ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการแห่พุ่มกฐินสามัคคีทางน้ำ  ของวัดชลธารหรือวัดบางเบิด ม.2 ต.บางไทร อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานีที่ย้อนยุคไปในอดีตชาวบ้านจะนั่งเรือแห่พุ่มกฐินมาทำบุญแต่ปัจจุบันถนนหนทางไปมาสะดวก การสัญจรทางน้ำจึงลดน้อยลง ปีนี้ทางผู้จัดงานจึงขอย้อนยุคแบบชาวบ้าน โดยมีธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน )เป็นเจ้าภาพทอดกฐิน 

 

 

และที่สำคัญปีนี้ที่วัดชลธาร มีทหารเรือมาตั้งกองอำนวยการ ร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะบริเวณอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี ทางผู้บังคับบัญชาจึงอนุญาตให้นำเรือทหารเข้ามามีส่วนร่วม ชาวบ้านชอบอกชอบใจอย่างมาก รำกลองยาวกันบนลำเรือ  โดยมีเรือทหารนำล่องไปตามลำคลองก่อนขึ้นฝั่งรำรอบโบสถอีก 3 รอบ และถวายพุ่มกฐิน  ส่วนคนที่ไม่ได้ลงเรือก็ร่วมรำกลองยาวบนฝั่ง และถ่ายรูปเช็คอิน  นอกจากนั้นทางวัดยังมีอาหารกลางวันเลี้ยงแก่ผู้ร่วมบุญอีกด้วย

 

 

ซึ่งงานบุญทอดกฐินครั้งนี้ มีผู้ร่วมบุญจำนวนมาก ยอดเงินทำบุญสุทธิได้ถึง 1,351,431 บาท สมทบทุนก่อสร้างเมรุไฟฟ้า(เตาเผาไร้มลพิษ)ของ วัดชลธาร ทั้งนี้เมรุของวัดชลธาร ได้สร้างมาเป็นเวลานานหลายสิบปีการก่อสร้างสมัยนั้นวัดชลธาร ใช้คนตอกเสาเข็ม ซึ่งไม่มีมาตรฐานเท่าที่ควรจึงทำให้เมรุเกิดการชำรุดทรุดโทรมเร็วกว่าเวลาอันควร ปัจจุบันการเผาศพให้หมดนั้น ต้องใช้เวลานาน กว่า 4 ชั่วโมง จึงทำให้ เกิดควันและ ส่งกลิ่นเหม็น ทำให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณวัด ประกอบกับปัจจุบันชาวบ้านใช้เส้นทางคมนาคมทางถนนเพื่อรับส่ง นักเรียน เป็นหลัก ดังนั้นเพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเมรุของวัดชลธารให้เหมาะสม กับสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในปัจจุบัน จึงได้จัดกฐินสามัคคีขึ้นดังกล่าว.