้ามากั้นไม่ให้นึกถึงบาปได้ ก่อนตายแทนที่จะระลึกแต่เรื่องบาป จะมีแต่ภาพแห่งบุญเข้ามาทดแทน ทำให้อารมณ์มีแต่ความสุขความปิติ

 


    

และพระครูกิตติ กิติโย เจ้าอาวาสวัดพระศรีเจริญ เทศนาผลของการทำบุญว่า การทำบุญทุกครั้ง เช่น การได้ช่วยเหลือคน การได้ทำประโยชน์ส่วนรวม ย่อมก่อให้เกิดความปิติดีใจ นั่นแหละคือบุญ ส่วนบุญที่ทำไว้แล้ว มีมากมาย ที่สะสมในสรวงสวรรค์ ทั้งที่ทำไว้ในอดีตชาติหรือในชาตินี้ เราสามารถอุทิศให้แก่ผู้ที่อยู่ในโลกวิญญาณได้ ไม่ว่าศาสนาใด ล้วนมีวิธีสร้างกุศลผลบุญ สะสมคุณงามความดีด้วยกันทั้งหมด เมื่อเกิดบุญกุศล ก็สามารถส่งแผ่ไปถึงโลกทิพย์ได้ด้วยเช่นกัน  ก่อผลลัพธ์แบบเดียวกัน  ซึ่งพุทธศาสนา ต่างจากศาสนาอื่น ตรงที่มีจุดสุดยอดของการหลุดพ้นจากทุกข์ ก็คือ นิพพาน พระครูกิตติ กิติโย เจ้าอาวาสวัดพระศรีเจริญและเจ้าคณะอำเภอหัวตะพาน เทศนาแก่ญาติโยมที่เข้ามาทำบุญ

 


    


สำหรับ วัดพระศรีเจริญ ช่วงนี้ พระภิกษุสงฆ์และคณะกรรมการวัด พร้อมชาวบ้านหัวตะพาน กำลังช่วยกันตกแต่งสถานที่ภายในวัดและโดยรอบ เพื่อจัดงานประเพณีบุญเดือนสี่ ปิดทองพระเจ้าใหญ่ศรีเจริญ ซึ่งเป็นงานประจำปี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 เป็นประจำทุกปี ซึ่งปีนี้ กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 2 – 8 มีนาคม 2563 กิจกรรมในงานประกอบด้วย การทำพิธี สมโภชพระเจ้าใหญ่ศรีเจริญ บวชชีพราม การแห่พระเวสสันดรเข้าเมือง การแสดงพระธรรมเทศนาและการแสดงดนตรีจากศิลปินดังให้ชมอีกด้วย.


สนธยา ทิพย์อุตร/รายงาน

หน้าแรก » ภูมิภาค