จากกรณีที่มีหญิงสาวคนหนึ่งสวมชุดพยาบาลแล้ว ไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกับนายตำรวจคนหนึ่ง  เนื่องจากว่า มีการนำเอาภาพดังกล่าวไปลงในเพจเกี่ยวกับแฟนตำรวจ  และมีการเรียกร้องว่า  ให้มีการตรวจสอบว่า หญิงสาวผู้ที่สวมชุดพยาบาลเป็นพยาบาลจริงหรือไม่  อีกทั้งหญิงสาวคนดังกล่าวมีการชุดพยาบาลเต้นรำภายในห้องนอนของตนเองอีกด้วย ปรากฏว่า มีพยาบาลทั่วประเทศเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันมีบุคคลที่รู้จักหญิงสาวผู้ที่สวมชุดพยาบาลให้ข้อมูลว่า  หญิงสาวคนดังกล่าวเรียนจบ ม.3 แต่เวลาผ่านไปไม่นานอ้างว่าเรียนจบพยาบาลและทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง ทำให้ผู้ที่ทำงานอยู่ในแวดวงพยาบาลพากันแสดงความเห็นและวิพากวิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ล่าสุด น.ส.พัด (นามสมมุติ) พยาบาลวิชาชีพที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ได้ออกมาเผยพฤติกรรมของสาวพยาบาลปลอมว่า เป็นสาวเชียร์เบียร์หน้าตาดี อ้างว่าเป็นพยาบาลไปหลอกผู้ชายหลายคนเพื่อเอาทรัพย์สิน ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

 

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 63 ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายแพทย์วราวุธ ชื่นตา  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า  เรื่องนี้ คาดว่าเป็นรายแรกที่มีการแอบอ้างว่าเป็นพยาบาลแล้วนำเอาเครื่องแบบพยาบาลไปใช้ในทางที่มิชอบ แต่ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนั้น จะต้องให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งจากการที่ตนได้ตรวจสอบระเบียบกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วพบว่า  ตาม  ป.อาญา มาตรา 145 ผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการ และตาม พรบ.วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2528 มาตรา 27 ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล หรือมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการผดุงครรภ์ หรือมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ กระทำการพยาบาลหรือการผดุงครรภ์ หรือแสดงด้วยวิธีใด ๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิ์ประกอบอาชีพดังกล่าว โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต  ตาม พรบ.วิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2528  และมาตรา 46 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 27 หรือมาตรา 43 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ทางด้าน แพทย์หญิงเพิ่มศิริ เลอมานุวรรัตน์ ผอ.รพ.ศรีสะเกษ  เปิดเผยว่า  เรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดมีขึ้นได้  เนื่องจากว่า วิชาชีพแพทย์พยาบาลเป็นวิชาชีพที่ต้องปฏิบัติงานตรวจดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยด้วยความเหนื่อยยากลำบาก  เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนที่บาดเจ็บป่วยไข้ต่าง ๆ โดยเฉพาะในช่วงนี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด – 19 แพทย์พยาบาลทุกคนต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อรักษาผู้ป่วย  เกี่ยวกับเรื่องนี้ ตนเห็นว่า สภาการพยาบาลควรที่จะมีการดำเนินการหรือว่ามีมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่มีสิทธิ์มีการสวมใส่ชุดพยาบาลอย่างไม่มีสิทธิ์และไม่ถูกต้องตามระเบียบกฎหมายอีกต่อไป