ติดเชื้อโควิด19 แปดริ้วพุ่ง 4 ราย น่าห่วงใยจนต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอีก 3 ล่าสุดออกหมายคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคให้กักตัวเองอีก 255 ราย ขู่หากยังดื้อดึงออกมาตระเวนไปทั่วเมือง มีความผิดในอัตราโทษสูงถึงขั้นจำคุก 1 ปีและปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมเตรียมเดินหน้าแจ้งให้บุคคลต้องควบคุมโรคเพิ่มเติมอีกกว่า 100 รายในวันพรุ่งนี้
 
               
วันที่ 20 มี.ค.63 เวลา 21.30 น. ผู้สื่อข่าวได้คลิปภาพข่าว จากการแถลงการณ์ของ นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา จากสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดฉะเชิงเทรา เกี่ยวกับความคืบหน้ากรณีการยืนยันผลผู้ติดเชื้อโรคระบาด ไวรัสโควิด 19 ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ว่ามีการยืนยันผลการตรวจซ้ำแล้วว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมอีก 2 ราย เพิ่มจาก นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา และภรรยา รวมเป็น 4 ราย
 
               
โดยรายแรกที่เพิ่มมานั้น เป็นพนักงานในโรงงานผลิตรถยนต์แห่งหนึ่ง ในนิคมอุตสาหกรรม เกตุเวย์ ซิตี้ ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมีความเชื่อมโยงกันของพนักงาน ไปยังในพื้นที่ จ.ชลบุรี กรุงเทพฯ และสมุทรปราการ จึงได้ประสานไปยังจังหวัดที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยให้ไปทำการควบคุมโรค และกักตัว ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อรายนี้
 
               
ส่วนอีกรายนั้นเป็นผู้ได้รับเชื้อมาจากสนามมวยลุมพินี ในวันเดียวกันกับนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา แต่ไม่ยอมบอกกล่าวหรือเปิดเผยตนเองมาก่อน จนมีอาการป่วยมากแล้ว ก่อนที่จะเข้ามาทำการตรวจรักษายังในโรงพยาบาล และเมื่อทำการตรวจยืนยันผลแล้ว พบว่ามีผลออกมาเป็นบวก ทางจังหวัดจึงได้เข้าทำการควบคุมและสอบสวนโรค
 
               
อีกทั้งยังมีความจำเป็นที่จะต้องกักตัวคนอื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย โดยรายนี้อยู่ในพื้นที่อำเภอห่างไกลของจังหวัด นอกจากนี้ยังมีผู้ที่อยู่ในข่ายต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอีก จำนวน 3 ราย รวมเป็น 7 ราย ขณะที่ทางจังหวัดได้เพิ่มมาตรการควบคุมโรคให้หนักขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ด้วยการออกคำสั่งของพนักงานควบคุมโรคให้ผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อกักตัวเองเพิ่มเติมอย่างเคร่งคัด อีกจำนวน 255 ราย
 
               
โดยหากฝ่าฝืนและยังคงออกไปยังภายนอกบ้านหรือบริเวณสถานที่กักตัว จะใช้มาตรการทางกฎหมายให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามความผิดในอัตราโทษสูง ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีและปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ในขณะเดียวกันในวันพรุ่งนี้ได้เตรียมออกหมายให้บุคคลกักตนเองเพิ่มเติมอีกจำนวนกว่า 100 ราย พร้อมยังระบุด้วยว่า สำหรับผลการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ของผู้ว่าฯ เองนั้น มีการยืนยันผลออกมาเป็นลบแล้ว จึงไม่ต้องกักตัวอีกต่อไปในวันพรุ่งนี้
 
               
ส่วนมาตรการเพิ่มเติมในขณะนี้ ได้มีการประกาศขยายเวลาปิดสำนักงาน อบจ.ฉะเชิงเทรา ออกไปอีกเป็นเวลา 7 วัน หลังจากพบว่ามีพนักงานขับรถยนต์ของ อบจ.ฉะเชิงเทรา ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 อีก 1 รายอยู่ระหว่างรอการยืนยันผล จึงได้ขยายระยะเวลาการปิดสถานที่ อบจ.ฉะเชิงเทรา ออกไปอีกจนถึงวันที่ 27 มี.ค.63 โดยให้ปรับวิธีการปฏิบัติงานเป็นแบบออนไลน์แทน ส่วนสถานบริการที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคทุกประเภท ยังให้ปิดต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค.63
 
               
ขณะเดียวกันทางเว็บไซด์ประชาสัมพันธ์ ของบริษัทโตโยต้ามอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันฉบับแก้ไข ลงวันที่ 20 มี.ค.63 ว่า มีพนักงานในสายสำนักงาน (นอกสายการผลิต) ของโตโยต้า เกตเวย์ จ.ฉะเชิงเทรา จำนวน 1 คน เป็นผู้ติดเชื้อ COVID-19 จากการตรวจครั้งแรก เมื่อวันที่ 17 มี.ค.63  และได้รับการยืนยันผลการตรวจซ้ำในวันที่ 19 มี.ค.63 ว่ามีอาการติดเชื้อ
 
               
จึงได้นำมาแจ้งผลต่อสาธารณชนให้ทราบในครั้งนี้ พร้อมกับได้นำตัวพนักงานเข้ารับการรักษา และดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดภายในองค์กรแล้วในทันที ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข