เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ส.ค. 2563 นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายก อบจ.ปทุมธานี และนายสายัณ นพขำ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง ได้ลงพื้นที่ตรวจดูโครงการซ่อมแซมผิวถนนเส้นทางปทุมธานี-รังสิต ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ซึ่งพบว่าสภาพถนนเป็นเส้นทางหลักที่ประชาชนใช้สัญจร ซึ่งในเวลาเร่งด่วนจะมีรถใช้เส้นทางจำนวนมากทำให้รถติดเป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร โดยโครงการดังกล่าว เป็นการจ้างเหมาทำงานบูรณะทางผิวคอนกรีต ทางหลวงหมายเลข 346 ตอนสะพานคลองเปรม สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาปทุมธานี ระหว่าง กม.7+500-กม.10+200 ด้านทางขวา (เป็นช่องๆ) ปริมาณงาน 12,900 SQM. เลขที่สัญญาเลขที่ ปท.19/2563 เริ่มสัญญาวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 9 กันยายน 2563 ระยะเวลา 120 วัน วงเงินค่าก่อสร้าง 18,744,000 บาท

 

ช่วงทางขึ้นสะพานปทุมธานีมีการติดตั้งแท่งแบริเออร์จาก 3 เลนเหลือ 1 เลนครึ่งพร้อมไหล่ทาง ทำให้การจราจรช่วงเวลาเร่งด่วนติดเป็นทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร และที่ใต้สะพานปทุมธานีเป็นที่กลับรถแต่ทางผู้รับเหมาไม่ได้ใช้สแลนคลุมไว้ทำให้หินที่ผู้รับเหมาเจาะตรงร่องกลางสะพานตกสู่พื้นถนนด้านล่างได้สร้างความเสียหายแก่รถที่กลับรถใต้สะพานภายหลังได้มีการตั้งกรวยไว้เพื่อไม่ให้รถภายแต่หินก็ยังกระเด็นโดนรถอยู่ดี

 

ด้าน นาย ชาญ พวงเพ็ชร์ นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ตนได้นัดกับแขวงการทาง ผู้การปทุมธานี และนายสายัณ นพขำ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านกลาง พร้อมฝ่ายดูแลเรื่องถนนตรงจุดนี้เพื่อมาประชุมเปิดช่องทางบนสะพานปทุมอีก 1 เลน เพราะประชาชนเดือดร้อนอย่างมากและการทำถนนไม่ใช่อาทิตย์นึงเสร็จเท่าที่ตนเห็นผู้รับเหมาไม่ได้มาคุมงานเองมีแต่ลูกน้องมาทำ และมาทำแค่ 5 คน ไม่มีกะกลางคืนมันจะยิ่งล่าช้า ถ้าทำแบบนี้จะยิ่งเสียเวลา ในความเห็นตนและนายกสายัณ นพขำ คิดว่าผู้รับเหมาต้องเปิดเส้นทางฝั่งซ้ายและขวา ปิดถนนแค่ช่องที่ทำงานแค่นั้นให้รถผ่านได้ มันจะผ่อนหนักผ่อนเบาให้รถได้สัญจรไปมาได้เพราะถ้าผู้รับเหมาไม่แก้ไขตรงนี้ คงไม่ไหวประชาชนเดือดร้อนหนักมากตนเห็นประชาชนเดือดร้อนแบบนี้ไม่ได้ ทุกคนต้องมาช่วยกันไม่ว่าจะเป็นแขวงการทางหรือผู้รับเหมา ตอนนี้ตนก็มายืนรอแขวงการทาง ผู้รับเหมาและท่านผู้การเพื่อจะเปิดถนนอีกเลนให้พี่น้องประชาชนได้คลายความเดือดร้อนลงไปบ้าง