ตำรวจจราจรเมืองบุรีรัมย์ ถึงกับอึ้ง หลังพบเด็กวัย 5-10 ขวบขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างบรรทุกกันมา 7 คน รถไม่มีสัญญาณไฟ สอบถามพบจะไปหากบหลังฝนตก หากดำเนินคดีพ่อแม่ต้องรับผิดชอบด้วย จึงได้แค่ว่ากล่าวตักเตือนแล้วปล่อยตัวไป เตือนผู้ปกครองดูแลบุตรหลาน

วันที่ 15 ก.ย.63 ตำรวจจราจร สภ.เมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นำคลิปภาพเด็กอายุตั้งแต่ 8-10 ปี จำนวน 7 คน ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มาด้วยกันในสภาพไม่สวมเสื้อ รถไม่มีไฟหน้า ไม่มีไฟท้าย พร้อมกับกล่าวตักเตือนถึงอันตรายบนท้องถนน ในช่วงที่ตำรวจตั้งจุดตรวจในเวลากลางคืน

สอบถามดาบตำรวจชุติเทพ ราชวิชา ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมือง บุรีรัมย์ และนักจัดรายการวิทยุ ซึ่งเป็นผู้พบเห็นระหว่างตั้งด่านตรวจ ถนนเส้นบุรีรัมย์-ประโคนชัย บริเวณหน้าวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์ เมื่อเวลา 22.00 น. (14 ก.ย.) ที่ผ่านมา ระบุว่า

ช่วงนั้นได้มีการตั้งจุดตรวจตามปกติ ในเวลาดังกล่าว ได้มีรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง ขับมาจึงให้เรียกให้จอดเพื่อตรวจสอบ ยอมรับว่าตกใจเมื่อเห็นภาพที่มีเด็กอายุตั้งแต่ 5-10 ปี ส่วนใหญ่ไม่สวมเสื้อ นั่งอัดกันมาแน่นรถรวม 7 คน

และที่น่าตกใจนอกจากจะเป็นเวลาที่เด็กไม่น่าจะออกจากบ้านแล้ว ยังพบว่ารถจักรยายนต์ที่เด็กขับมา ไม่มีไฟหน้า ไม่มีไฟท้าย และไม่มีไฟเลี้ยว เมื่อสอบถามเด็กทราบว่า หลังจากฝนหยุดตกเด็กได้พากันออกจากบ้านเพื่อจะไปหากบหาเขียด

เหตุผลที่เด็กอ้าง เด็กไม่ได้โกหก ตามวิถีของชาวบ้านต่างจังหวัด เมื่อมีฝนตกลงมา ก็จะออกไปหากบหาปลา มาเป็นกับข้าว ซึ่งเด็กอาจจะได้รับการซึมซับ จากพ่อแม่มา จึงได้ทำการว่ากล่าวตักเตือนสั่งสอน แล้วให้ตำรวจจราจรขับรถไปส่งที่บ้านซึ่งห่างจากด่านประมาณ 3 กม. พร้อมกับตักเตือนผู้ปกครองเด็กว่าไม่ควรปล่อยปะละเลย

ดาบตำรวจชุติเทพ กล่าวด้วยว่า จากสถิติทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-15 ก.ค.63 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุมากกว่า 500 ราย ถ้าเอามาเปรียบเทียบกับโรคโควิด-19 ยังห่างกันมาก จึงอยากจะให้ผู้ใช้รถใช้ถนนให้ระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หรืออาจจะใช้คำว่า”การ์ดไม่ตก”ที่ใช้กับการป้องกันโรคโควิด-19 น่าจะเป็นเรื่องที่ดี