ช่องส่องผีฝันร้าย พ.ร.บ.คอมฯตำรวจโคราชรวมรวมพยานหลักฐานไปเรื่อยๆ รอคณะ กสทช.ชุดใหญ่ประชุม 16 ก.ค. แล้วจะฟันธงได้ว่าผิดประเด็นใดบ้าง ยืนยันไม่หนักใจ ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เผยจัดตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ และชุดควบคุมฝูงชน เกือบ 100 นายดูแลให้เกิดความเรียบร้อย  
 
             
นครราชสีมา วันนี้(15 กรกฏาคม 2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่รายการช่องส่องผีกล่าวหาว่า ย่าบุญเหลือซึ่งเป็นลูกสาวบุญธรรมของคุณย่าโม เป็นภรรยาของปลัดทองคำ เจ้าเมืองนครราชสีมา ส่วนคุณย่าโมเป็นภรรยาหลัก ย่าบุญเหลือเป็นภรรยาสอง ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นในจังหวัดนครราชสีมาเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่มีการตำหนิวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม และนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมาสั่งการให้วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาไปประสานกับลูกหลานของคุณย่าบุญเหลือ เพื่อให้แจ้งความดำเนินคดีกับรายการดังกล่าวในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งต่อมาสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จ.นครราชสีมาพร้อมสภาทนายความ จ.นครราชสีมาได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมถึงสุดกลุ่มสตรี 25 ตำบลอำเภอเมือง-กลุ่มสตรีกาชาดได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีข้อหาเดียวกัน ในการนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ กรณีกล่าวอ้างดูหมิ่นย่าโม ย่าบุญเหลือ และบิดเบือนประวัติศาสตร์ สร้างความโกรธเคืองแก่ชาวโคราชกับผู้บริหารช่องส่องผีแล้วตามที่ข่าวเสนอไปแล้วนั้น
 
           
ล่าสุดเมื่อช่วงสายวันนี้( 15 ก.ค. 2563) พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าในส่วนที่สมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านและกลุ่มสตรีร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมาไว้ในเรื่อง พ.ร.บ.คอมฯ ว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานไปเรื่อยๆ และรับเรื่องไว้ทั้งหมด ทั้งกลุ่มของสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน สภาทนายความจ.นครราชสีมา กลุ่มสตรีอำเภอเมือง 25 ตำบล กลุ่มสตรีกาชาดจ.นครราชสีมา และไม่ว่ากลุ่มไหนหรือใครที่จะมาแจ้งความตำรวจก็รับเรื่องไว้ทั้งหมด แต่คราวนี้สุดท้ายแล้วต้องรอผลการประชุมของทางคณะของ กสทช. ชุดใหญ่ ซึ่งตนทราบว่าจะมีการประชุมกันวันที่ 16 ก.ค. 2563 ที่กรุงเทพฯ โดยคณะกรรมการ กสทช.ได้มีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ดำเนินรายการทั้งหมด และรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับเรื่องการออกอากาศ เนื้อหาต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรมซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่เกิดขึ้นมารับฟังการชี้แจง และวันนั้นเราจะได้ข้อสรุปว่า เป็นความผิดตามกฎหมายในประเด็นใดบ้าง ซึ่งตอนนี้ก็คือต้องรอ โดยคิดว่าภายหลังจาก กสทช.สรุป ตรงนั้นตำรวจก็จะประสานเรื่องข้อมูลมาประกอบด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อจะดำเนินการอย่างไรต่อไปบ้าง ส่วนจะต้องสอบคำให้การผู้ที่มาร้องทุกข์กล่าวโทษทั้งหมดทุกคนอะไรนั้น เรื่องนี้เราต้องรอวันที่ 16 ก.ค.นี้ก่อน แต่ไม่จำเป็นต้องสอบหมดทุกคน เพราะตำรวจจะดูตามพยานหลักฐาน
 
             

ทั้งนี้ยืนยันว่าเป็นหน้าที่ปรกติที่ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายอยู่แล้ว ส่วนกลุ่มต่างๆที่มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นเรื่องการออกอากาศ ซึ่งเป็นคดีเดียว ส่วนที่ชาวโคราชมีความรู้สึกโกรธแค้นที่มาลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เขาเคารพศรัทธานั้น ตำรวจก็ไม่ได้หนักใจอะไร เราทำตามหน้าที่อยู่แล้ว ส่วนเรื่องกฎหมาย พ.ร.บ.คอมฯการจะเอาผิดจะติดขัดอะไร และพร้อมที่จะโอนให้ทาง ดีเอสไอ.อะไรนั้น เรื่องนี้ต้องรอผลการพิจารณาก่อน ขอให้ใจเย็นนิดนึง ส่วนที่ทางผู้ดำเนินรายการยืนยันแล้วว่าในวันที่ 19 ก.ค. เวลา 14.00 น.จะมาขอขมาที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และที่วัดศาลาลอย การจัดกำลังดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย เรามีการเตรียมกำลังไว้แล้วทั้ง 2 จุด ทั้งในและนอกเครื่องแบบ และชุดควบคุมฝูงชน เกือบ 100 นาย เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในการทำงานในวันนั้น ส่วนที่เกรงว่าจะวุ่นวายเพราะคนโคราชมีความโกรธแค้นนั้น เรื่องนี้ตนคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และคิดว่าคนโคราชน่าจะให้อภัย เพราะถ้าเขามาขอขมาลาโทษและยอมรับผิดหรืออะไร แต่ตำรวจก็คงต้องดูเหตุการณ์ในวันนั้น