วันเสาร์ ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567 11:02 น.

ภูมิภาค

อยุธยา พบผู้ติดเชื้อโควิค 3 ราย พร้อมตั้งจุดคัดกรอง 24ชั่วโมง

วันพฤหัสบดี ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563, 13.16 น.
นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แถลงข่าว ข้อมูลผู้ที่มีกลุ่มเสี่ยง ตั้งแต่วันที่ 28มกราคม จนถึงวันที่  25 มีนาคม 2563 พบผู้ที่เข้าเกณฑ์สงสัยสอบสวนโรคยอดสะสม 80 ราย ส่งตรวจ ไม่พบเชื้อโคโรนาไวรัส 71ราย  รอผล 9 ราย นอกจากยังยืนยัน พบผู้ป่วยติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 ยืนยัน จำนวน 3 ราย อยู่ในระหว่างการรักษาดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
 
รายที่ 1 ผู้ป่วยเป็นชายอายุ 58 ปี มีภูมิลำเนาอำเภอมหาราช  มีประวัติเป็นบุคคลทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด 19 กรณีสนามมวยลุมพินี ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ ได้เข้ารับการตรวจที่สถาบันบำราศนราดูร เมื่อวันที่ 23มีนาคม 2563จากนั้น ได้เดินทางกลับในอำเภอมหาราช ต่อมาวันที่ 24 มีนาคม 2563 ผลตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด 19 โรงพยาบาลมหาราชได้ส่งตัว Admit ที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร เรียบร้อยแล้ว
 
 
ผลการสอบสวนโรคผู้ป่วยรายนี้ พบว่า เริ่มป่วยตั้งแต่ 16 มีนาคม 2563 และ กักตัวอยู่ในบ้านพัก โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นผู้อาศัยร่วมบ้าน คือภรรยา ลูกสาว หลานสาว และผู้สัมผัสเป็นบุคลากรทางการแพทย์ 7ราย ได้ส่งตรวจหาเชื้อและได้กักเฝ้าระวังโรคเป็นเวลา 14วัน
 
รายที่ 2 เป็นชายอายุ 23 ปี มีภูมิลำเนาอำเภอวังน้อย มีประวัติทำงานรับเหมาก่อสร้างในอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก และเดินทางกลับมาพักที่หอพักอำเภอวังน้อย ผู้ป่วยรายนี้ เริ่มมีอาการไข้ วันที่ 12มีนาคม 2563 และในวันที่ 18มีนาคม 2563 ไปตรวจหาเชื้อ    COVID-19 ที่ รพ.แพทย์รังสิต พบผลบวก ขณะนี้ผู้ป่วยพักรักษาตัวที่รพ.สามโคก จ.ปทุมธานี
 
ผลการสอบสวนโรค พบว่า มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นผู้อาศัยร่วมบ้าน คือภรรยาผู้ป่วยทำงานโรงงานในจังหวัดปทุมธานี ได้ส่งตรวจหาเชื้อ COVID-19 และให้สังเกตุอาการตนเอง 14 วัน ประสานพื้นที่ในการเฝ้าระวังค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติมความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบโดยเร็ว
 
รายที่ 3 ผู้สัมผัสเชื้อ เป็นชาย พักอาศัยอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี ทำงานในโรงงานอำเภอวังน้อย ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 24มีนาคม 2563 เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัดปทุมธานี  สอบสวนโรคพบผู้สัมผัสคือภรรยา และเพื่อนร่วมงาน จังหวัดปทุมธานี  ได้ส่งตรวจหาเชื้อ COVID-19 และให้สังเกตุอาการตนเอง 14 วัน เป็นกรณีที่ทำงานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และในระหว่างวันที่ 11-12 มีนาคม 2563ได้เดินทางมาประชุม โรงงานจึงได้ให้หยุดงานและกักกันผู้สัมผัส 14 วันแล้ว
 
 
ด้านนายภานุ แย้มศรี. ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขอความร่วมมือชาวกรุงเก่าทุกคน ให้ความร่วมมือในการป้องกันและควบคุมโรคระบาดในครั้งนี้  โดยผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วย หรือสงสัยเสี่ยงติดเชื้อ  ขอให้สังเกตอาการตนเองเป็นเวลา 14 วันหากมีไข้ ร่วมกับอาการไอ เจ็บคอ น้ำมูกหายใจลำบากหรืออย่างใด     อย่างหนึ่ง ให้ไปรับการตรวจรักษาที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านทุกสังกัดได้ฟรี
 
ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด แยกของใช้ส่วนตัว รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ แยกสำรับอาหาร  ถ้าไม่แยกสำรับ ให้ใช้ช้อนกลางส่วนตัว เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลในสังคม อย่างน้อย 1 เมตร  งดการเดินทางที่ไม่จำเป็นโดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยงติดโรค ให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อไปในที่ชุมชน พกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ  หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ  มีน้ำมูก ให้สวมหน้ากากอนามัยรีบไปพบแพทย์ทันที  พร้อมแจ้งประวัติความเสี่ยง 
 
ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเท่านั้น ผ่านทางเสียงตามสายของเทศบาลแต่ละอำเภอหอกระจายข่าวในพื้นที่ของท่าน และ เวบไซต์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เฟสบุคจังหวัด เฟสบุคงานประชาสัมพันธ์  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ในขณะนี้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีสายด่วน โควิด 19 เพื่อบริการประชาชน ครอบคลุมทั้ง 16 อำเภอ ทุกพื้นที่ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนขอให้ตระหนัก แต่อย่าตะหนกครับ และเน้นทุกคนร่วมมือกันตามนโยบายรัฐบาลที่ว่า “ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ 
 
ด้านพล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา. กล่าวขณะได้มีการตั้งจุดคัดกรองประชาชนที่เดินทางผ่านข้ามจังหวัด  2 จุด คือบริเวณหมวดการทางบางปะอิน ขาขึ้น  และ บริเวณตลาดเกรียบ เส้น347 ต.ตลาดเกรียบ. อ.บางปะอิน  จ.พระนครศรีอยุธยาโดยเริ่มตั้งแต่เมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมา. ซึ่งระหว่างนี้อยู่ระหว่างการประเมินผล หากไม่มีกระทบกับประชาชน มากก็มีการตั้งด่านเพิ่มเป็น10 จุด 

หน้าแรก » ภูมิภาค