ชาวบ้านตามชุมชนต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย เร่งทำกระทงสายจากกะลามะพร้าว เพื่อใช้ลอยบูชาพระธาตุกลางน้ำและบูชาพญานาค ในวันออกพรรษา ในขณะที่เทศบาลเมืองหนองคาย จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นสัมผัสและถ่ายรูปที่ระลึกบน Giant Tree & River Walk ต้นไม้ยักษ์จุดชมวิวริมแม่น้ำโขงมุมสูง ที่อยู่ภายในบริเวณถนนคนเดินริมโขง พร้อมเปิดไฟแสงสีเต็มระบบ ตลอดช่วงงานประเพณีออกพรรษา “บั้งไฟพญานาค” หลังได้มีการทดลองเปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

 

บรรยากาศก่อนถึงวันออกพรรษาที่จังหวัดหนองคายเริ่มคึกคัก ชาวบ้านที่อยู่ตามชุมชนต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขง ได้เร่งทำกระทงจากกะลามะพร้าวเพื่อจะนำไปลอยเป็นกระทงสาย บูชาพระธาตุกลางน้ำและบูชาพญานาค ในคืนวันที่ 2 ตุลาคม 63 ที่เป็นวันออกพรรษา ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีกระทงสายที่ทำจากกะลามะพร้าวและกระทงกาบกล้วย ลอยบูชาพระธาตุกลางน้ำและบูชาพญานาคา มากกว่า 3 พันกระทง

 

 

ส่วนเทศบาลเมืองหนองคาย ในช่วงงานประเพณีออกพรรษา “บั้งไฟพญานาค” ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2563 เป็นต้นไป ก็จะมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้า และพักผ่อนภายในตลาดแคมของ ได้ขึ้นสัมผัส Giant Tree & River Walk ต้นไม้ยักษ์จุดชมวิวริมแม่น้ำโขงมุมสูง จุดเช็คอินแห่งใหม่ ที่หนึ่งในสองแห่งอยู่ภายในบริเวณถนนคนเดินริมโขงในยามค่ำคืน พร้อมเปิดไฟแสงสีเต็มระบบ หลังจากในวันที่ 5 กันยายน 63 ที่ผ่านมาได้มีการทดลองเปิดให้นักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวในตลาดแคมของได้ขึ้นสัมผัสบน Giant Tree & River Walk ในยามค่ำคืนอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวขึ้นไปสัมผัสบน Giant Tree & River Walk กันเป็นจำนวนมาก มีการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกบน Giant Tree & River Walk ก่อนจะส่งต่อเข้าในโลกโซเชียล ทำให้มีนักท่องเที่ยวรู้จักและเดินทางเพื่อมาสัมผัส Giant Tree & River Walk เพิ่มมากขึ้น ซึ่งหลังงานประเพณีออกพรรษา “บั้งไฟพญานาค” ก็จะมีการปรับปรุงเพิ่มเติมในส่วนของพื้นที่เป็นตะแกรงโดยนำเหล็กแผ่นมาเสริมเพื่อความมั่นคงแข็งแรงและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว แต่ในช่วงนี้ก็จะมีเจ้าหน้าที่ของเทศบาลเมืองหนองคาย ดูแลและให้คำแนะนำ จัดระเบียบนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปสัมผัสบน Giant Tree & River Walk อย่างใกล้ชิด

 

 

สำหรับ Giant Tree & River Walk หรือต้นไม้ยักษ์จุดชมวิวแม่น้ำโขงมุมสูง ได้ต้นแบบมาจากประเทศสิงคโปร์ แต่มีขนาดเล็กกว่าประมาณ 3 เท่า ก่อสร้างขึ้นภายใต้โครงการพัฒนาและปรับปรุงตลาดท่าเสด็จ ได้รับงบประมาณจากกลุ่มจังหวัด มีความสูงจากพื้นถึงยอด 14.50 เมตร ความสูงของบริเวณที่ให้นักท่องเที่ยวได้ยืนชมวิว 5 เมตร ด้านบนเหนือจุดให้ยืนชมวิวมีตะแกรงสี่เหลี่ยมทำเป็นชั้นเปรียบเสมือนกิ่งก้านสาขาของต้นไม้ จำนวน 3 ตะแกรง มีพื้นที่ในการยืนชมวิวกว้าง 15 เมตร ยาว 20 เมตร โดยมีการก่อสร้าง 2 แห่ง คือริมแม่น้ำโขงใกล้กับท่าเรือหายโศก และริมแม่น้ำโขงในเขตชุมชนวัดศรีเมือง อยู่ด้านหัวและด้านท้ายของตลาดอินโดจีนหรือตลาดท่าเสด็จ สร้างขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในบริเวณตลาดท่าเสด็จ ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยงาม และเป็นจุดเช็คอินในการถ่ายรูปที่ระลึก ซึ่งทั้งสองจุดที่เลือกในการก่อสร้าง Giant Tree & River Walk ไม่มีบ้านเรือนประชาชนบดบัง ทำให้สามารถมองเห็นได้ทั้งสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 และมองเห็นพระธาตุหล้าหนอง หรือพระธาตุกลางน้ำจำลอง และในตอนกลางคืนก็จะมีการเปิดไฟแสงสีสวยงาม ทั้ง 2 แห่งใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวม 5 ล้านบาท

 

 

ส่วนตลาดแคมโขงหรือถนนคนเดินริมโขง ที่ดำเนินการและอยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลเมืองหนองคาย ที่เริ่มจากบริเวณถนนริมเขื่อนป้องกันตลิ่ง จากท่าเรือหายโศก จนถึงตลาดท่าเสด็จ ที่ปกติจะมีร้านค้าทั้ง 2 ฝั่งกว่า 500 ร้าน ระยะทางประมาณ 1 กม.ที่เทศบาลเมืองหนองคาย จัดให้มีขึ้นทุกคืนวันเสาร์เวลาตั้งแต่ เวลา 16.00 – 22.00 น. นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ออกมาเดินจับจ่ายซื้อหาสินค้า พักผ่อน รับประทานอาหาร และถ่ายรูปกับทิวทัศน์ริมฝั่งโขงยามค่ำคืน กันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนยามค่ำคืนเพียงแห่งเดียวในจังหวัดหนองคาย.