ที่ อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่จากแขวงการทางหลวงชนบทเร่งสร้างสะพานแบรี่ช่วยชาวบ้านเพื่อให้รถยนต์และรถจยย.สามารถข้ามไปมาได้ นายกอบต.ห่วงอ่างเก็บน้ำมีปริมาณน้ำจุเต็มที่แล้ว หากฝนตกลงมาอีก กลัวเขื่อนรับน้ำไม่ไหว เขื่อนอาจแตกได้
 

หลังจากที่อิทธิพลของพายุโซนร้อน ซินลากู (SINLAKU) ทำให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ใน 3 วันที่ผ่านมา ทำให้พื้นที่จังหวัดอุดรธานี ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก โดยเฉพาะที่ อ.น้ำโสม ที่มีน้ำป่าจาก ภูเขารอยต่อ จ.เลย ได้ไหลลงลำห้วยโสม ท่วมบ้านเรือนประชาชน และที่ บ้านนาเมืองไทย ต.น้ำโสม ควาทแรงของกระแสน้ำ ทำให้น้ำพัดสะพานที่เป็นบล็อคคอนเวิร์สข้ามลำห้วย พังเสียหาย มีราษฎรบ้านนาเมืองไทย และอีกหลายหมู่บ้าน ได้รับผลกระทบประมาณ 60 หลังคาเรือน เนื่องจากไม่สามารถใช้รถข้ามไปมาได้ โดยชาวบ้านได้นำไม้ไผ่มาผูกยึดกับราวเหล็กของตัวสะพาน เพื่อให้เดินข้ามไปมาได้

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ว่า หลังจากระดับน้ำในลำห้วยโสมลดลง นายอัมพร เทศศรีเมือง นายก อบต.น้ำโสม  อ.น้ำโสม ได้ลงพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน บ้านนาเมืองไทย ฝั่งทิศตะวันตก ที่อยู่อีกฝากของสะพาน โดยประสานไปยังแขวงทางหลวงชนบทอุดรธานี นำสะพานแบรี่มาติดตั้งเป็นการชั่วคราว เพื่อให้รถยนต์ และ รถ จยย.สามารถข้ามไปมาได้ และจะได้เตรียมซ่อมแซมสะพายถาวรต่อไป ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ของแขวงทางหลวงชนบท กำลังเร่งติดตั้งสะพาน คาดว่าจะเสร็จในวันพรุ่งนี้

นอกจากนี้ นายอัมพรฯ นายก อบต.น้ำโสม บอกอีกว่า ขณะนี้เป็นห่วงที่อ่างเก็บน้ำบ้านนาเมืองไทย ความจุประมาณ 5 แสน ลบ.ม. เป็นส่วนหนึ่งของต้นน้ำลำน้ำโสม ที่ทาง อบต.น้ำโสม รับมาดูแลจากทางชลประทานนานมากแล้ว โดยใช้งบอุดหนุนและงบประมาณมาดูแลอ่างฯ ที่ขณะนี้น้ำในอ่างฯบ้านนา เมืองไทยเต็มอ่าง และยังมีน้ำไหลเข้าอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งน้ำได้ระบายออกทางฝายน้ำล้น และระบายออกทางท่อระบายน้ำออก ขณะนี้มีความเป็นห่วงว่า หากมีพายุเข้ามาอีกในช่วงนี้ และเกิดฝนตกหนักเหมือนพายุชินลากูอีก อาจจะทำให้อ่างเก็บน้ำรั่วแตกได้ ขึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบระดับน้ำ และรายงานมายังตนทุก 1 ชั่วโมง หากมีน้ำเข้ามากกว่าปกติ จะได้เร่งหาทางป้องกันและแก้ไข เร่งเปิดทางระบายน้ำออกทันที